บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):
Action BUY (Maintain)
TP upside (downside) +16.3%
Close Feb 21, 2023 Price 70.50
12M Target 82.00
GLOBAL POWER SYNERGY (GPSC) เพิ่มความสำคัญ Reliability ท่ามกลาง Outlook ฟื้นตัว
Event
สาระสำคัญจากการประชุมนักวิเคราะห์
- บริษัทฯ ชี้แจงรายละเอียดการหยุดเดินเครื่องจักรของโรงไฟฟ้า Glow Energy Phase 5 และโรงไฟฟ้า Gheco-one ในช่วงที่ผ่านมา ภาพรวมโรงไฟฟ้าของ GPSC นับว่ามี Reliability ระดับสูงเทียบค่า Unplanned Outage Factor (UOF) ของ Benchmark (TOP 10 ในอุตสาหกรรม) โรงไฟฟ้าของ GPSC ส่วนใหญ่มีค่า UOF ดีกว่า Benchmark (ยกเว้น โรงไฟฟ้า Glow Energy Phase 5, โรงไฟฟ้า GLOW SPP 11, โรงไฟฟ้า Gheco-one)
- โรงไฟฟ้า Glow Energy Phase 5 ที่ผ่านมามี Reliability สูงมาโดยตลอด กระทั่งปี 2563 เริ่มเกิดปัญหาจากชิ้นส่วนอุปกรณ์ และเข้าสู่ช่วง Mid-life ของเครื่องจักร โดยบริษัทฯ ได้จัดตั้งคณะกรรมการเข้ามาตรวจสอบอย่างจริงจัง, จัดทำแผนงานแก้ไข, และนำระบบ Predictive maintenance เข้ามาใช้งาน คาดเสร็จสมบูรณ์ภายใน 2Q66
- โรงไฟฟ้า Gheco-one บริษัทฯ ให้ข้อมูลว่าเกิดปัญหาจากชิ้นส่วนอุปกรณ์, รอบการซ่อมบำรุง Delay จากสถานการณ์แพร่ระบาด, คุณภาพของถ่านหิน (ผลจากอินโดนีเซียใช้นโยบายห้ามส่งออก) ปัจจุบันบริษัทฯ อยู่ระหว่างทำ Major overhaul 55 วัน (เดือนม.ค. – มี.ค.) ซึ่งคาดว่าจะช่วยให้ UOF ลดลงอย่างมีนัยยะ
- มุมมองต่อภาพรวมธุรกิจปี 2566 ของผู้บริหาร 1) สถานการณ์ราคาพลังงานคลี่คลาย 2) เห็นการปรับค่าไฟฟ้าชดเชยต้นทุน 3) เสถียรภาพการผลิตดีขึ้นหลังผ่านการ Overhaul ช่วงต้นปี ตั้งเป้าเพิ่มรายได้ขายไฟฟ้า +10% YoY ไอน้ำ +3% YoY 4) รับรู้กำลังผลิตใหม่จากโครงการระหว่างก่อสร้าง 350 MW 5) Upside จากการประมูลโครงการพลังงานหมุนเวียนในประเทศ, การขยายตัวของ Avaada, GRP Platform, Battery
- GPSC มีจุดเด่นในธุรกิจพลังงานหมุนเวียนจากการมีพันธมิตร เช่น ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส) และเจ้าของที่ดินช่วยสนับสนุนด้านพื้นที่ และ CIP ช่วย สนับสนุนด้านเทคโนโลยี – ประสบการณ์ในการบริหารโรงไฟฟ้าพลังงานลม
Our Take
- ช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมาหุ้นเคลื่อนไหว Sideway จากความไม่ชัดเจนเกี่ยวกับปัจจัยมหภาค (Recession อาจ Delay ออกไปจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง และเงินเฟ้ออยู่ระดับสูงนานกว่าคาด) รวมทั้งกระแสข่าวว่าคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) อาจทบทวนการกำหนดค่าไฟฟ้าผันแปร (Ft) งวดเดือนพ.ค. – ส.ค. 2556 ให้เหลืออัตราเดียว (ปัจจุบันภาคครัวเรือนอยู่ที่ 4.72 บาท/หน่วย และภาคเอกชนอยู่ที่ 5.69 บาท/หน่วย) ซึ่งเป็นความเสี่ยงต่อค่า Ft ในรอบถัดไป
- อย่างไรก็ตาม เราเชื่อว่าค่า Ft จะไม่ลดลงมากเนื่องจากส่วนต่างค่า Ft ระหว่างภาคครัวเรือน และภาคเอกชนที่สูงในปัจจุบันมาจากนโยบายช่วยเหลือของ PTT ซึ่งหาก Normalized โดยหักประเด็นดังกล่าว ค่า Ft ภาคครัวเรือนจะสูงขึ้น ทำให้เชื่อว่า Downside จากการปรับค่า Ft เหลืออัตราเดียวไม่สูงมาก
- เรามีมุมมองเป็นบวกอ่อนๆ ต่อการประชุมนักวิเคราะห์มองว่าผู้บริหารให้ความสำคัญต่อ การแก้ไขปัญหาเหตุการณ์ Unplanned Shutdown และเพิ่ม Reliability อย่างจริงจัง นอกจากนี้ เราคงมุมมองว่าผลประกอบการปี 2566 จะเห็นการฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ คงประมาณกากำไรสุทธิที่ 5.7 พันล้านบาท +538% YoY คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 82.00 บาท