บล.บัวหลวง:

Chularat Hospital (CHG TB/CHG.BK)

CHG – ต่ำกว่าคาด! ไตรมาสที่แย่ที่สุดผ่านไปแล้ว

กําไรตากว่าที่เราคาด 13% และต่ำกว่าตลาดคาด 18%

CHG รายงานกำไรหลักไตรมาส 4/65 ที่ 285 ล้านบาท ลดลง 84% YoY แต่เพิ่มขึ้น 10% QoQ ซึ่งต่ำกว่าที่เราคาด 13% และต่ำกว่าที่ตลาดคาด 18% (รายได้และอัตรากำไรขั้นต้นต่ำกว่าที่เราคาด 6.7% และ 2.8% ตามลำดับ) CHG ประกาศจ่ายเงินปันผลครึ่งหลังของปี 2565 ที่ 0.075 บาทต่อหุ้น ซึ่งคิดเป็นอัตราตอบแทนจากเงินปันผลขั้นต้นที่ 1.9% (จะขึ้นเครื่องหมาย XD ใน วันที่ 28 เม.ย. และจ่ายปันผลในวันที่ 19 พ.ค.)

ประเด็นสําคัญจากผลประกอบการ

รายได้จากธุรกิจการแพทย์อยู่ที่ 1.7 พันล้านบาท ในไตรมาส 4/65 ลดลง 55% YoY และ 15% QoQ เนื่องจากรายได้ที่เกี่ยวกับโควิดลดลง รายได้ของบริษัทแบ่งได้เป็น รายได้ผู้ป่วยเงินสด 63% รายได้จากสํานักงานประกันสังคม 36% และจากสปสช. 0.4% ซึ่งรายได้ผู้ป่วยเงินสดอยู่ที่ 1.1 พันล้านบาท ลดลง 15% YoY และ 17% QoQ รายได้จากสำนักงานประกันสังคมอยู่ที่ 626 ล้าน บาท ลดลง 7% YoY แต่เพิ่มขึ้น 11% QoQ หนุนโดยการลงทะเบียนประกันสังคมที่เพิ่มขึ้น และการกลับมาของผู้ป่วยในที่มีค่ารักษาพยาบาลที่สูง รายได้จากผู้ป่วยของสปสช.อยู่ที่ 6.6 ล้านบาท ลดลง 99.7% YoY และ 95.6% QoQ เนื่องจากรัฐบาลเลิกสนับสนุนทางการเงินสำหรับการดูแลผู้ป่วยเกี่ยวกับโควิด-19 ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาสนี้อยุ่ที่ 32.4% ปรับตัวลง จาก 61.1% ในไตรมาส 4/64 (ซึ่งทำสถิติสูงสุด) แต่เพิ่มขึ้นจาก 29.1% ในไตรมาส 3/65 อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายอยู่ที่ 14.0% เพิ่มขึ้น 11% YoY และ 1.9% QoQ สถานะเงินสดสุทธิ ณ สิ้นปี 2565 อยู่ที่ 2.3 พันล้านบาท

แนวโน้ม

กำไรในไตรมาส 1/66 จะลดลง YoY แต่เพิ่มขึ้น QoQ (จากการเปรียบเทียบฐานที่ต่ำในไตรมาส 4/65) โดยรายได้ในไตรมาสนี้จะลดลง YoY (รายได้ สปสช.ลดลง หลังรัฐถอนเงินช่วยเหลือดูแลผู้ป่วยโควิด-19) แต่เพิ่มขึ้น QoQ (รายได้ประกันสังคมที่สูงขึ้น QoQ จากการลงทะเบียนประกันสังคมที่เพิ่มขึ้น และการกลับมาของผู้ป่วยในที่มีค่ารักษาพยาบาลที่สูง) ขณะที่อัตรากำไรหลักมีแนวโน้มลดลง YoY (ทรงตัว QoQ) เราคาดอัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขาย และบริหารต่อยอดขายจะเพิ่มขึ้น YoY แต่ลดลง QoQ (รายได้ที่เพิ่มขึ้น)

สิ่งที่เปลี่ยนแปลง

จากผลประกอบการไตรมาส 4/25 ของ CHG ที่กลับมาปกติ (เติบโตเล็กน้อย) ส่งผลให้ประมาณการกำไรหลักในปี 2566 ของเราคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลงที่ 1.4 พันล้านบาท ลดลง 49% YoY จากฐานที่สูงมากในปี 2565 แต่เพิ่มขึ้น 97% จากตัวเลขปี 2562 เราคาดสถานะเงินสดสุทธิ ณ สิ้นปี 2566

คําแนะนํา

ราคาหุ้น CHG ได้ปรับตัวลดลงในศุกร์ที่ผ่านมา เรามองว่าราคาหุ้นได้สะท้อนผลประกอบการที่น่าผิดหวังไปเรียบร้อยแล้ว เรามองว่าการปรับตัวลดลงของราคาหุ้นเป็นโอกาสในการเข้าซื้อ เนื่องจากสิ่งเลวร้ายทั้งหมดถูกรายงานไว้ใน งบการเงินไตรมาส 3/65 และการเติบโตเล็กน้อยถูกรายงานในไตรมาส 4/65 ปัจจุบัน CHG ชื้อขายที่ PER ปี 2566 เพียง 29.3 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 33.4 เท่าอยู่ 12% เรายังคงแนะนำ ซื้อ ที่ราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2566 อ้างอิงจากวิธีคิดลดกระแสเงินสด (DCF) ที่ 4.30 บาท (บนสมมติฐาน WACC ที่ 6.9% และ Terminal Growth ที่ 2.0%)

- Advertisement -