บล.ทรีนีตี้:
ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป – TU
คําแนะนํา ซื้อ ราคาปิด 16 บาท, ราคาเป้าหมาย 21 บาท
กำไร 4Q65 ต่ำกว่าคาดจาก Fx Loss
กำไร 4Q65 อ่อนตัวต่ำกว่าคาดจาก Fx Loss
TU รายงานกำไร 4Q65 ที่ 1,238 ล้านบาท อ่อนตัว 51%QoQ และ 36%YoY ต่ำกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้าราว 15% โดยหลักเป็นผลจากขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 468 ล้านบาท เนื่องจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ด้านผลการดำเนินงานปกติอ่อนตัวลง ยอดขายรวมอ่อนตัว 3%QoQ ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นลดลงจาก 18.2% ในไตรมาสก่อนมาอยู่ที่ 17.3% โดยยอดขายของผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแปรรูปเติบโตเล็กน้อย QoQ ส่วนยอดขายผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแช่เย็นและแช่แข็ง อ่อนตัวลงเล็กน้อย แต่ยังอยู่ในระดับสูง แต่ยอดขายผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยง ซึ่งเป็นส่วนที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงอ่อนตัวลงค่อนข้างมาก เนื่องจากในไตรมาสก่อนลูกค้ามีการกักตุนสินค้า (ฐานยอดขายในไตรมาสก่อนอยู่ในระดับสูง) ด้านผลการดำเนินงานของบริษัทร่วมยังอ่อนตัวลงต่อเนื่อง ทำให้เห็นส่วนแบ่งขาดทุนเพิ่มขึ้น QoQ โดยเฉพาะธุรกิจของ Red Lobster ที่เข้าสู่ Low Season ในฤดูหนาว ทำให้ภาพรวมกำไรในปี 2565 อยู่ที่ 7,138 ล้านบาท อ่อนตัว 11%YoY
คาดกำไรปี 66 อาจปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย
เราคาดกำไรปี 2566 จะดีขึ้นราว 5%YoY จากการฟื้นตัวของผลการดำเนินงานของ Red Lobster และอาจไม่เห็นผลกระทบจากการวัดมูลค่าเงินลงทุนใน Red Lobster จากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเช่นในปี 65 ขณะที่ยอดขายยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องจากเกือบทุกผลิตภัณฑ์หลัก ส่วนต้นทุนในการขนส่งมีแนวโน้มลดลง อย่างไรก็ตาม ภายหลังการประชุมนักวิเคราะห์เราอาจมีการปรับประมาณการอีกครั้งหนึ่ง
คงราคาเป้าหมายและคำแนะนำ
เราคงราคาเป้าหมายปี 2566 ที่ 21 บาท อิง PBV 1.6 เท่า แม้ว่าการเติบโตของกำไรจะไม่สูง แต่ราคาหุ้นปัจจุบันยังพอมี Upside บวกกับปันผลสำหรับผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังที่บริษัทประกาศจ่ายอีก 0.44 บาท (XD 3 มี.ค. 66) คิดเป็น Residual Dividend Yield อีก 2.75% จึงยังคงคำแนะนำ “ซื้อ”
