บล.ฟิลลิป:

กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ – GULF กำไรยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง

Key Point

แนวโน้มผลการดำเนินงานปี 2566 ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากกำลังการผลิตใหม่ที่เพิ่มขึ้น และรับรู้กำลังการผลิตที่ทยอย COD ไปในปี 2565 เต็มปี นอกจากนี้โรงไฟฟ้า SPP ยังได้แรงหนุนจากค่า Ft ที่ปรับตัวสูงขึ้น และแนวโน้มราคาก๊าซธรรมชาติที่อ่อนตัวลง และ GULF ยังคงเดินหน้าเพิ่มกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่อง และมุ่งเน้นไปในธุรกิจพลังงานหมุนเวียนมากขึ้น ทางฝ่ายแนะนำ “ทยอยซื้อ” ราคาพื้นฐาน 58 บาท

แนวโน้มการดำเนินงานปี 2566 ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ทางฝ่ายคาดผลการดำเนินงานปี 2566 อยู่ที่ 17,511 ลบ +53.4% y-y เนื่องจากรับรู้กำลังการผลิตของ GSRC ที่ดำเนินงานครบทุกหน่วยการผลิตเต็มปี และมีกำลังการผลิตใหม่ที่จะทยอย COD เข้ามาทั้งหมด 4 โครงการ 1) โครการ GPD Unit 1 และ Unit 2 ที่มีกำลังการผลิตรวมอยู่ที่ 1,325 MW (ตามสัดส่วนการถือหุ้น 927.5 MW) และมีแผนจะ COD ในช่วง 31 มี.ค และ 1 ต.ค. 2566 ตามลำดับ ส่วน Unit 3 และ Unit 4 จะทยอย COD ในปี 2567 2) โครงการ DIPWP ที่คาดว่าจะ COD ในช่วง 1Q66 โดยมีกำลังการผลิตไฟฟ้าอยู่ที่ 326 MW (ตามสัดส่วนการถือหุ้น 159.7 MW) และมีกำลังการผลิตน้ำจืด (แยกเกลือจากน้ำทะเล) อยู่ที่ 1,667 ลูกบาศก์เมตร/ชั่วโมง 3) การเข้าถือหุ้นของ Jackson Generation ซึ่งมีกำลังการผลิตไฟฟ้าอยู่ที่ 1,200 MW (ตามสัดส่วนการถือหุ้น 588 MW) โดยคาดว่าธุรกรรมจะเสร็จสิ้นภายใน 1Q66 และสามารถรับรู้รายได้ได้ทันที เนื่องจาก Jackson เป็นโรงไฟฟ้าที่ COD ไปตั้งแต่ช่วง 4 พ.ค. 2565 4) โครงการ GULF1 ที่จะทยอย COD กำลังการผลิตที่เหลืออีก 91 MW ภายในปี 2566-2567 และในปี 2566 จะมีการรับรู้รายได้เต็มปีจากการลงทุนใน Thai tank terminal และ THCOM ขณะที่บริษัทคาดว่าธุรกิจ Digital asset exchange จะสามารถเริ่มดำเนินงานได้ภายในปีนี้

คาดโรงไฟฟ้า SPP ผลการดำเนินงานฟื้นตัว y-y

ผลการดำเนินงานของโรงไฟฟ้า SPP มีแนวโน้มที่จะฟื้นตัว y-y เนื่องจากการปรับค่า Ft สำหรับงวด ม.ค.-เม.ย. 2566 5 ขึ้นมาอยู่ที่ 154.92 สตางค์ จากเดิม 93.43 สตางค์ในช่วง 4Q65 ซึ่งค่า Ft ที่ปรับเพิ่มขึ้น 1 สตางค์ จะส่งผลให้กำไรสุทธิของ GULF เพิ่มขึ้นราว 20 ลบ ต่อปี และปัจจุบันราคา LNG JKM อยู่ในระดับที่ต่ำกว่าก่อนเกิดสงครามยูเครน-รัสเซีย ประกอบกับปริมาณการผลิตก๊าซในอ่าวที่คาดว่าจะสูงขึ้นจากปีที่แล้ว ทำให้คาดว่าต้นทุนก๊าซธรรมชาติ (Pool price) จะมีความผ่อนคลายมากขึ้น ซึ่งราคาก๊าซธรรมชาติที่อ่อนตัวลง 1 บาท จะส่งผลให้กำไรสุทธิของบริษัทเพิ่มขึ้นราว 12 ลบ. ต่อปี

GULF ตั้งเป้าเพิ่มกำลังการผลิตสีเขียวเป็นสัดส่วน 40% ของกำลังการผลิต

ปัจจุบัน GULF มีกำลังการผลิตจากพลังงานหมุนเวียนอยู่ที่ 9% ของกำลังการผลิต และตั้งเป้าหมายในการเพิ่มสัดส่วนของพลังงานหมุนเวียนเป็นสัดส่วน 40% ของกำลังการผลิตในปี 2578 ซึ่งปัจจุบัน GULF มีแผนใช้เงินลงทุนในปี 2566-2576 ทั้งหมดอยู่ที่ 170 พันล้านบาท โดยจะใช้เงินลงทุนในพลังงานหมุนเวียนราว 136 พันล้านบาทหรือคิดเป็น 80% ของเงินลงทุน

ความเสี่ยง

  1. ความผันผวนของก๊าซธรรมชาติ
  2. ความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบ
  3. ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน
- Advertisement -