บล.ฟิลลิป:
IVL: กำไรอ่อนตัวลงทุกธุรกิจ
ซื้อ TP’66: 63.00
แม้ผลการดำเนินงานใน 4Q65 จะอ่อนตัวลงในทุกธุรกิจ แต่ทางฝ่ายคาดว่าผลการดำเนินงานจะสามารฟื้นตัวได้ในช่วง 1Q66 เนื่องจากต้นทุนค่าขนส่งที่กลับสู่ภาวะปกติ และคาดว่าอุปสงค์ในผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีจะฟื้นตัว จากการกลับมาเปิดประเทศของจีน ทางฝ่ายคงคําแนะนํา “ซื้อ”
- ผลการดำเนินงาน 4Q65 อ่อนตัวลง q-q อย่างมีนัย: ผลการดำเนินงาน 4Q65 อ่อนตัวลงอย่างมีนัยอยู่ที่ -11,478 ลบ. โดยหลักมาจากผลการดำเนินงานที่อ่อนตัวลงในทุกธุรกิจ ดังนี้ 1) ธุรกิจ CPET มี Core EBITDA อยู่ที่ 136 ล้านดอลลาร์ อ่อนตัวลง 58.5% q-q เนื่องจากลูกค้ามีการลดปริมาณสินค้าคงคลังในช่วงไตรมาส 4 ส่งผลให้ IVL ลดอัตราการใช้กำลังการผลิตลงอยู่ที่ 69% จาก 84% ใน 3Q65 และมีปริมาณการขายลดลงอยู่ที่ 2.3 ล้านตัน จากเดิม 2.6 ล้านต้น ใน 3Q65 ประกอบกับส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ที่อ่อนตัวลง q-q 2) ธุรกิจ IOD มี Core EBITDA อยู่ที่ 126 ล้านดอลลาร์ อ่อนตัวลุง 42.1% q-q เนื่องจากส่วนต่างราคาของเอทิลีนที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำ ทำให้ IVL เลือกที่จะปิดซ่อมบำรุงโรงงาน IVOL ซึ่งส่งผลให้อัตราการใช้กำลังการผลิตโดยรวมลดลงอยู่ที่ 71% จากเดิม 85% ใน 3Q65 ประกอบกับส่วนต่างราคาของ MTBE ที่กลับสู่ภาวะปกติมากขึ้น หลังจากทำจุดสูงสุดไปในช่วง 2Q65 (2Q65 อยู่ที่ 884 ดอลลาร์/ตัน, 3Q65 อยู่ที่ 637 ดอลลาร์/ตัน, 4Q65 อยู่ที่ 601 ดอลลาร์/ตัน) 3) ธุรกิจ Fiber มี Core EBITDA อยู่ที่ 22 ล้านดอลลาร์ อ่อนตัวลง 54.5% q-q เนื่องจากการใช้มาตรการ COVID ของจีนส่งผลให้อุปสงค์ค่อนข้างอ่อนแอ ประกอบกับลูกค้ามีสินค้าคงเหลือในระดับสูง ส่งผลให้ปริมาณการขายลดลงอยู่ที่ 0.3 ล้านตัน จากเดิม 0.4 ล้านต้น ใน 3Q65 และนอกจากนี้ในไตรมาส 4 IVL มีการรับรู้ขาดทุนจากการด้อยค่าสินทรัพย์อยู่ที่ 260 ล้านดอลลาร์ (8,308 ลบ.) ซึ่งเป็นการตั้งด้อยค่าสำหรับโรงงานของธุรกิจ Fiber และCPET ตามลำดับ เนื่องจากประสิทธิภาพในการแข่งที่ลดลง