บล.บัวหลวง:

Siam Global House (GLOBAL TB /GLOBAL.BK)

GLOBAL – แนวโน้มช่วงครึ่งแรกของปี 2566 อ่อนตัว แต่ฟื้นตัวได้ในช่วงครึ่งปีหลัง

แม้แนวโน้มกำไรในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 ของ GLOBAL น่าจะอ่อนตัว เนื่องจากฐานสูงในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 แต่เรายังคงคําแนะนํา ซื้อ เนื่องจากเรามองว่าราคาหุ้นได้สะท้อนแนวโน้มในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 ที่ไม่น่าตื่นเต้นเข้าไปแล้ว และเราคาดว่ากำไรที่น่าจะฟื้นตัวได้แข็งแกร่งในช่วงครึ่งหลังของปี 2566 จะช่วยกระตุ้นราคาหุ้น

ราคาเหล็กปรับตัวลง กดดันแนวโน้มกำไรในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 ..

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เราเข้าร่วมการประชุมนักวิเคราะห์ของ GLOBAL โดยผู้บริหารได้ให้มุมมองเรื่องเป้าหมายของบริษัทสาหรับปี 2566 ทั้งนี้เราจึงปรับลดความคาดหวังสําหรับกำไรในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 ลง จากราคา ผลิตภัณฑ์เหล็กอยู่ในระดับต่ำ และต้นทุนค่าไฟที่ปรับตัวสูงขึ้นแรง GLOBAL คาดยอดขายสาขาเดิมทรงตัวในปี 2566 โดยยอดขายสาขาเดิมน่าจะปรับตัวลดลงในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 เนื่องจากฐานสูง ในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 และกลับมาเติบโตได้ในช่วงครึ่งหลังของปี 2566 บริษัทคาดการณ์อัตรากำไรขั้นต้นที่ประมาณ 25% และอัตราค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายอยู่ที่ 15% ในปี 2566

…แต่จะฟื้นตัวได้ในช่วงครึ่งหลังของปี 2566

เราปรับลดประมาณการกำาไรลง 9% สําหรับปี 2566 และ 2567 เนื่องจากคาดการณ์ยอดขายปรับตัวลดลง (โดยเฉพาะในช่วงครึ่งแรกของปี 2566) รวมทั้งปรับลดสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นและค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่ สูงขึ้น แม้เราปรับลดประมาณการกำไรลง แต่เราเชื่อว่าไตรมาส 4/65 จะเป็นไตรมาสที่ต่ำที่สุดของ GLOBAL โดยจากที่ปกติไตรมาสแรกของปีจะเป็นฤดูกาลสําหรับการสร้างบ้านในต่างจังหวัด ดังนั้นเราคาดว่ากําไรจะฟื้นตัว QoQ ในไตรมาส 1/66 (แต่ลดลง YoY) นอกจากนี้ การเปิดสาขาใหม่เพิ่มอีก 7 สาขาในปี 2566 จะหนุนการเติบโตของยอดขายรวมที่ 5% และกำไรหลัก 8% สําหรับปีนี้ การเติบโตจะน่าตื่นเต้นขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2566

ยอดขายสินค้าแบรนด์ตนเองหนุนรายได้และอัตรากำไรขั้นต้น

นอกจากการเปิดสาขาใหม่ในปี 2566 แล้ว เราเชื่อว่าสินค้าแบรนด์ของบริษัท ซึ่งคิดเป็น 24.7% ของยอดขายในปี 2565 จะหนุนอัตรากำไรขั้นต้นของ GLOBAL ในปี 2566 เนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่ในต่างจังหวัดมีความอ่อนไหวด้านราคา (การตัดสินใจซื้อสินค้าขึ้นอยู่กับราคามากกว่าแบรนด์สินค้า) ดังนั้นเราจึงมองเป็นโอกาศการเติบโตของสินค้าแบรนด์ตนเองของบริษัท

ความเสี่ยง-ราคา/ผลตอบแทนยังน่าสนใจ

แม้ว่าเราจะปรับลดประมาณการกำาไรลง แต่ยังคงคําแนะนํา ชื้อ ด้วยราคาเป้าหมายวิธีคิดลดกระแสเงินสด DCF ณ สิ้นปี 2566 ที่ 22 บาท (ปรับราคาลงจาก 22.50 บาท) ราคาหุ้นของ GLOBAL ปรับตัวลดลง7.8% ในช่วงเดือนที่ผ่านมา (เทียบกับ SET ปรับตัวลง 1.8%) ดังนั้นเราเชื่อว่าตลาดได้สะท้อนแนวโน้มผลการดำเนินงานช่วงครึ่งแรกของปี 2566 ที่ไม่น่าตื่นเต้นไปแล้ว (ประมาณการใหม่ของเราใกล้เคียงกับที่ตลาดคาด) ปัจจุบันชื้อขายอยู่ระดับ PER ปี 2566 ที่ 25 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 39 เท่า อยู่ 1 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ดังนั้นเราจึงเชื่อว่าความเสี่ยง-ผลตอบแทนยังอยู่ในระดับที่น่าสนใจ

- Advertisement -