Daily Focus: Selective Play

2023SET Target: 1750

ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index ฟื้นตัวได้ดีพอสมควร ปิดบวก 6.02 จุด โดยมีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นกลุ่มธนาคาร ไฟแนนซ์ รวมถึงหุ้นในกลุ่ม JMART ที่ปรับลงแรงสัปดาห์ก่อน ส่วนกลุ่มที่มีแรงขายทำกำไร คือ ท่องเที่ยว และ CPALL สถาบันในประเทศและรายย่อยเป็นฝ่ายซื้อสุทธิในตลาดหุ้น 1.4 พันลบ.และ 1.2 พันลบ. ตามลำดับ ส่วนนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิเร่งขึ้นเป็น 3 พัน ลบ. (สถานะใน Index Futures เบาบางไม่มีนัยยะ)

แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index แกว่ง Sideways ในกรอบ 1,650-1,667 จุด บรรยากาศการลงทุนโดยรวมขาดปัจจัยใหม่หลังตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อคืนปิดทำการ ขณะที่ปัจจัยกดดันจากเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่สูง รวมถึงการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ FED ที่มากขึ้น สะท้อนผ่านการปรับขึ้นของ Bond Yield สหรัฐฯราว 40-50 bps ซึ่งใกล้เคียงกับ Peak Rate ของ FED ที่คาดปรับขึ้นจาก 4.75-5% เป็น 5.25-5.5% ส่วนปัจจัยในประเทศโฟกัสหลักยังคงอยู่ที่ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน 4Q22 ซึ่งโดยรวมแม้จะต่ำกว่าที่ตลาดประเมิน แต่ Sector สําคัญที่ให้น้ำหนักบวกอย่าง Consumption และ Reopening Play คาดว่ายังแข็งแรง โดยเห็นสัญญาณบวกจาก MAKRO ที่ไม่คาด หากหุ้นหลักในกลุ่มฯตัวอื่นๆ ออกมาในทิศทางเดียวกัน เชื่อว่าจะช่วยทำให้แรงขายชะลอลง และเพิ่มความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มการฟื้นตัวใน 1Q23-2023 ได้ เรายังมองจังหวะพักตัวของดัชนียังเป็นโอกาสในการสะสมระยะกลาง-ยาวจากเศรษฐกิจไทยที่ทยอยเร่งตัว แนวรับหลักที่ทำให้ SET Index ยังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นในภาพระยะกลางอยู่ที่ 1,630+- จุด ส่วนระยะยาวหากมีจังหวะทดสอบแนวจิตวิทยาที่ 1,600 จุด หรือต่ำกว่าจะเป็นจุดในการเข้าลงทุนที่น่าสนใจ

กลยุทธ์ : เลือกเก็งกำไรหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว//ระยะกลาง-ยาวสะสม Domestic และ Reopening Play ช่วงพักตัว

หุ้นเด่นเดือน ก.พ. : BA, BDMS, BEM, CENTEL, NOBLE

หุ้นเด่นวันนี้ : MAKRO

  • แนะนํา “เก็งกำไร” ราคาเป้าหมายจาก IAA Consensus 44 บาท
  • รายงานกำไร 4Q22 ที่ 2.47 พันลบ. +54% q-q, +4% y-y ฟื้นตัวใกล้เคียงที่ตลาดคาด หนุนจากยอดขายที่เร่งขึ้นจาก SSSG ของคำสั่งที่แข็งแกร่ง ส่วน SSSG ค้าปลีกเป็นบวกในไทยแต่ยังลบที่มาเลเซีย จบปี 2022 กำไรปกติอยู่ที่ 7.7 พันลบ. +10% y-y
  • โมเมนตัม 1Q23 คาดฟื้นตัวได้ต่อเนื่องจาก SSSG ของทั้งธุรกิจค้าส่งและค้าปลีกที่ยังเป็นบวก ส่วน Occupancy Rate ของพื้นที่เช่าสูงถึง 90% Consensus คาดกำไรปี 2023 ที่ 1.17 หมื่นลบ. +50% y-y
  • แนวรับ 39.50// บาท แนวต้าน 41//43-43.50 บาท

Fund Flow : วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาคต่อเนื่องแต่บางลงเหลือ US$320 ล้าน นำโดยไต้หวัน US$174 ส่วนเกาหลีใต้และไทยไหลออกใกล้เคียงกันประเทศละ US$86- 87 ล้าน ขณะที่ประเทศอื่นในอาเซียนทรงตัว มีเพียงอินโดนีเซียที่ไหลเข้า US$31 ล้าน แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดว่าจะชะลอการไหลออกหลังขาด Indicator ชี้นำใหม่จากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ปิดทำการเมื่อคืน แต่ปัจจัยกดดันตลาดยังคงเป็นเงินเฟ้อที่ยังสูงของสหรัฐฯและ FED ที่ยังเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย

 

ประเด็นสําคัญวันนี้

(0) AH ราคาหุ้นปรับตัวลงกว่า 10% จากความกังวลข่าวผู้ก่อตั้ง VinFast ซึ่งเป็นลูกค้าของ AH ที่ไม่มีแผนลงทุนเพิ่มในบริษัทที่มีผลการดำเนินงานขาดทุนในปี 2021-9M22 รวมราว US$2.8 พันล้าน รวมถึงยอดขายรถรุ่น VF8 ที่ต่ำกว่าคาด อย่างไรก็ตาม เราประเมินผลกระทบจากประเด็นดังกล่าวไม่มาก โดยยอดสั่งซื้อจาก VinFast คิดเป็น 3.5% ของรายได้ทั้งปีของ AH กรณีแย่ที่สุดประเมิน Downside ต่อกำไรสุทธิปี 2023 ราว 3.2% และราคาเป้าหมายจากปัจจุบันที่ 42 เหลือ 33.75 บาท ซึ่งราคาหุ้นปัจจุบันยังมี Upside ระยะสั้นคาดกำไรปกติ 4Q22 ยังแข็งแกร่งที่ 430 ลบ. +1% q-q, +187% y-y ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ”

(+) ASW เราคาดกำไรสุทธิ 4Q22 ที่ 415 ลบ. +117% q-q, +93% y-y หนุนจากยอดโอนที่เติบโตก้าวกระโดดจากการเริ่มโอนคอนโดใหม่ 2 แห่ง แม้ทั้งปี 2022 จะคาดกำไรจบที่ 649 ลบ. -27% y-y แต่คาดพลิกมาเติบโตแรง +57% y-y ในปี 2023 จากคอนโดสร้างใหม่ 9 แห่ง และมี Presales เฉลี่ย 60% ขณะที่แผนธุรกิจปี 2023 ยังเป็นเชิงรุก ตั้งเป้าเปิดโครงการใหม่ 12 แห่งรวม 2.25 หมื่นลบ. +2.1x y-y เป้า Presales 1.5 หมื่นลบ. +6% y-y ส่วนยอดโอนตั้ง เป้าที่ 7.2 พันลบ.เพิ่มจาก 5.2 พันลบ.ปีก่อน เราประเมินราคาเป้าหมาย 9.60 บาท แนะนำ “ซื้อ”

(0) MEGA เราคาดกำไรสุทธิ 4Q22 ชะลอเหลือ 471 ลบ. -28% q-q, -5% y-y หลังทำ Record High ใน 3Q22 หลังสถานการณ์ COVID-19 คลี่คลาย แต่ยังเป็นระดับที่ยังแข็งแรง จบปี 2022 คาดกำไรที่ 2.3 พันลบ. +26% y-y แนวโน้มปี 2023 อาจโตชะลอเหลือเพียง 4% y- y เป็น 2.4 พันลบ.จากฐานที่สูง แต่ระยะยาวคาดยังสดใสจากการออกสินค้าใหม่ราว 20 สินค้าต่อปี ทั้งวิตามัน อาหารเสริม ขณะที่โรงานในอินโดนีเซียอยู่ระหว่างเตรียมจดทะเบียนยา ซึ่งจะหนุนการเติบโตใน 2-3 ปีข้างหน้า เราประเมินราคาเป้าหมาย 65 บาท แนะนำ “ซื้อ”

(-) TU กำไรสุทธิ 4Q22 ออกมาที่ 1,238 ลบ. -51% q-q, -36% y-y ใกล้เคียงคาด หากไม่รวม FX loss -468 ลบ. จะมีกำไรปกติ 1,706 ลบ. -2% q-q, -9% y-y จากรายได้ที่อ่อนตัว และ Gross Margin ลดลง ส่วน Red Lobster ยังขาดทุนหนักต่อเนื่องและไม่ได้รับเงินปันผล เพราะมีการ Revalue หุ้นบุริมสิทธิจาก Discount Rate ที่สูงขึ้น และมีความเป็นไปได้ที่อาจต้องปรับขึ้นอีกตามดอกเบี้ย FED จบปี 2022 บริษัทมีกำไรปกติที่ 6,928 ลบ. -7% y-y ปัจจุบันเรา คาดกำไรปกติปี 2023 ไว้ที่ 6,430 ลบ. -7% y-y ระยะสั้น คาด 1Q23 อาจยังไม่ฟื้นตัวดีนัก เพราะยังมีการชะลอคำสั่งซื้อของลูกค้าใน US โดยเฉพาะในกลุ่ม Ambient เราเริ่มเห็น Downside ต่อประมาณการและอยู่ระหว่างอัพเดทแนวโน้มจากประชุมนักวิเคราะห์วันนี้21 February 2023

(0) ตลาดดาวโจนส์ ปิดทำการเนื่องในวันประธานาธิบดีสหรัฐ

(+) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดบวก ได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ท่ามกลางความเชื่อมั่นเกี่ยวกับอุปสงค์ที่ฟื้นตัวในจีน

(-) ตลาดหุ้นเอเชีย เปิดลบ ท่ามกลางการซื้อขายที่ระมัดระวังก่อนการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้  รวมถึงรายงานการประชุมเมื่อ วันที่ 31 ม.ค.-1 ก.พ. ของ FED

(0) ค่าเงินบาท แกว่งตัวแคบ อยู่ที่บริเวณ 34.44 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ปิดทำการเนื่องในวันประธานาธิบดีสหรัฐ

(0) ราคาทองคำ COMEX ปิดทำการเนื่องในวันประธานาธิบดีสหรัฐ

SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 919.92 / –

- Advertisement -