การเดินทางของดอกเบี้ยกับเงินเฟ้อที่ยังไม่ถึงฝั่งฝัน 1,650-1,665

มุมมองตลาดหุ้นวันนี้

  • คาดดัชนี SET แกว่งตัวอิงทางลง: ตลาดได้รับ Sentiment ทางลบจากฝั่งสหรัฐฯ หลังการเปิดเผยสรุปรายงานการประชุมนโยบายการเงินครั้งที่ผ่านมาของ Fed บ่งชี้ว่ากรรมการ Fed สนับสนุนให้เดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป เพื่อสกัดเงินเฟ้อ ทั้งนี้ CME FedWatch Tool ได้ให้นําหนัก 24% ที่ Fed จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.5% ในการประชุมครั้งถัดไป นอกจากนี้สัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ Fed ยังส่งผลต่อความกังวลในผลกระทบด้านเศรษฐกิจ และหนุนค่าเงินดอลลาร์แข็งค่า ทําให้ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลง 2.9% สู่ระดับ 73.95 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล คาดเป็นปัจจัยกดดันต่อหุ้นในกลุ่มพลังงานวันนี้ ขณะที่ค่าเงินบาทที่ยังเคลื่อนไหวในทิศทางอ่อนค่า และเงินทุนต่างชาติที่ยังคงไหลออกจากตลาดต่อเนื่อง คาดเป็นอีกแรงกดดันต่อตลาด โดยเมื่อวานนี้ต่างชาติขายสุทธิ 4,278 ลบ. ส่งผลให้ภาพ Ytd ต่างชาติมีสถานะขายสุทธิ 11,368 ลบ. ในทางกลับกัน ด้วยสกุลเงินท้องถิ่นที่อ่อนค่า คาดเป็นอานิสงส์ทางบวกหุ้นในกลุ่มส่งออก ด้านในประเทศ จากภาพการเลือกตั้งที่เริ่มเห็น Time-line ชัดเจนขึ้น ส่งผลให้คาดว่าหุ้นในกลุ่มที่ได้รับอานิสงส์ทางบวกจากการเลือกตั้ง รวมถึงหุ้นในกลุ่ม Spending จะยังคงถูกนำมาเก็งกําไรระหว่างตลาดรอปัจจัยหนุนใหม่ๆ โดยทางฝ่ายแนะนำลงทุนหุ้นในกลุ่มดั่งกล่าวที่มีพื้นฐานดีและมีปัจจัยทางบวกเฉพาะตัว เพื่อลดผลกระทบทางลบในยามที่ตลาดเผชิญกับปัจจัยกดดันต่างๆ
  • กลยุทธ์ลงทุน: 1) ศก.ไทยฟื้น+เลือกตั้ง: AEONTS, AP, BJC, CPALL, CRC, CENTEL, MAKRO, SC, SIRI, SPALI, STEC 2) บาทอ่อน: AAI, ICHI, ITC, SAPPE, TU 3) ย้ายฐาน: AMATA, WHA และ 4) Defensive: BH, BDMS, EKH

ปัจจัยบวก

  • ซิตี้กรุ๊ปคาดศก.โลกจะขยายตัวสู่ระดับ 2.2% จากเดิมที่คาดขยายตัวต่ำกว่า 2% เนื่องจากทิศทางศก.มหภาคเริ่มกระเตื้องขึ้น
  • แบล็คร็อค บริษัทบริหารสินทรัพย์รายใหญ่ที่สุดในโลก ประกาศเพิ่มนํ้าหนักลงทุนพันธบัตรรัฐบาลระยะสั้นของ สหรัฐฯ รวมถึงหุ่นจีนและตลาดเกิดใหม่ หลังคาดว่าเฟด อาจเดินหน้าใช้มาตรการที่แข็งกร้าวมากขึ้นเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ

ปัจจัยลบ

  • Fed เผยรายงานการประชุมครั้งที่ผ่านมา โดยระบุว่ากรรมการ Fed มีความกังวลเงินเฟ้อที่ยังสูงกว่าเป้า 2% และตลาดแรงงานยังอยู่ในภาวะตึงตัวมาก ด้วยเหตุนี้ Fed ควรปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อไปจนกว่าจะมั่นใจว่าเงินเฟ้ออยู่ในทิศทางขาลง
  • McKinsey ประกาศแผนปลดพนักงานราว 2,000 คน ซึ่งเป็นการปลดพนักงานจำนวนมากที่สุดของบริษัท
  • โกลด์แบบแชค คาด ECB จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 3 ครั้งในปีนี้ ซึ่งจะส่งผลให้ Terminal Rate ของ ECB เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 3.5% จากเดิมที่คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ 3.25% ส่วนด้านดอยช์แบงก์ปรับขึ้นคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยที่ ECB จะปรับขึ้นเป็น 3.75% จากเดิมที่ 3.25%
  • ยุโรปจะรายงาน CPI เดือนม.ค.รอบที่สองในวันนี้ โดยตลาดคาด +8.6% y-y เพิ่มขึ้นจากรอบเบื้องต้นที่ +8.5% y-y

PICKS OF THE DAY

CENTEL – Buy

  • เป้าหมาย 58.00/60.00 แนวรับ 54.00/55.00
  • คาดกำไรปกติ 4Q65 ดีขึ้น y-y, q-q: จากอุตฯ ท่องเที่ยวฟื้นตัวต่อเนื่องหลังเปิดประเทศ สอดรับกับจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มสูงขึ้นแตะ 5.46 ล้านคนในช่วง 4Q65 ทางฝ่ายประเมินเป็น Sentiment เชิงบวกต่อแนวโน้มผลดำเนินงาน CENTEL มีโอกาสสดใส เบื้องต้นทางฝ่ายคาดกำไรปกติ 4Q65 ที่ 341 ลบ. ดีขึ้น y-y จากช่วง 4Q64 และพลิกจาก 3Q65 ที่มีผลขาดทุน 78 ล้านบาท
  • แนวโน้มทั้งปี 66 คาดสดใสต่อเนื่อง: ทางฝ่ายยังมองบวกต่อภาพทั้งปี 66 ว่าอุตฯ ท่องเที่ยวจะยังเด่นต่อทั้งจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาในไทยและคนไทยที่ท่องเที่ยวภายในประเทศ หนุนภาพธุรกิจทั้งโรงแรมและร้านอาหารฟื้นตัวต่อ นอกจากสัญญาณต้นทุนวัตถุดิบที่เริ่มปรับลง

TU– Buy

  • เป้าหมาย 16.70/17.00 แนวรับ 15.60/15.80
  • ได้ประโยชน์ค่าเงิน: TU ได้ประโยชน์จากบาทอ่อนค่า โดยมีสัดส่วนการขายในอเมริกาถึง 43% และคาดว่ายอดขาย frozen ที่อเมริกาจะกลับ มาเป็นปกติในปีนี้, และส่วนธุรกิจที่อยู่ในยุโรปจะขยายตัวขึ้นกว่าปีก่อน, และในปีนี้คาดว่า Red Lobster จะขาดทุนลดลง
  • ฐานะการเงินดี: หลังจากนำ ITC เข้าตลาดฯ ทำให้ฐานะการเงินอยู่ในระดับดี Net D/E ratio อยู่ที่ 0.54 เท่า พร้อมกลับมาลงทุนเน้นธุรกิจที่เติมโตสูงได้เพิ่ม
  • PE ต่ำ: ปัจจุบัน PE 10.6 เท่า อยู่ในระดับต่ำ เนื่องจากราคาหุ้นได้ลงมารับปัจจัยลบในปี 65 ค่อนข้างมาก, ในปี 66 จะเป็นปีที่ผลการดำเนินงานฟื้นตัวดีขึ้น
- Advertisement -