SET Trading Range 1635 – 1660
“กลับตัวก็ไม่ได้ให้เดินต่อไปก็ไปไม่ถึง”
- ปัจจัยภายนอกมองกระทบเล็กน้อย: หลังจากที่ประธานเฟดเซนต์หลุยส์หนุนขึ้นดอกเบี้ย 0.50% ในท้ายสัปดาห์ ที่ผ่านมา กดดัน Sentiment ไปแล้ว สำหรับสัปดาห์นี้มีประเด็นน่าติดตามที่คาดว่าจะเป็น Sentiment กดดันดัชนี ได้แก่ CPI ยูโรโซน ซึ่งคาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นจากตัวเลขเบื้องต้น 8.5%y-y สู่ระดับ 8.7%y-y ในเดือน ม.ค.66 โดยมองราคาอาหารมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นจากที่เริ่มทรงตัวในเดือนก่อน นอกจากนี้ดัชนี PMI ภาคการผลิตยูโรโซน และสหรัฐในเดือน ก.พ. 66 ยังมีแนวโน้มปรับตัวสู่ 49.3 และ 46.0 จุด ตามลำดับ ซึ่งระดับที่ต่ำกว่า 50 ยังมองเป็นแรงกดดันต่อภาพเศรษฐกิจที่อ่อนแอและดัชนีตลาด ส่วน GDP สหรัฐงวด 4Q65 ประมาณการครั้งที่ 2 ในวันพฤหัสบดีนี้ คาด +2.9% เท่ากับประมาณการณ์ครั้งแรก แต่แนวโน้มชะลอตัวลงจาก 3Q65 ที่ระดับ 3.2% อย่างไรก็ดี ในวันศุกร์นี้ยังมีตัวเลขยอดขายบ้านใหม่เดือน ม.ค. ซึ่งหากมากกว่าคาดที่ระดับ 6.16 แสนยูนิต จะสะท้อนภาพกำลังซื้อที่ฟื้นตัวได้บ้าง ซึ่งคาดจะส่งผลบวกโดยช่วยประคองตลาดจาก Sentiment เชิงลบ
- ปัจจัยภายในดูมีน้ำหนัก: หลังผิดหวังสภาพัฒน์ฯ ประกาศ GDP ไทย 4Q65 ต่ำกว่าคาดสู่ระดับ 1.4%y-y และ ปรับประมาณการ GDP ไทย ปี 66 สู่ 3.2% ลดลงจากเดิมระดับ 3.5% กอปรกับต้องระวัง Fund flow ยังคงไหลออกต่อไป จากการที่ต่างชาติยังเดินหน้าขายทั้งหุ้นและตราสารหนี้ไทยในช่วงครึ่งแรกของเดือนก.พ. ราว 1.64 หมื่นลบ. และ 3.32 หมื่นลบ. ตามลำดับ ทำให้ภาพหุ้นกลุ่ม Big Cap ยังดูเสี่ยงจากแรงขายกดดัน อย่างไรก็ดี ปัจจัยบวกที่เป็นความหวังพยุงดัชนียังพอมี จากการที่นทท.จีนทยอยเข้าไทยเป็นบวกต่อหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวและการบริโภคให้มีโอกาสฟื้นตัว นอกจากนี้ ยังได้แรงหนุนจาก กบน.ลดราคาน้ำมันดีเซลลง 0.50 บาท สู่ 34 บาทต่อลิตร ช่วยคลายแรงกดดันด้านเงินเฟ้อในระยะถัดไป รวมถึงแรงเก็งกำไรงบ 4Q65 ของ บจ. ที่จะออกมาในเชิงบวก และแนวโน้มระยะถัดไปฟื้นตัวต่อ คาดจะช่วยหนุนดัชนี ได้แก่ BA, BDMS, BEM, CPALL, MAKRO, SPALI นอกจากนี้หุ้นสื่อสาร อย่าง ADVANC ลุ้นบวกได้สัปดาห์นี้ เมื่อคู่แข่งเริ่มหยุดซื้อขายถึงวันที่ 2 มี.ค. ทําให้กลายเป็นตัวแทนหุ้นกลุ่มให้บริการโทรศัพท์มือถือ และแรงเก็งกำไรปันผลก่อนขึ้น XD กลางสัปดาห์
SET Strategy
- คาด SET Index Sideways: กรอบ 1635 – 1660 จุด โดยตลาดกลับมาให้ความสนใจกับประเด็นในประเทศเป็นหลัก แรงบวกจากหุ้นรายตัวพอมีแม้พลังไม่มาก ขณะที่แรงกดดันนอกประเทศโดยรวมยังดูเบาบาง โดยนักลงทุนยังซึมซับแนวโน้มเฟดใช้อัตราดอกเบี้ยที่ยาวนานที่ระดับ 5.25-5.50%
- กลยุทธ์การลงทุน: เน้นลงทุนแบบ Selective Buy ในหุ้นที่มีพื้นฐานแข็งแกร่งในกลุ่มจับจ่ายใช้สอย, กลุ่มฟื้นตัวตามวัฎจักรเศรษฐกิจ โดยเน้นหุ้นที่มีปัจจัยเฉพาะตัวหนุนนำ รวมถึงหุ้นที่มีปันผลน่าสนใจ
STRATEGIST PICKS
EKH
- ได้อานิสงส์บวกจากคนไข้ IVF จีนคาดเข้าใช้บริการเพิ่มขึ้น หลังจากจีนเปิดประเทศ
- ด้วยค่า Beta ของ EKH ที่ 0.55 สะท้อนเป็น Defensive Stock ให้แก่นักลงทุนได้
STA
- สัญญาณเศรษฐกิจจีนพ้นจุดต่ำสุดมาแล้ว มอง STA ฟื้นตัวตาม จากการส่งออกยางไปจีนถึง 51.3% ของรายได้รวม
- ปัจจุบัน P/E ยังต่ำอยู่ที่ 6.8 เท่า และเป็นหุ้นที่แข็งกว่าตลาดในช่วงนี้