บล.ทรีนีตี้

เอราวัณ กรุ๊ป – ERW

ซื้อเก็งกำไร ราคาเป้าหมาย 5.20 บาท, Upside/Downside +6%, Median Consensus 5.44 บาท

4Q65 พลิกกลับเป็นกำไรครั้งแรกหลัง COVID และสูงกว่าที่เราคาดการณ์

  • รายงานกำไรสุทธิ 4Q65 ที่ 235 ล้านบาท สูงกว่าที่เราคาดที่ 131 ล้านบาท และพลิกจากขาดทุนสุทธิที่ 12 ล้านบาทใน 3Q65 และขาดทุนสุทธิ 246 ล้านบาท ใน 4Q64
  • RevPar ของทุกกลุ่มโรงแรมในประเทศไทยปรับตัวสูงกว่าช่วง Pre-COVID แล้วใน 4Q65
  • รายงานขาดทุนสุทธิปี 2565 ที่ 229 ล้านบาท ต่ำกว่าที่เราคาดการณ์ที่ 333 ล้านบาท ลดลงจากขาดทุนสุทธิปี 2564 ที่ 1.95 พันล้านบาท
  • คาด 1Q66 อ่อนตัวลง QoQ จากฐานที่สูง และเป็นช่วง Peak Season ของการท่องเที่ยวในประเทศ แต่คาดฟื้นตัวได้โดดเด่น YoY
  • การฟื้นตัวของกลุ่มท่องเที่ยวเร็วกว่าที่เคยคาดการณ์ หลังจากเปิดประเทศเต็มรูปแบบ และมี Upside จากการกลับมาของนักท่องเที่ยวจีนในปี 2566
  • ยังคงคำแนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” ที่ราคาเป้าหมาย 5.20 บาท

4Q65 Earnings Review

  • ERW รายงานกำไรสุทธิ 4Q65 ที่ 235 ล้านบาท สูงกว่าที่เราคาดที่ 131 ล้านบาท และพลิกจากขาดทุนสุทธิที่ 12 ล้านบาทใน 3Q65 และขาดทุนสุทธิ 246 ล้านบาทใน 4Q64 โดย 4Q65 เป็นไตรมาสแรกตั้งแต่เกิดการระบาดของ COVID-19 ที่ ERW สามารถมีผลประกอบการจากพลิกเป็นกำไร
  • EBITDA Margin ใน 4Q65 อยู่ที่ระดับ 34% โดดเด่นจากการฟื้นตัวของรายได้ที่ช่วยให้ได้ประโยชน์จาก Economy of Scale
  • ใน 4Q65 กลุ่มโรงแรมในประเทศ (Excl Hop Inn) มีอัตราเข้าพักเฉลี่ยที่ 82% และ ADR ปรับตัวสูงขึ้น 82% YoY ส่งผลให้ RevPar ปรับตัวสูงขึ้น 397% YoY โดยได้รับอานิสงส์จากช่วงประชุม APEC และการเข้าสู่ Peak Season ของการท่องเที่ยว โดยกลุ่ม Economy มีการฟื้นตัวดีที่สุด RevPar กลุ่ม Hop Inn ในประเทศยังสามารถเติบโตต่อเนื่องที่ 88% YoY จากอัตราเข้าพักที่ 78% แม้มาจากฐานที่สูง และเป็นกลุ่มที่มีผลประกอบการใกล้เคียง Pre-COVID ก่อนกลุ่มอื่นๆ
  • Hop Inn ที่ Philippines มี RevPar ปรับตัวสูงขึ้น 88% YoY จากอัตราเข้าพักที่ 74% โดยการฟื้นตัวมาจากกลุ่มลูกค้าในประเทศเป็นหลัก เนื่องจากนักท่องเที่ยวต่างชาติยังฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยปี 2565 ยังมี RevPar ต่ำกว่า Pre-COVID ที่ราว 12%
  • ปี 2565 มีผลการดำเนินงานขาดทุนสุทธิที่ 229 ล้านบาท ต่ำกว่าที่เราคาดการณ์ที่ 333 ล้านบาท ลดลงจากขาดทุนสุทธิปี 2564 ที่ 1.95 พันล้านบาท โดยมีรายได้ 4.63 พันล้านบาท ปรับตัวสูงขึ้น 211.7% YoY จากอัตราเข้าพักที่ระดับ 58% สูงขึ้นจาก 17% ในปี 2564 และมี RevPar ปรับตัวสูงขึ้น 478% YoY (โรงแรมในประเทศไทย Excl Hop Inn)

คาดปี 2566 สามารถมีผลประกอบการพลิกกลับเป็นกำไร

คาดการเปิดประเทศจีนใน 1Q66 จะเป็น Upside ต่อการฟื้นตัวของกลุ่มโรงแรม เนื่องจากเคยคาดว่านักท่องเที่ยวจีนจะกลับมาเดินทางช่วง 2H66 เป็นต้นไป ในขณะที่สายการบินเริ่มมีการเพิ่มเที่ยวบินให้กลับสู่ระดับ Pre-COVID ส่งผลให้คาดว่าการเดินทางจะคึกคักมากขึ้น ทั้งนี้ TAT คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวในปี 2566 จะอยู่ที่ 25 ล้านราย เป็นการฟื้นตัว 62.5% ของปี 2562 เราคาดว่าปี 2566 ERW จะสามารถมีผลการดำเนินงานพลิกเป็นกำไรได้ที่ 483 ล้านบาท จากการที่ ADR ของทุกกลุ่มโรงแรมสามารถยืนในระดับที่สูงกว่า Pre-COVID ได้ และคาดว่าอัตราเข้าพักเฉลี่ยจะยังคงอยูที่ระดับ 75%

แนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” ที่ราคาเป้าหมาย 5.20 บาท

ยังคงแนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” ที่ราคาเป้าหมาย 5.20 บาท จากการอิงผลประกอบการปี 2566 และค่าเฉลี่ย EV/EBITDA ที่ 17X โดยคาดว่าการฟื้นจะโดดเด่นต่อเนื่องมายัง 1Q66 ซึ่งเป็นช่วง High Season ของการท่องเที่ยวในประเทศ และสามารถพลิกกลับเป็นกำไรได้ในปี 2566

ปัจจัยเสี่ยง

  • ความไม่สงบทางการเมืองในประเทศอาจส่งผลให้การท่องเที่ยวหดตัว
  • ความยืดเยื้อของ COVID-19 ที่ส่งผลกระทบทั่วโลก
  • เศรษฐกิจโลกมีโอกาสเข้าสู่ Recession
  • เงินเฟ้อที่ระดับสูง ส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง
- Advertisement -