บล.เคจีไอ (ประเทศไทย): 

Pruksa Holding (PSH.BK/PSH TB)*

แนวโน้มกำไรยังไม่น่าตื่นเต้น

Event

อัพเดตแนวโน้มบริษัท

Impact

มีแผนจะเปิดโครงการใหม่มูลค่ารวม 23.5 พันล้านบาท (+110% YoY) ในปีนี้

สำหรับในปีนี้ PSH มีแผนเปิดโครงการใหม่จำนวน 23 โครงการมูลค่ารวมที่ 23.5 พันล้านบาท (เพิ่มขึ้น 110% YoY จากฐานที่ต่ำ) แบ่งเป็น i) โครงการแนวราบ 19 โครงการมูลค่า 15.3 พันล้านบาท (+68% YoY) และ ii) โครงการคอนโดมิเนียมจำนวน 4 โครงการ มูลค่า 8.2 พันล้านบาท (+301% YoY) ทั้งนี้ PSH จะทยอยเพิ่มสัดส่วนแนวราบค่อนไปทางราคาระดับกลางถึงสูงมากขึ้น (จากเดิมเน้นกลุ่มราคาระดับล่าง) ขณะที่โครงการคอนโดมิเนียมใหม่จะมุ่งไปที่ราคาระดับกลาง (3-5 ล้านบาท) เป็นหลัก อย่างไรก็ตาม เรามองว่าแผนเปิดโครงการใหม่ดังกล่าวค่อนข้างเป็นแผนที่อนุรักษ์นิยม ซึ่งน้อยกว่าในช่วงก่อนโรคระบาดโควิด และยังน้อยกว่าบริษัทคู่แข่งรายอื่นด้วย ซึ่งอาจส่งผลให้เสียส่วนแบ่งการตลาดด้าน presales และการรับรู้รายได้ในระยะยาวอาจอ่อนแอไปด้วย

ยังต้องเผชิญกับเป้าหมายด้านยอด presales และยอดโอนที่ท้าทายในปีนี้

PSH ตั้งเป้ายอด presales ปีนี้ที่ 2.4 หมื่นล้านบาท (+41% YoY) และยอดโอนโครงการรวมที่ 2.8 หมื่นล้านบาท (+6% YoY) ทั้งนี้เรามองว่าเป้ายอดโอนเป็นสิ่งที่ท้าทายด้วย backlog ในมืออยู่ในระดับต่ำ ขณะที่ปัจจุบันสมมติฐานยอดโอนปีนี้ของเราต่ำกว่าเป้าหมายของ PSH อยู่ที่ราว 4%

ปรับลดประมาณการกำไรปี 2566F ลง 7%

เราปรับลดประมาณการกำไรปี 2566F ลงอีก 7% โดยมีปัจจัยเสี่ยงหลักๆ จาก i) ยอดโอนคอนโดมิเนียม อาจต่ำกว่าคาดราว 14% ส่วนหนึ่งเนื่องจากยอด presales จากสต๊อกแย่ลง และโครงการ Plum Condo สนามบินดอนเมืองถูกเลื่อนการรับรู้รายได้ออกไปในปี 2567F  ii) อัตรากำไรขั้นต้นโครงการที่อยู่อาศัยต่ำลง 0.2ppts ด้วยสัดส่วนรายได้ค่อนไปทางโครงการแนวราบมากขึ้น และ iii) ปรับ SG&A- to-sales เพิ่มขึ้นอีกราว 0.9 ppts

ภายหลังจากที่ปรับลดประมาณการลง เราคาดว่ากำไรปกติปี 2566F จะปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ 6% YoY เป็น 2.9 พันล้านบาท ขณะที่แนวโน้มกำไรในระยะถัดไปจะไม่น่าตื่นเต้น ด้วยกลยุทธการลงทุนอย่างระมัดระวัง (underinvestment) ในโครงการแนวราบ และมีโครงการคอนโดมิเนียมพร้อมขายเหลืออยู่ไม่มาก หากมองในแง่บวกเราคาดว่าธุรกิจโรงพยาบาลอาจทำกำไรดีขึ้นในปี 2567F ขณะที่ธุรกิจ JV อื่นๆ อาจใช้เวลาที่จะเห็นผลด้านบวกมาช่วยหนุน

Valuation & action

เรามองว่าราคาหุ้นในปัจจุบันได้สะท้อนปัจจัยบวกไปบางส่วนแล้ว เราจึงปรับลดคำแนะนำลงเป็นถือ (จากเดิม ซื้อ) ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 13.40 บาท (จากเดิมที่ 14.20 บาท) อิงจาก PE ปี 2566F ที่ 9.9% หรือเทียบเท่าค่าเฉลี่ยระยะยาว 5 ปี

Risks

ภาวะเศรษฐกิจทีอ่อนแอลง

- Advertisement -