Daily Focus: Selective Play // Accumulate on Dip

2023SET Target: 1750

ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index ยังอ่อนตัวลงเล็กน้อย ปิดลบ 2.37 จุด แม้จะมี DELTA ที่ปรับขึ้นแรงช่วยประคอง  แต่หุ้นขนาดใหญ่อื่นๆ ยังเผชิญแรงขายต่อเนื่อง โดยตลาดยังขาดปัจจัยบวกใหม่เข้ามาหนุนทั้งในและต่างประเทศ  สถาบันในประเทศยังซื้อสุทธิในตลาดหุ้นอีก 805 ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหนาแน่นต่อเนื่องอีก 3 พันลบ. (และยัง Short Index Futures หนาแน่นอีกกว่า 2 หมื่นสัญญา)

แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index ยังแกว่ง Sideways โดยแนวรับหลักอยู่ที่ 1,600- 1,610 จุด ระยะสั้นตลาดอาจมี Technical Rebound ได้บ้างหลังปรับตัวลงติดต่อกัน 5 วันก่อนหน้า และ RSI เริ่มเข้าใกล้เขต Oversold ขณะที่ Bond Yield สหรัฐฯ ที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องยังกดดันสินทรัพย์เสี่ยงในระยะนี้ อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าตลาดเริ่ม Price-In แนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ FED ที่จะไป Peak ที่ระดับ 5.25-5.5% ใน 2Q23 ไปมากพอสมควร ทำให้มีโอกาสที่ Bond Yield มีโอกาสใกล้ถึงจุด Peak ในระยะ 1-2 เดือนนี้ ขณะที่ SET Index ที่ปรับฐานลงกว่า 4% สะท้อนภาพกำไร 4Q22 ของบจ.ที่ต่ำกว่าคาดและ Outlook ปี 2023 ไปพอสมควรแล้ว ระยะสั้นกระแสเงินทุนยังมีแนวโน้มไหลออก แต่คาดปริมาณจะเริ่มบางลง และยังมองจังหวะปรับฐานของดัชนีในช่วงปลาย 1Q23 ถึง 2Q23 ซึ่งมีโอกาสเป็น Bottom ของรอบ เป็นจังหวะสะสมหุ้นระยะกลาง-ยาว จากแรงกดดันนโยบายการเงินของโลกที่ผ่อนลง ขณะที่เศรษฐกิจไทยคาดยังทยอยเร่งตัวขึ้นโดยเฉพาะใน 2H23 ส่วนระยะสั้นมี Catalyst จากการหาเสียงเลือกตั้งใน 1-2 เดือนข้างหน้าที่จะมีเม็ดเงินสะพัดช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเฉพาะการบริโภค

กลยุทธ์ : เลือกเก็งกำไรหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว//ระยะกลาง-ยาวทยอยสะสมหุ้นช่วงตลาดปรับฐานบริเวณ 1,600 จุดหรือต่ำกว่า

หุ้นเด่นเดือน มี.ค. : ASW, BEYOND, CPN, M, NSL

หุ้นเด่นวันนี้ : ILINK

  • แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 11.50 บาท
  • เราคาดกำไรปี 2023 +20% y-y ดีขึ้นทั้งธุรกิจของ ILINK โดยเฉพาะการรับรู้งานเกาะเต่า ต่อเนื่องจากปลายปีก่อน ขณะที่ ITEL มีทิศทางผลการดำเนินงานฟื้นตัวเช่นกัน
  • จุดเด่นของ ILINK คือ Valuation ยังถูก เทรด PER เพียง 9 เท่า และให้ Dividend Yield ราว 6% ต่อปี ช่วยจำกัด Downside และไม่มีแรงกดดันจากกระแสเงินทุนที่ไหลออก
  • แนวรับ 7.50-7.40 บาท แนวต้าน 8 บาท

Fund Flow : วานนี้กระแสเงินทุนยังไหลออกจากภูมิภาค US$132 ล้าน นำโดยไทย US$87 ล้าน ส่วนไต้หวันกลับมาเปิดทำการเม็ดเงินไหลออก US$77 ล้าน ขณะที่เกาหลีใต้ปิดทำการ ส่วนอาเซียนประเทศอื่นๆ เม็ดเงินค่อนไปในฝั่งไหลออก มีเพียงอินโดนีเซียที่ไหลเข้า US$56 ล้าน แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดว่ายังค่อนไปในทิศทางไหลออกต่อเนื่องในระยะสั้นจาก Bond Yield สหรัฐฯ ที่ยังปรับขึ้น

ประเด็นสําคัญวันนี้

(0) จับตาส่งออกไทยเดือน ม.ค. จากกระทรวงพาณิชย์ ตลาดคาด -1.4% Y-y ขณะที่การนำเข้า -4% Y-Y ซึ่งจากรายงานภาวะเศรษฐกิจเดือน ม.ค. ของธปท.ระบุว่ายังเป็นการขาดดุลการค้าที่ยังค่อนข้างสูง ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวแม้จะฟื้นตัวแต่ชดเชยได้ไม่หมด ทำให้เดือน ม.ค. ไทยขาดดุลบัญชีเดินสะพัด US$2 พันล้าน ตลาดประเมินการส่งออกปีนี้ทรงตัวจากแรงกดค้นด้านเศรษฐกิจภายนอก ชะลอจากเงินเฟ้อและดอกเบี้ยที่สูง

(+) SAWAD ผู้บริหารตั้งเป้าสินเชื่อปี 2023 โด 20-30% ส่วน NPL คาดปรับขึ้นเล็กน้อยเป็น 2.5-2.7% ส่วน NIM ระยะสั้นคาดชะลอลงจากต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะชดเชยได้จากรายได้ค่าธรรมเนียมจากผลิตภัณฑ์ประกันใหม่ใน 2H23 เราเชื่อว่าทิศทางกำไรของ SAWAD จะสามารถโตได้ทั้ง q-q และ y-y ใน 1Q23 และมีความกังวลด้านคุณภาพหนี้ต่ำสุด เราชอบ SAWAD มากกว่า TIDLOR และ MTC นอกจากนี้ยังมี Catalyst จากโอกาสเข้าคํานวณใน SET50 แทน DTAC

(+) PR9 ผู้บริหารตั้งเป้ารายได้ปี 2023 โด 13% y-y แม้ฐานจะสูงในปี 2022 หนุนจากผู้ป่วยต่างชาติที่ยังดี บริษัทคาดหวังการส่งต่อผู้ป่วยจากลาวและกัมพูชา หลังขยายความร่วมมือกับ รพ.ท้องถิ่น รวมถึงผู้ป่วยจากจีนที่บินมาใช้บริการ IVF โมเมนตัม 1Q23 คาดยังโต Y-Y แต่ q-q อาจอ่อนตัวตามฤดูกาล ปัจจุบันเราคาดกำไรปี 2023 ที่คาด +3% y-y และราคาเป้าหมายอยู่ที่ 22 บาท แนะนำ “ซื้อ”

(+) ตลาดฯ ประกาศหุ้นเข้า SET50/SET 100 แทน TRUE-DTAC ที่ควบรวม โดย SAWAD ได้เข้าคํานวณใน SET50 ขณะที่ SJWD ได้เข้าคำนวณใน SET100 คาดเป็น Catalyst บวกต่อราคาหุ้น ขณะที่ SIRI อาจมี Sentiment ลบ เนื่องจากช่วงก่อนหน้านี้ตลาดเก็งว่าจะเป็นหุ้นที่ได้เข้า SET100

 

(0) ตลาดดาวโจนส์ เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 5.14 จุด หรือ +0.02% ปิดที่ 32,661.84 จุด โดยตลาดยังกังวลการขึ้นดอกเบี้ยของ FED ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปีที่พุ่งขึ้นทะลุระดับ 4%

(-) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดลบ ถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นบีเอ็นพี พาริบาส์ (BNP.PA) ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่ที่สุดของยุโรโซน หลังมีรายงานว่ารัฐบาลเบลเยี่ยมกำลังเตรียมที่จะขายหุ้น 1 ใน 3 จากที่ถืออยู่ 7.8% ใน BNP

(+) ตลาดหุ้นเอเชีย เปิดบวก ตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐ และตัวเลข PMI ภาคการผลิตของจีนที่ออกมาดีกว่าตลาดคาด

(+) ค่าเงินบาท แข็งค่า อยู่ที่บริเวณ 34.77 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX เพิ่มขึ้น 64 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 77.69 ดอลลาร์/ บาร์เรล จากตัวเลข PMI ภาคการผลิตของจีนภาคการผลิตพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 11 ปี ในขณะที่เช้านี้เท่านี้ย่อตัวลงที่ระดับ 77.63 ดอลลาร์/บาร์เรล – 0.08%

(+) ราคาทองคำ COMEX เพิ่มขึ้น 8.70 ดอลลาร์ หรือ 0.47% ปิดที่ 1,845.40 ดอลลาร์/ออนซ์ จากการอ่อนค่าของดอลลาร์ ในขณะที่เช้านี้ย่อตัวลงที่ระดับ 1,843.5 ดอลลาร์/ออนซ์ -0.10%

SPDR Gold Trust ถือครองทองค่า 912.69 / -2.61

- Advertisement -