บล.บัวหลวง:
Com7 (COM7 TB /COM7.BK)
COM7 – กำไรมากกว่าคาด หนุนโดยยอดขาย
กำไรหลักมากกว่าที่เราคาด( และมากกว่าตลาดคาด)
COM7 รายงานกำไรหลักไตรมาส 4/65 ที่ 965 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% YoY และ 31% QoQ ผลประกอบการมากกว่าที่เราคาด 23% (และมากกว่าตลาดคาด 16% อิงจาก Bloomberg) เนื่องจากยอดขายที่มากกว่าคาด หากรวมการด้อยค่าของสินทรัพย์ กำไรสุทธิจะอยู่ที่ 902 ล้านบาท ทรงตัว YoY แต่เพิ่มขึ้น 23% QoQ สำหรับปี 2565 COM7 รายงานกำไรหลักที่ 3,089 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% YoY การเติบโตของยอดขายที่แข็งแกร่งงหนุนทั้งกำไรในไตรมาส 4/65 และปี 2565 บริษัทประกาศจ่ายเงินปันผลสําหรับปี 2565 ที่ 0.75 บาทต่อหุ้น ซึ่งคิดเป็นอัตราส่วนการจ่ายเงินปันผล 55 % และอัตราตอบแทนจากเงินปันผลที่ 2.4% (จะขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 8 มี.ค.)
ประเด็นสำคัญจากผลประกอบการ
บริษัทรายงานยอดขาย 18,778 ล้านบาทในไตรมาสนี้ เพิ่มขึ้น 7% YoY และ 26% QoQ สำหรับปี 2565 ยอดขายรวมอยู่ที่ 62,733 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23% YoY แม้ว่ายอดขายในไตรมาส 4/65 ของบริษัทจะหยุดชะงักเนี่องจากะ 1) การขาดแคลน iPhone และ 2) รัฐบาลประกาศมาตรการคืนภาษี “ช้อปช่วยชาติ ที่เริ่มในไตรมาส 1/66 ส่งผลให้ผู้บริโภคบางส่วนเลื่อนการชื้อ) แต่ก็ยังคงประสบความสำเร็จทั้งการเติบโตของยอดขายสาขาเดิมและการเติบโตของรายได้ (อัตราการเติบโตของยอดขายรวมทุกสาขาเพิ่มจากการเปิดร้านใหม่)
อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 13.1% เพิ่มขึ้นจาก 12.7% ในไตรมาส 4/64 แต่ลดลงจาก 13.9% ในไตรมาส 3/65 เรามองว่ายอดขาย iPhone ที่ลดลง YoY (เนื่องจากการขาดแคลนอุปทาน) เป็นสาเหตุหลักในการขยายตัว YoY ของอัตรากำไรขั้นต้น (ยอดขาย iPhone มีอัตรากำไรที่ค่อนข้างต่ำ) อัตรากําไรขั้นต้นที่ลดลง QoQ อาจเกิดจากการลดราคาเพื่อกระตุ้นยอดขาย อัตรากำไรจากการดำเนินงานในไตรมาส 4/65 ของ COM7 อยู่ที่ 6.7% เพิ่มขึ้นจาก 6.4% ในไตรมาส 4/64 และไตรมาส 3/65 หนุนจากการควบคุมค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่ดีขึ้น
แนวโน้ม
เราคาดยอดขายที่หายไปในช่วงไตรมาส 4/65 เป็นผลจากปัญหาการขาดแคลน iPhone ซึ่งจะได้รับการชดเชยในไตรมาส 1/66 และหลังจากการกลับรายการอย่างกะทันหันของจีนในนโยบายปลอดโควิดเมื่อต้นเดือนธ.ค. 2565 (ส่งแก้ปัญหาคอขวดของ supply chain) และยอดขายจะหนุนจากโครงการ “ช็อปช่วยชาติ” ของรัฐบาล ดังนั้น COM7 จะรายงานการเติบโตของกำไร YoY และ QoQ ในไตรมาส 1/66
สิ่งที่เปลี่ยนแปลง
ผลประกอบการไตรมาส 4/65 ส่งผลให้เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2566 ขึ้น 2% (สาเหตุหลักมาจากการคาดการณ์ยอดขายที่เพิ่มขึ้น แต่เรายังคงราคาเป้าหมายจากวิธีคิดลดกระแสเงินสด (DCF) ณ สิ้นปี 2566 ที่ 40 บาท ดังเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
คําแนะนํา
ปัจจุบันหุ้นชื้อขายที่ PER 0 2566 – 21.3 เท่า ซึ่งต่ำกว่าทั้งค่าเฉลี่ยในอดีดที่ 22.1 เท่า และค่าเฉลี่ย PER ของกลุ่มค้าปลีกสินค้าที่ 25 เท่า