บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):

Saksiam Leasing (SAK.BK/SAK TB)

ผลประกอบการ 4Q65: สัดส่วน NPL ยังสูงอยู่

Event

กำไรสุทธิของ SAK ใน 4Q65 อยู่ที่ 211 ล้านบาท (+23% QoQ, +14% YoY) ในขณะที่กำไรสุทธิในปี 2565 อยู่ที่ 712 ล้านบาท (+17% YoY) ดีกว่าประมาณการเต็มปีของเรา 11% เพราะค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน และการตั้งสำรองต่ำกว่าที่เราคาดไว้

Impact

กำไรเพิ่มขึ้นทั้ง QoQ และ YoY

กำไรเพิ่มขึ้น QoQ เป็นเพราะบริษัทตั้งสำรองลดลงอย่างมาก ในขณะที่กำไรที่เพิ่มขึ้น YoY เป็นเพราะสินเชื่อขยายตัวในระดับปานกลาง (+23% YoY) แต่หากไม่รวมค่าใช้จ่ายในการตั้งสำรอง กำไรก่อนหักสำรองของ SAK จะเพิ่มขึ้น 8% QoQ และ 11% YoY ใน 4Q65

ประเด็นสำคัญที่น่าสนใจใน 4Q65

การที่บริษัทขยายสาขาเพื่อเพิ่มจำนวนลูกค้าใหม่ ทำให้พอร์ตสินเชื่อของ SAK ขยายตัว 4% QoQ และ 23% YoY เป็น 1.07 หมื่นล้านบาทใน 4Q65 ซึ่งชะลอตัวลงจากไตรมาสก่อนๆ จากการปล่อยกู้แบบระมัดระวัง ทั้งนี้ บริษัทไม่ได้เปิดสาขาใหม่เพิ่มเลยใน 4Q65 เช่นเดียวกับใน 3Q65 และ 4Q64 ดังนั้น จำนวนสาขาที่เปิดใหม่ทั้งหมดในปี 2565 จึงเท่ากับ 209 สาขา (จาก 201 สาขาที่เปิดใหม่ในปี 2564) โดย yield สินเชื่อใน 4Q65 ยังทรงตัว QoQ อยู่ที่ 24.01% แต่ลดลง 37bps YoY จากใน 4Q64 และลดลง 42bps ในปี 2565 ในขณะที่ต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้นเป็น 3.86% ใน 4Q65 จาก 3.42% ใน 3Q65 และ 2.90% ใน 4Q64 องจากต้นทุนการทำ refinance เพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกัน สัดส่วนต้นทุนต่อรายได้อยู่ที่ 51.8% จาก 54.1% ใน 3Q65 และ 48.0% ใน 4Q64 ซึ่งทำให้สัดส่วนต้นทุนต่อรายได้ในปี 2565 อยู่ที่ 52.9% ต่ำกว่าสมมติฐานของเราที่ 54.9%

สัดส่วน NPL ยังสูงอยู่ที่ 2.5%

เนื่องจากเงินเฟ้อสูง และมีการเร่งขยายพอร์ตสินเชื่อในช่วงก่อนหน้านี้ สัดส่วน NPL จึงยังคงอยู่ที่ 2.5% ใน 4Q65 (จาก 2.6% ใน 3Q65 และ 2.2% ใน 4Q64) ทั้งนี้ Credit cost ลดลงเหลือ 0.8% ใน 4Q65 (จาก 1.7% ใน 3Q65 และ 1.0% ใน 4Q64) และ 1.2% ในปี 2565 ซึ่งต่ำกว่าสมมติฐานของเราที่ 1.5% ในขณะที่สัดส่วน NPL coverage อยู่ที่ 105% ใน 4Q65 (จาก 105% ใน 3Q65 และ 109% ใน 4Q64) และ 115% ในปี 2565

คณะกรรมการของ SAK อนุมัติจ่ายเงินปันผล

คณะกรรมการของบริษัทอนุมัติจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานปี 2565 ที่ 0.137 บาท/หุ้น กำหนดขึ้น XD วันที่ 28 เมษายน 2566 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 18 พฤษภาคม 2566

Valuation and action

เราคาดว่าปัจจัยเดียวที่จะช่วยขับเคลื่อนกำไรของบริษัทในปี 2566F คือการขยายสาขา ซึ่งจะทำให้พอร์ตสินเชื่อใหญ่ขึ้น แต่เราคิดว่าบริษัทอาจจะขยายสินเชื่อใหม่แบบระมัดระวังเพื่อบริหารจัดการ NPLs ในขณะเดียวกัน เรายังไม่เห็นช่องที่จะทำให้ yield เพิ่มขึ้น ในขณะที่บริษัทยังจะถูกกดดันจากต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้น ดังนั้น เราจึงยังคงคำแนะนำ Underperform โดยประเมินราคาเป้าหมายปี 2566 ที่ 5.60 บาท (PE ที่ 16x)

Risks

อุปสงค์สินเชื่อชะลอตัวเพราะเศรษกิจฟื้นตัวช้า, yield สินเชื่อลดลง, NPLs เพิ่มขึ้น

- Advertisement -