เหตุร้ายๆ ที่บดบังเรื่องราวดีๆ 1,655-1,675

มุมมองตลาดหุ้นวันนี้

  • คาดดัชนี SET แกว่งตัวอิงทางลง: ตลาดถูกดันจากความกังวลการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด หลัง S&P Global เผยดัชนี PMI รวมภาคการผลิตและภาคบริการเดือนก.พ.ของสหรัฐฯ พุ่งขึ้นแตะระดับ 50.2 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 8 เดือน จากระดับ 46.8 ในเดือนม.ค. รวมถึงตัวเลขศก.สหรัฐฯ ที่มีการเปิดเผยในช่วงที่ผ่านมานั้น บ่งชี้ถึงการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งของศก.สหรัฐฯ ส่งผลให้ Fed อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นเวลานานกว่าที่คาดการณ์ไว้ ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ 2 ปี และ 10 ปี ได้พุ่งขึ้นสู่ระดับ 4.7% และ 4% ตามลำดับ คาดเป็นปัจจัยกดดันต่อการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง นอกจากนี้ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ หลังปูตินประกาศระงับความร่วมมือของรัสเซียในข้อตกลงควบคุมอาวุธนิวเคลียร์ New START กับทางสหรัฐฯ และสั่งกระทรวงกลาโหม และ Rosatom เตรียมพร้อมสําหรับการทดลองนิวเคลียร์หากมีความจําเป็น อย่างไรก็ดี ปัจจัยในประเทศคาดเป็นแรงพยุงตลาดได้บ้าง จากภาพการเลือกตั้งที่เริ่มกลับมามีความชัดเจนขึ้นอีกครั้ง หลังนายกฯยอมรับมีความเป็นไปได้ที่จะเห็นการยุบสภาในช่วงต้นเดือนมี.ค.เพื่อให้กรอบเวลาการเลือกตั้งเป็นไปตามไทม์ไลน์ของกกต.ที่วางไว้วันที่ 7 พ.ค. คาดเป็นปัจจัยหนุนต่อหุ้นในกลุ่มจับจ่ายใช้สอย และหุ้นที่ได้รับอานิสงส์ทางบวกจากการเลือกตั้ง ขณะที่พรุ่งนี้ติดตามสรุปรายงานการประชุมนโยบายการเงินครั้งที่ผ่านมาของ Fed เพื่อประเมินทิศทางการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดอีกครั้ง
  • กลยุทธ์ลงทุน: 1) Spending+เลือกตั้ง: AEONTS, BEM, CPALL, KTC, MAKRO, TKS, SC 2) บ.รัฐ: DOHOME, GLOBAL, HMPRO 3) บาทอ่อน: AAI, ITC, SAPPE 4) ย้ายฐาน+ยานยนต์: AMATA, AH, WHA และ 5) Defensive: BH, BDMS, PR9

ปัจจัยบวก

  • ส.อ.ท.เผยยอดส่งออกรถยนต์สําเร็จรูปเดือนม.ค.ที่ 86,786 คัน เพิ่มขึ้น 24.28% y-y หลังโควิด 19 คลี่คลาย ผู้ผลิตรถยนต์ได้รับการส่งมอบชิปจากผู้ผลิตเพิ่มมากขึ้น
  • รมว.คลังเผยครม.มีมติเห็นชอบโครงการบ้านล้านหลังระยะที่ 3 มีวงเงินโครงการ 2 หมื่นลบ. เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองในราคาที่ไม่สูง
  • ธปท.เผยโครงการคลินิกแก้หนี้ปรับเกณฑ์เข้าร่วม โดยขยายให้ครอบคลุมลูกหนี้ที่มีสถานะเป็นหนี้เสีย จากเดิมก่อนวันที่ 1 ก.ย. 65 เป็นก่อนวันที่ 1 ก.พ. 66

ปัจจัยลบ

  • ญี่ปุ่นเผยจะจัดประชุมรมต.คลัง และผู้ว่าการธนาคารกลางของชาติสมาชิก G7 นอกรอบการประชุมของสมาชิก G20 ที่อินเดียในวันที่ 23 ก.พ. เพื่อหารือเกี่ยวกับการตอบโต้รัสเซียในสงครามยูเครน รวมไปถึงการคว่ำบาตร
  • IMF แสดงความเห็นว่าธนาคารกลางต่างๆ ในภูมิภาคเอเชีย อาจจําเป็นต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อไป หาก Core Inflation ไม่มีแนวโน้มที่จะปรับตัวลงสู่กรอบเป้าหมายของธนาคารกลาง
  • ยุโรปเผยดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนก.พ.อยู่ที่ 48.5 ต่ำกว่าตลาดคาด และเดือนม.ค.ที่ระดับ 49.3 และ 48.8 ตามลำดับ

PICKS OF THE DAY

CPALL BUY

  • เป้าหมาย 67.75/69.50 แนวรับ 63.75/65.00
  • คาดกำไรปกติ 4Q65 ดีขึ้นทั้ง y-y, q-q: คาดกำไรปกติ 4Q65 ที่ราว 4,268 ลบ. +52.4% y-y, +16.1% q-q หลักจากธุรกิจ CVS ที่ฟื้นตัวดีขึ้นมาก แม้ MAKRO ดีขึ้นเล็กน้อยใกล้เคียงคาดก็ตาม จาก Traffic คนเข้าร้าน 7-11 มากขึ้น หนุน SSSG +12-13% y-y, Product Mix และการปรับราคาขายขึ้น 10-20% ทำให้มาร์จิ้นดีขึ้นชดเชย SG&A/Sales ที่เพิ่มสูงขึ้นจากค่าไฟและดอกเบี้ยจ่ายที่เพิ่มขึ้นทั้งหมด
  • รับอานิสงส์จากเลือกตั้ง: คาดได้อานิสงส์เชิงบวกจากการเลือกตั้งหนุน Sentiment การบริโภคใน ประเทศฟื้นตัวดีมากขึ้น และคนจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น

WHA BUY

  • เป้าหมาย 4.14/4.22 แนวรับ 3.88/3.94
  • ความขัดแย้งภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มสูงขึ้น หนุนย้ายฐานมาไทย: หลังยูเครนเรียกร้องให้จีนแสดงท่าทีต่อต้านการรุกรานของรัสเซียที่ชัดเจนขึ้น ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่จีนกำลังมีข้อพิพาทกับสหรัฐเรื่องบอลลูนตรวจสภาพอากาศ รวมทั้ง Kpler ยังรายงานว่าจีนเป็นผู้นำเข้าน้ำมันจากรัสเซียรายใหญ่สุด
  • ขายที่ดินปี 65 ได้มากกว่าปี 64 : โดยงวด 9M65 บริษัทสามารถทำยอดขายที่ดินได้เกินเป้าที่วางไว้ 1,650 ไร่ ซึ่งมากกว่าเป้าที่วางไว้แล้ว โดยมีปัจจัยหนุนจากต่างชาติย้ายฐานลงทุนมาไทย กอปรกับค่าสาธารณูปโภคงวด 9M65 +10%y-y สะท้อนการเดินหน้าการผลิตโดยเฉพาะกลุ่มรถยนต์ในนิคมหลังปัญหาขาดแคลนชิป
- Advertisement -