บล.ฟิลลิป:

ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก– OR เติบโตทั้ง Mobility และ Lifestyle

Key Point

แนวโน้มค่าการตลาดน้ำมันที่กลับสู่ภาวะปกติตามปี 2563 และปริมาณการขายน้ำมันที่คาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้น y-y หนุนให้ผลการดำเนินงานของธุรกิจ Mobility ปรับตัวดีขึ้น ขณะที่ธุรกิจ Lifestyle ผลการดำเนินงานมีแนวโน้มที่ดีขึ้นจากต้นทุนวัตถุดิบที่มีความผ่อนคลายมากขึ้น นอกจากนี้ยังคาดว่าจะได้รับแรงหนุนจากการเติบโตของ EV และปัจจุบันราคาซื้อ-ขายในระดับที่ค่อนข้างต่ำ ทางฝ่ายยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาพื้นฐาน 27 บาท

ค่าการตลาดกลับสู่ภาวะปกติหนุนกำไร

ทางฝ่ายคาดผลการดำเนินงานปี 2566 อยู่ที่ 12,930 ลบ +24.7% y-y เนื่องจากคาดว่าปริมาณการนำเข้าน้ำมัน  และต้นทุนน้ำมันที่สูงจะลดลงอย่างมีนัยจากช่วง 4Q65 จากการกลับมาดำเนินงานปกติของโรงกลั่นในประเทศ  ประกอบกับการปรับค่าการตลาดกลับสู่ภาวะปกติตามปี 2563 ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้ค่าการตลาดของน้ำมันดีเซลปรับตัวสูงขึ้นประมาณ 1 บาท/ลิตร ขณะที่ค่าการตลาดของน้ำมันเบนซินก็มีโอกาสที่จะลดลงกลับสู่ภาวะปกติเช่นกัน  แต่ทางฝ่ายคาดว่าปัจจัยข้างต้นจะส่งผลบวกต่อ OR มากกว่าเป็นผลกระทบทางลบ เนื่องจาก OR มีสัดส่วนการขายน้ำมันดีเซลอยู่ที่ประมาณ 60% ซึ่งค่าการตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป 0.10 บาท จะส่งผลกระทบต่อกำไรสุทธิประมาณ 2,200 ลบ. และในปี 2566 OR มีแผนที่จะขยายสถานีบริการน้ำมันเพิ่มขึ้นอีก 122 สถานี ประกอบกับการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวมากขึ้น ทำให้คาดว่าปริมาณการขายน้ำมันจะปรับตัวดีขึ้น y-y นอกจากนี้ OR มีแผนที่จะขยายตลาดน้ำมันกลุ่ม premium ให้มากขึ้นซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วนของผลิตภัณฑ์ premium อยู่ที่ราว 2% และตั้งเป้าในการเพิ่มสัดส่วนดังกล่าวเป็น 5% ในปี 2566

คาดผลการดำเนินงานธุรกิจ Lifestyle ฟื้นตัวจากช่วง 2H65

คาด EBITDA margin ของธุรกิจ Lifestyle ในปี 2566 จะปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 23-24% จากในช่วง 2H65 อยู่ที่เพียง 22% เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบที่มีความผ่อนคลายมากขึ้น ประกอบกับการปรับขึ้นราคาของ Café Amazon ที่มีผลตั้งแต่ช่วงเดือน ต.ค. 2565

ธุรกิจ Lifestyle ที่จะเติบโตไปพร้อมกับ EV

ปี 2566 วางงบลงทุนไว้ที่ 31.2 พันล้านบาท แบ่งตามประเภทธุรกิจ ขณะที่มีแผนในการขยายสาขา Café Amazon จำนวน 400 สาขา และ EV charging station อีกจำนวน 500 จุด โดยในช่วงแรกคาดว่าผลตอบแทนทางตรงของจุดชาร์จ EV อาจไม่ได้สูงมากนักแต่ OR คาดหวังผลตอบแทนทางอ้อมจากการเข้ามาใช้บริการในสถานีบริการที่นานขึ้น เนื่องจากระยะเวลาในการชาร์จแบตที่ใช้ระยะเวลานานกว่าการเติมน้ำมัน

ความเสี่ยง

1.การเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบของภาครัฐ

2.ความผันผวนของราคาน้ำมัน

3.การแข่งขันที่มากขึ้นในอุตสาหกรรม

- Advertisement -