บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):
Siam Makro (MAKRO.BK/MAKRO TB)
จับตาการคุมต้นทุน
Event
ประชุมนักวิเคราะห์
Impact
ยอดขายและรายได้จากค่าเช่าเพิ่มขึ้น
โมเมนตัมยอดขายแสดงสัญญาณการฟื้นตัว ทั้งในธุรกิจค้าส่ง และค้าปลีก โดย QTD SSSG ของธุรกิจค้าส่งสูงถึงสองหลัก ในขณะที่ QTD SSSG ของธุรกิจค้าปลีกเป็นเลขตัวเดียวต่ำๆ ซึ่งเป็นผลมาจากการกลับมาของนักท่องเที่ยวและกิจกรรมทางธุรกิจ ในขณะเดียวกัน ธุรกิจการเช่าก็ดีขึ้นเช่นกัน โดย occupancy rate กำลังฟื้นตัวขึ้น (Lotus’s ในประเทศไทยอยู่ที่ 90% และ Lotus’s ในมาเลเซียอยู่ที่ 93%) และคาดว่าจะกลับไปอยู่ที่ 96% ในปีนี้
คาดว่าค่าใช้จ่ายจะเพิ่มขึ้นอีก
ในปีที่แล้ว MAKRO ต้องเผชิญกับค่าใช้จ่ายที่สูงเกี่ยวกับระบบ IT, การทำ rebrand และการพัฒนาด้านอื่นๆ และเนื่องจากบริษัทยังคงเน้นพัฒนาในหลายๆ ด้าน อย่างเช่น ช่องทางออนไลน์และการขยายสาขาร้าน เราจึงคาดว่าค่าใช้จ่ายจะเพิ่มขึ้นอีกในปีนี้ แต่อัตราการเพิ่มจะเบากว่าเมื่อปีที่แล้ว ทั้งนี้ บริษัทมีแผนจะเปิดสาขาใหม่เพิ่มอีกสี่ร้านในธุรกิจค้าส่ง (3 ร้านในประเทศไทย และอีก 1 ร้านในประเทศอินเดีย) และอีกหกร้านในธุรกิจค้าปลีก (5 ร้านในประเทศไทย และอีก 1 ร้านในประเทศมาเลเซีย)
เดินหน้าปรับโครงสร้างหนี้
เมื่อสิ้นปี 2565 บริษัทมีหนี้ที่มีภาระดอกเบี้ย 1.117 แสนล้านบาท แบ่งเป็นสกุลดอลลาร์ฯ 38% สกุลบาท 46% และสกุล MYR 16% โดย 29% คิดดอกเบี้ยคงที่ และอีก 71% คิดดอกเบี้ยลอยตัว ทั้งนี้ บริษัทได้ชำระหนี้บางส่วนไปในเดือนมกราคม ทำให้ profile หนี้ เปลี่ยนแปลงไป เป็นหนี้สกุลดอลลาร์ฯ 17% สกุลบาท 65% และสกุล MYR 18% โดย 48% คิดดอกเบี้ยคงที่ และอีก 52% คิดดอกเบี้ยลอยตัว MAKRO วางแผนจะปรับโครงสร้างหนี้ในปีนี้เพื่อลดความเสี่ยงจากอัตราดอกเบี้ย ซึ่งคาดว่าจะทำให้ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยลดลงในช่วงครึ่งหลังของปีนี้
Valuation
เรายังคงคำแนะนำ “ถือ” MAKRO และประเมินราคาเป้าหมายสิ้นปี 2566 ที่ 42 บาท อิงจาก PER ที่ 35.0x (ค่าเฉลี่ยในอดีตของ MAKRO และ C.P. All (CPALL.BK/CPALL TB)* +1.0 S.D.)
Risks
เศรษฐกิจชะลอตัวลง, ราคาสินค้าเกษตรลดลง, ขยายสาขาได้น้อยกว่าแผนที่กำหนดไว้, disruption ที่เกิดจากเทคโนโลยีใหม่, ความเสี่ยงด้านกฎเกณฑ์ของทางการ และค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากการขยายกิจการในต่างประเทศ