บล.กรุงศรีฯ:
VGI (VGI TB/ VGI.BK)
กลุ่มอุตสาหกรรม | บริการ |
หุ้น | VGI |
มูลค่าพื้นฐาน | 5.50 |
คำแนะนำ | BUY |
เรายังคงคำแนะนำซื้อ VGI โดยประเมินราคาเป้าหมายที่ 5.50 บาท ถึงแม้ว่า SG&A จะสูงขึ้นใน 3QFY23 ผิดคาด และน่าจะยังคงฉุดผลประกอบการใน 4QFY23 โดยเราคาดว่าผลประกอบการใน 4QFY23 อาจจะพลิกมาเป็นขาดทุนอีกครั้งจากที่มีกำไรใน 3QFY23 อย่างไรก็ตาม เรายังเห็นสัญญาณบวกของสื่อ OOH เพราะมีโอกาสมากขึ้นที่รายได้จะกลับไปอยู่ระดับก่อน COVID ระบาด และจะมีรายได้มากขึ้นจากการเปิดดำเนินการรถไฟฟ้าสายสีชมพูและเหลืองในเดือนมิถุนายน
แนวโน้มดูไม่น่าตื่นเต้นในระยะสั้น
VGI จัด conference call กับนักวิเคราะห์ช่วงบ่ายวานนี้ เพื่อชี้แจงงบ 3QFY23 และเล่าถึงแนวโน้มใน 4QFY23 เรามองลบเล็กน้อยกับแนวโน้มระยะสั้นในอีกสองสามไตรมาสข้างหน้า โดยเฉพาะในด้านของค่าใช้จ่าย SG&A จากธุรกิจดิจิทัล และการจัดจำหน่ายสินค้า ทั้งนี้ ประเด็นสำคัญที่เราได้จากงานนี้ได้แก่ i) ธุรกิจสื่อบนระบบขนส่งมวลชนมีผลการดำเนินงานดี โดย UR อยู่ที่ 58% ใน 3QFY23 อย่างไรก็ตาม โมเมนตัมเหมือนจะไม่ได้เร่งตัวขึ้นใน 4QFY23 เพราะบริษัทบอกว่าช่วงสามเดือนแรกของปีมักจะเป็นช่วง low season ของธุรกิจสื่อ ดังนั้น บริษัทจึงคาดว่า UR จะทรงตัว หรือลดลงเล็กน้อยจาก 3QFY23 ทั้งนี้ บริษัทยังคงเชื่อมั่นต่อแนวโน้มของธุรกิจสื่อในระยะกลางถึงยาว เนื่องจากจำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้า BTS กำลังอยู่ในขาขึ้น ซึ่งจะทำให้ธุรกิจสื่อขายโฆษณาได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ ยังจะมีกระแสรายได้เพิ่มอีกจากการเปิดดำเนินการรถไฟฟ้าสายสีชมพูและเหลืองในเดือนมิถุนายนนี้ ii) บริการดิจิทัลกำลังอยู่ในขั้นของการลงทุน โดยเฉพาะธุรกิจตัวแทนขายประกันออนไลน์ (Rabbit care) และการปล่อยกู้ออนไลน์ (Rabbit cash) ดังนั้น ในขั้นนี้ รายได้จะเพิ่มขึ้นช้ากว่าค่าใช้จ่าย iii) ธุรกิจการจัดจำหน่ายสินค้ากำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน โดยFanslink กำลังเปลี่ยนไปผลิตและจำหน่ายสินค้าที่ใช้แบรนด์ของตัวเอง (Pando) ซึ่งการจะสร้างการรับรู้แบรนด์ต้องใช้ค่าใช้จ่ายด้านการตลาดเป็นกลยุทธ์หลัก iv) ราคาหุ้น JMART และ KEX ที่ร่วงแรงจนใกล้ต้นทุนที่ VGI เข้าไปลงทุนในหุ้นทั้งสองตัวแล้ว ซึ่งหมายความว่าบริษัทไม่สามารถตัดขายหุ้นบางส่วนออกมาเพื่อทำกำไรเหมือนกับสองสามไตรมาสที่ผ่านมาได้อีก
4QFY23 จะพลิกเป็นขาดทุนเพราะไม่มีปันผลจาก PLANB
จากข้อมูลในส่วนนี้ทำให้เรามั่นใจมากขึ้นกับประมาณการปี FY23 ของเราที่คาดว่าบริษัทจะมีผลขาดทุนจากธุรกิจหลัก 310 ล้านบาท ซึ่งหมายความว่าบริษัทจะพลิกจากที่มีกำไรจากธุรกิจหลัก 12 ล้านบาท มาเป็นขาดทุนจากธุรกิจหลัก 36 ล้านบาทใน 4QFY23 เพราะไม่มีเงินปันผลจาก PLANB และถูกกดดันจากธุรกิจดิจิทัล และการจัดจำหน่ายสินค้า แต่ในอีกด้านหนึ่ง KEX อาจจะถือเป็นตัวช่วย เพราะเราคาดว่าจะส่งผลขาดทุนมาที่ VGI ลดลงใน 4QFY23 เนื่องจากไม่มีค่าใช้จ่ายพิเศษที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวใน 4QFY23
คงคำแนะนำซื้อ และประเมินราคาเป้าหมายที่ 5.50 บาท
ค่าใช้จ่าย SG&A ที่สูงขึ้นใน 3QFY23 กดดันราคาหุ้นของบริษัทในช่วงสองวันที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าจะไม่มีปัจจัยกระตุ้นหลัก ๆ ที่จะมาทำให้ผลการดำเนินงานพลิกฟื้นได้ในระยะสั้น แต่เรายังคงมองบวกกับแนวโน้มระยะยาว โดยเฉพาะในส่วนของธุรกิจสื่อ ซึ่งมีโอกาสที่รายได้จะเพิ่มกลับขึ้นไปอยู่ระดับก่อน COVID ระบาด และยังมี upside จากการดำเนินธุรกิจสื่อบนรถไฟฟ้าสายสีชมพูและเหลือง ดังนั้น เราจึงยังคงคำแนะนำซื้อ และประเมินราคาเป้าหมายที่ 5.50 บาท