จับตากลุ่มธนาคารมีโอกาสหนุนตลาด

ตลาดหุ้นวานนี้…. SET Index ปิดที่ 1,657.69 จุด เพิ่มขึ้น 6.02 จุด (+0.36%) มูลค่าการซื้อขาย 53,391.41 ล้านบาท แรงซื้อหลักในวันนี้มาจากกลุ่มแบงก์ใหญ่ และกลุ่ม JMART แต่ภาพรวมยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่

แนวโน้มตลาดวันนี้… ยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่ เนื่องจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดทําการวานนี้ แต่ตลาดยังรอตัวเลข GDP 4Q65 ประมาณการครั้งที่ 2 ของสหรัฐฯ ที่คาดว่าทรงตัว 2.9% จากเดิม และ Core PCE ม.ค. ในสุดสัปดาห์นี้ เพราะเป็นอีก 1 ตัวแปรที่จะกำหนดทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด ซึ่งหากมากกว่าคาดที่ +0.4%MoM จะหนุนให้เฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 3 ครั้ง และไปสิ้นสุดที่ระดับ 5.25-5.50% ขณะที่จะเริ่มเห็นความตึงเครียดของรัสเซีย-ยูเครน เนื่องจากไบเดน ได้เดินทางเยือนยูเครน 1 วันก่อนที่ปูตินจะทำการแถลงนโยบายประจําปี (State of the Nation Address) ต่อสภาวันวันนี้ ซึ่งอาจมองว่าเป็นการยั่วยุรัสเซีย กระทบต่อ fund flow ที่จะไหลออกจากสินทรัพย์เสี่ยง สำหรับปัจจัยในประเทศเริ่มเห็นแรงซื้อกลับกลุ่มธนาคาร หลัง SETBANK ปรับตัว -6.2%YTD และ underperform SET 2% โดยมีปัจจัยหนุนอย่างการทยอยประกาศจ่ายปันผล ของกลุ่มแบงค์ในสัปดาห์นี้ รวมถึงเข้าใกล้โค้งสุดท้ายในช่วงประกาศงบ 4Q ซึ่งพบว่าใน SET100 เกิน 50% ที่ รายงานงบแล้วออกมาต่ำกว่าคาด  ซึ่งอาจทำให้เราปรับประมาณการ EPS’66 ของ SET ลงจากเดิมที่ 103.2 บาท (+3.5%YoY) และจะทำให้เป้าหมาย SET Index ปรับลดลง

สัปดาห์นี้ ติดตาม… 23 ก.พ. GDP 4Q65 สหรัฐฯ ตลาดคาด +2.9%QoQ ทรงตัวจากครั้งก่อน, 24 ก.พ. PCE ม.ค. +0.3%QoQ ทรงตัวจากงวดก่อน

กลยุทธ์การลงทุน… ประเมิน SET Index แกว่งตัว sideway แนะนำ Trading ในกรอบ 1646-1672 โดย Selective buy กลุ่มที่ downside risk ที่จํากัด 1. BANK BBL KBANK KTB KKP TISCO 2. Domestic play BJC CPALL MAKRO DOHOME

เคาะไป คุยไป SCB

  • SCB ราคาปรับตัวลงแรงกว่า 13.5% หลังรายงานงบปี 65 ออกมา คาดจากรายได้จากการลงทุนและการค้าลดลงอย่างมาก ซึ่งเป็นผลมาจากการขาดทุนของพอร์ทการลงทุน อยู่ที่ 1.6 พันล้านบาท เทียบกับปี 64 ที่ 8 พันล้านบาท และประมาณการของเราที่ 4 พันล้านบาท และ fx loss ขณะที่การตั้งสำรองยัง in line กับประมาณการของเราที่ 3.3-3.4 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้รายงานกำไรสุทธิ 4Q65 เท่ากับ 7.1 พันล้านบาท (-30.7% QoQ, -9.3%YoY) ส่วนภาพทั้งปีเท่ากับ 3.75 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.5% YoY น้อยกว่าประมาณการของเราราว 8%
  • ทั้งนี้ SCB ได้ให้เป้าหมายทางการเงินสำหรับปี 66 ดังนี้ 1.อัตราการเติบโตของสินเชื่ออยู่ที่ 5-8% จากธุรกิจธนาคาร และบริการทางการเงินเพื่อผู้บริโภคและดิจิทัล มากกว่า 40% (เราประมาณการ +4.1%) 2. ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ เติบโตมากกว่า 3.5% จาก ธุรกิจธนาคาร 3% และบริการทางการเงินเพื่อผู้บริโภคและดิจิทัล ประมาณ 10% กลางๆ (เราประมาณการ +3.4%) 3. อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ อยู่ที่ 40% กลางๆ จากธุรกิจธนาคาร 40% และบริการทางการเงินเพื่อผู้บริโภคและดิจิทัล 40% ปลายๆ (เราประมาณการ 44.2%) 4. อัตราส่วนผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อสินเชื่อ อยู่ที่ 1.20-1.40% จากธุรกิจธนาคาร 1% และบริการทางการเงินเพื่อผู้บริโภคและดิจิทัล 6-6.50% (เราประมาณการ 1.63%) 5. จํานวนลูกค้าอยู่ที่ 35 ล้านราย แบ่งเป็น ธุรกิจธนาคาร 18 ล้านราย, บริการทางการเงินเพื่อผู้บริโภคและดิจิทัล 13 ล้านราย และแพลทฟอร์มและสินทรัพย์ดิจิทัล จํานวน 4 ล้านราย

Global Markets

(0) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดทำการ เนื่องในวันประธานาธิบดีสหรัฐ

(+) ตลาดหุ้นยุโรป ปรับตัวขึ้น ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ท่ามกลางความเชื่อมั่นเกี่ยวกับอุปสงค์ที่ฟื้นตัวในจีน ซึ่งช่วยบดบังการปรับตัวลงของหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมและกลุ่มเทคโนโลยี

(0) สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ปิดทำการ เนื่องในวันประธานาธิบดี สหรัฐ

(0) สัญญาทองคำตลาด COMEX ปิดทำการ เนื่องในวันประธานาธิบดีสหรัฐ

- Advertisement -