SMPC ท็อปฟอร์มต่อเนื่อง กำไรโตเฉียด 14% รายได้อยู่ที่ 5,248 ลบ. ชงจ่ายปันผลครึ่งปีหลัง 0.40 บาท/หุ้น ปี 66 เป้ายอดขายโต 10-15%
SMPC ประกาศผลงานปี 2565 กวาดยอดขาย 5,248.02 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.3% มีกำไรสุทธิ 828.88 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.9% เมื่อเทียบกับปีก่อน ด้านบอร์ดไฟเขียวเสนอผู้ถือหุ้น จ่ายเงินปันผลงวดครึ่งปีหลังอีก 0.40 บาท/หุ้น กำหนดจ่ายเงินปันผล 28 เมษายนนี้ ปักธงยอดขายปี 2566 โต 10-15% ลุยตลาดถังแก๊สขนาดใหญ่และถังประเภทอื่นมากขึ้น อีกทั้งยังเดินหน้าขยายตลาดใหม่ต่อเนื่อง
นายสุรศักดิ์ เอิบสิริสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัท สหมิตรถังแก๊ส จำกัด (มหาชน) หรือ SMPC ประกอบธุรกิจผลิตถังทนความดันแบบต่างๆ โดยผลิตภัณฑ์หลักเป็นถังสำหรับบรรจุแก๊สปิโตรเลียมเหลว (LPG) เพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงหุงต้ม และสำหรับใช้เป็นแหล่งพลังงานรถยนต์ โดยจำหน่ายภายในและต่างประเทศ ภายใต้เครื่องหมายการค้า “SMPC” รวมทั้งรับจ้างผลิตภายใต้เครื่องหมายการค้าต่างๆ เปิดเผยว่า สำหรับผลประกอบการของบริษัทฯ งวดปี 2565 บริษัทฯ มียอดขายรวมอยู่ที่ 5,248.02 ล้านบาท โดยยอดขายเพิ่มขึ้น 697.67 ล้านบาท หรือ 15.3%เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มียอดขาย 4,550.35 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิงวดปี 2565 อยู่ที่ 828.88 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 101.10 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 13.9% จากงวดปี 2564 ที่มีกำไร 727.78 ล้านบาท สาเหตุที่ยอดขายและกำไรเพิ่มขึ้น เนื่องจากความต้องการของลูกค้ายังคงมีอย่างต่อเนื่อง จากลูกค้าในทวีปแอฟริกา ตะวันออกกลาง รวมถึงลูกค้าในประเทศ นอกจากนี้ ต้นทุนวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ทำให้มีการปรับราคาขายเพิ่มขึ้นให้สอดคล้องกับราคาวัตถุดิบ ประกอบกับค่าเงินบาทที่อ่อนค่าประมาณ 8% ส่งผลให้บริษัทที่มียอดขายต่างประเทศกว่า 90% ได้ประโยชน์ในฐานะผู้ส่งออก ทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้น
ผลประกอบการออกมาเป็นที่น่าประทับใจทั้งรายได้และกำไรสุทธิ โดยกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 254.85 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 23.3% จาก 1,094.06 ล้านบาท เป็น 1,348.90 ล้านบาท โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ 25.7% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 24.0% เนื่องจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นจากการปรับราคาขายให้สอดคล้องกับต้นทุนวัตถุดิบ และสัดส่วนการขายถังที่มีผู้ผลิตน้อยรายเพิ่มขึ้นทำให้ทำราคาได้เพิ่มขึ้น ประกอบกับค่าเงินบาทต่อดอลลาร์อ่อนลง ทำให้อัตราการทำกำไรสูงขึ้น
ทั้งนี้ เพื่อสะท้อนความเชื่อมั่น และตอบแทนผู้ถือหุ้น ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติให้เสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติจ่ายเงินปันผล สำหรับผลการดำเนินงานงวดปี 2565 ให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ในอัตราหุ้นละ 1.00 บาท ซึ่งได้จ่ายปันผลระหว่างกาลไปแล้วสำหรับงวด 1 มกราคม – 30 มิถุนายน 2565 ในอัตราหุ้นละ 0.60 บาท เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2565 ยังเหลือเงินปันผลจ่ายสำหรับงวด 1 กรกฎาคม – 31 ธันวาคม 2565 ในอัตราหุ้นละ 0.40 บาท หรือคิดเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้นไม่เกิน 214,202,534 บาท กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล (Record date) วันที่ 10 เมษายน 2566 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 28 เมษายน 2566
สำหรับแผนธุรกิจในปี 2566 บริษัทคาดยอดขายจะเติบโต 10-15% จากปี 2565 โดยการเติบโตจะมาจากทั้งถังขนาดใหญ่และถังขนาดเล็ก รวมไปถึงการขยายการผลิตไปรับงานที่เป็นส่วนของถังขนาดใหญ่และถังประเภทอื่นเพิ่มมากขึ้น ซึ่งยังมีความต้องการในตลาดอยู่อีกมาก ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่จะกระจายความเสี่ยง รวมถึงการรักษาระดับมาร์จิ้นของบริษัทให้ดีขึ้นได้โดยบริษัทยังคงเดินหน้ากระจายความเสี่ยงทางธุรกิจโดยขายสินค้าที่หลากหลาย รุกตลาดผู้ผลิตน้อยราย เพื่อสามารถเป็นผู้นำในตลาด รวมถึงบุกตลาดใหม่ๆ เพื่อขยายส่วนแบ่งการตลาด โดยบริษัทเชื่อว่าการเติบโตยังมีต่อเนื่อง เพราะดีมานด์ถังแก๊สยังมีความต้องการอยู่มากในหลายภูมิภาค