บล.บัวหลวง:

GFPT (GFPT TB/GFPT.BK)

GFPT – ต่ำกว่าคาดเล็กน้อย; คาดกำไรไตรมาส 1/66 ลดลง

ต่ำกว่าที่เราคาดเล็กน้อย

GFPT รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 4/65 ที่ 447 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 725% YoY แต่ลดลง 35% QoQ หากไม่รวมรายการพิเศษ 2 รายการในไตรมาส 4/65 ได้แก่ ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 53 ล้านบาท และกำไรจากการป้องกันความเสี่ยงอนุพันธ์ 84 ล้านบาท กำไรหลักในไตรมาสนี้อยู่ที่ 417 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,882% YoY แต่ลดลง 44% QoQ กำไรสุทธิ และกำไรหลักต่ำกว่าที่เราคาด 3% และ 4% ตามลำดับ เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นและภาระภาษีจ่ายที่ต่ำกว่าคาด ยอดขายสูงกว่าที่เราคาด 10% ในขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาสนี้อยู่ที่ 13.7% ซึ่งต่ำกว่าประมาณการก่อนหน้าของเราที่ 15.2% (และเทียบกับ 5.4% ในไตรมาส 4/64 และ 18.6% ในไตรมาส 3/65) กำไรหลังหักภาษีต่ำกว่าคาด 6% ส่วนแบ่งกำไรจากแม็คคีย์และส่วนแบ่งกำไรจากจีเอฟเอ็นเป็นไปตามที่เราคาด

ประเด็นสําคัญจากผลประกอบการ

กําไรหลักที่เพิ่มขึ้นก้าวกระโดด YoY เนื่องจากฐานกําไรหลักไตรมาส 4/64 ที่ต่ำมาก หลังจากการปิดโรงงานแปรรูปชั่วคราว (หลังจากคนงานติดเชื้อ COVID-19 ในไตรมาส 3/64) วอลุ่มส่งออกของ GFPT ที่เพิ่มขึ้น (8.6 พันต้น หรือเพิ่มขึ้น 16% YoY แต่ลดลง 2% QoQ) ราคาไก่ส่งออกที่เพิ่มขึ้น (4,850 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ตัน เพิ่มขึ้น 18% YoY และ 8% QoQ) ราคาขายผลิตภัณฑ์ชิ้นส่วนไก่ที่เพิ่มขึ้น (ราคาโครงไก่ 21.5 บาท/กก. เพิ่มขึ้น 79% YoY แต่ลดลง 10% QoQ) ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับราคาไก่มีชีวิตที่เพิ่มขึ้น (44.7 บาท/กก. เพิ่มขึ้น 35% YoY แต่ลดลง 4% QoQ) อัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้นก้าวกระโดด และส่วนแบ่งกำไรที่เพิ่มขึ้นอย่างมากจากแม็คคีย์ (วอลุ่ม ส่งออกที่เพิ่มขึ้น) และจีเอฟเอ็น (ราคาชิ้นส่วนไก่ในประเทศที่ปรับตัวสูงขึ้น)

วอลุ่มไก่ส่งออกของ GFPT ไปญี่ปุ่นในไตรมาส 4/65 อยู่ที่ 3.6 พันตัน ลดลง 5% YoY และ 10% QoQ ในขณะที่วอลุ่มไก่ส่งออกไปยุโรปในไตรมาสนี้อยู่ที่ 2 พันตัน ลดลง 23% YoY และ 26% QoQ วอลุ่มส่งออกของจีเอฟเอ็นในไตรมาสนี้อยู่ที่ 8.1 พันตัน เพิ่มขึ้น 1% YoY แต่ลดลง 15% QoQ ในขณะที่วอลุ่มส่งออกของแม็คคีย์อยู่ที่ 1.8 หมื่นต้น เพิ่มขึ้น 25% YoY แต่ลดลง 8% QoQ แม็คคีย์รายงานกำไรสุทธิในไตรมาสนี้ที่ 188 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29% YoY ในขณะที่จีเอฟเอ็นรายงานกำไรสุทธิที่ 145 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 774% YoY จากฐานกําไรที่ต่ำมากในไตรมาส 4/64

แนวโน้ม

เราคาดกำไรหลักไตรมาส 1/66 ที่ 300 ล้านบาท ลดลง 26% YoY และ 28% QoQ เนื่องจากอัตราค่าไรขั้นต้นที่ลดลง ซึ่งเป็นผลมาจากต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่เพิ่มขึ้น วอลุ่มส่งออกที่ทรงตัว ราคาโครงไก่ในประเทศที่ปรับตัวลดลง และช่วงโลว์ซีซันของการส่งออก

เราคาดอัตรากําไรขั้นต้นที่ 12-13% ในไตรมาส 1/66 เทียบกับ 14.2% ในไตรมาส 1/65 และ 13.7% ในไตรมาส 4/65 เราคาดวอลุ่มส่งออกของ GFPT ที่ประมาณ 7.7 พันตันในไตรมาส 1/66 ทรงตัว YoY แต่ลดลง 10% QoQ ราคาโครงไก่ปรับตัวลดลงจาก 23-24 บาท/กก. ในช่วงไตรมาส 2-3/65 เหลือ 21-22 บาท/กก. ณ ปัจจุบัน นอกจากนี้ ตัวบ่งชี้ทางลบ ได้แก่ ราคาลูกเจี๊ยบที่ปรับตัวลดลง 27% ในระยะเวลาหนึ่งเดือนจาก 18.5 บาท/ตัว ในช่วงต้นเดือนก.พ. เหลือ 13.5 บาท/ตัว ในช่วงปลายเดือนก.พ. ซึ่งแสดงถึงอุปทานพันธุ์ไก่ที่เพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกันราคาไก่มีชีวิตปรับตัวลดลงจาก 41 บาท/กก. ในช่วงต้นเดือนก.พ. มาอยู่ที่ 39.5 บาท/กก. ในช่วงปลายเดือนก.พ. ซึ่งน่าจะเกี่ยวข้องกับราคาหมูในประเทศที่ปรับตัวลงแรงในช่วงเร็วๆ นี้ และอุปทานไก่ที่เพิ่มขึ้น และถ้าอิงกับเป้าผลการดำเนินงานของบริษัทสำหรับในปี 2566 โดยบริษัทตั้งเป้าการเติบโตของยอดขายที่ 2-3% อัตรากำไรขั้นต้นที่ 14-15% (ลดลงจาก 15.7% ในปี 2565) และอัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายรวมที่ 8.5-9% (ใกล้เคียงกับ 8.6% ในปี 2565) เรามองว่ากําไรสุทธิปี 2566 มีแนวโน้มที่จะลดลง YoY

สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไป

เราปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2565 ลงอีก 6% (เหลือ 1.73 พันล้านบาท) เพื่อสะท้อนอัตรากำไรขั้นต้นที่ปรับลดลง และแนวโน้มกำไรไตรมาส 1/66 ที่อ่อนแอกว่าที่เราเคยคาดก่อนหน้า เราปรับลดราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2566 ลงอีก 5% (เหลือ 17.50 บาท)

คําแนะนํา

เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” หุ้น GFPT เนื่องจากมูลค่าหุ้นยังคงถูก โดยซื้อขายที่ PER ปี 2566 เพียงแค่ 9.1 เท่า เทียบกับค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 10.8 เท่า

- Advertisement -