แรงกดดันจากตะวันตกปะทะแรงหนุนภายในภูมิภาค 1,610-1,630
มุมมองตลาดหุ้นวันนี้
- คาด SET แกว่งตัว Sideways: ภาพความกังวลการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดและ ECB ยังคงเป็นปัจจัยกดดันตลาด หลังปธ.เฟด มินเนอาโพลิส ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเดือนนี้ และข้อมูลจาก FedWatch Tool ให้น้ำหนัก 30% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมดังกล่าว โดยคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแตะระดับสูงสุดในกรอบ 5.50-5.75% ในเดือนก.ย. และจะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ขณะที่ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ 2 และ 10 ปี ซึ่งดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 4.9% และ 4.0% คาดเป็นปัจจัยกดดันต่อการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง ด้านฝั่งยุโรปการรายงาน CPI เดือนก.พ.ในวันนี้ อาจสูงกว่าคาด (ตลาดคาด +0.5% m-m) หลังเยอรมนี ฝรั่งเศส และสเปนเผย CPI สูงกว่าคาด และอาจเป็นปัจจัยหนุนให้ ECB เดินหน้าขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่าง Hawkish ได้ อย่างไรก็ดี ตลาดยังมีปัจจัยหนุนจากภาพการฟื้นตัวของศก.จีน หลังการรายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนก.พ.ของจีนเมื่อวานนี้ ที่ยืนเหนือระดับ 50 คาดเป็น Sentiment ทางบวกต่อตลาดและหุ้นในกลุ่มที่มีความเกี่ยวข้องกับจีนอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ปัจจัยในประเทศคาดเป็นอีกแรงหนุนต่อตลาด หลังธปท.เผยดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือนก.พ.ปรับขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 50 จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลดีต่อความเชื่อมั่นของภาคที่มิใช่การผลิตในเกือบทุกหมวดธุรกิจ ขณะที่วันนี้ติดตามการแถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทยเดือนม.ค.จากก.พาณิชย์ โดยตลาดคาดส่งออกและนำเข้าหดตัว 1.80% y-y และ 3.95% y-y ตามลำาดับ SAWAD, SJWD, SIRI 2) ความหวังศก.จีนพื้น: HANA, NER, STA และ 3) Defensive+Dividend: AP, ORI, SAT, TISCO
- กลยุทธ์ลงทุน: 1) Spending+ท่องเที่ยว: AEONTS, AMATA, BBL, BLA, BEM, BJC, CENTEL, ERW, OSP, SABINA,
ปัจจัยบวก
- ธปท. เผยดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือนก.พ.ปรับขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 50 ได้เป็นครั้งแรกในรอบ 8 เดือน โดยอยู่ที่ระดับ 50.6 จากระดับ 49.8 ในเดือนม.ค. ตามความเชื่อมั่นด้านผลประกอบการ คำสั่งชื้อ และการจ้างงานที่ปรับเพิ่มขึ้น
- กกร.คาดศก.ไทย 1Q66 จะไม่หดตัวต่อจนเป็น technical recession โดยท่องเที่ยวจะหนุนศก.ใน 1Q ให้ฟื้นตัวได้ คงคาดศก.ปี 66 ที่ 3-3.5% และคาดนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทั้งปี 25-30 ล้านคน สูงกว่าประมารการเดิมที่ 22 ล้านคน
- รมว.คมนาคมเผยเดือนก.พ. มีผู้โดยสารเดินทางเข้าออกประเทศรวม 4.56 ล้านคน โดยปริมาณผู้โดยสารเดือน ก.พ. เพิ่มขึ้น 139.33% จากค่าเฉลี่ยรายเดือน ปี 65
ปัจจัยลบ
- ปธ.เฟดมินเนอาโพลิสเผยว่าเขาเปิดกว้างต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% หรือ 0.50% ในการประชุมของเฟดใน เดือนมี.ค. และอัตราดอกเบี้ยขั้นสุดท้ายของเฟดจําเป็นต้องสูงกว่าระดับ 5.4% ที่เขาคาดไว้ในเดือนธ.ค.65
- เยอรมนีเผย CPI เดือนก.พ. ขยายตัว 0.8% m-m และ 8.7%y-y สูงกว่าตลาดคาดที่ระดับ 0.6% m-m และ 8.5% y-y
- AmCham China เผยผลสำรวจพบว่าจีนไม่ได้อยู่ในอันดับ 1 ใน 3 จุดหมายปลายทางด้านการลงทุนยอดนิยมที่สุดของน.สหรัฐฯ อีกต่อไป จากความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่างสหรัฐฯและจีน
- GoerTek Inc เผยซัพพลายเออร์จีนของ Apple มีแนวโน้มที่จะย้ายฐานการผลิตออกจากจีนเร็วกว่าที่นักวิเคราะห์จํานวนมากคาดการณ์เอาไว้อย่างมาก เพื่อป้องกันผลกระทบจากปัญหาตึงเครียดระหว่างจีนและสหรัฐฯ
PICKS OF THE DAY
HANA BUY
- เป้าหมาย 62.00/64.0 แนวรับ 57.75/58.75
- แข็งกว่าตลาด: เศรษฐกิจจีนที่ฟื้นตัวและเงินบาทที่กลับมาอ่อนค่า ทำให้ใน sentiment ในช่วงนี้หุ้นกลุ่มอิเล็ก ทรอนิกส์ยังคงแข็งแกร่งกว่าตลาด
- PMI จีนขยายตัวเกินคาด: จีนรายงานตัวเลขดัชนี PMI เดือน ก.พ. ขยายตัว 52.6 จุด ดีกว่าคาด, หนึ่งในอุตสาหกรรมการผลิตของจีนที่มีขนาดใหญ่และเติบโตอย่างรวดเร็วคืออุตสาหกรรม IT, มอง HANA มีสัดส่วนการขายในจีนที่ 12.5% และจุดเด่นที่ประกาศกำไรปี 65 เติบโต 36%y-y, ดึง PE ปัจจุบันลงมาอยู่ที่ 22.9 เท่า ลงมาอยู่ในโซนต่ำเทียบกับตัวเองและยังถูกกว่าหากเทียบกับ KCE และ Delta ซึ่งอยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกัน
SAWAD BUY
- เป้าหมาย 56.50/58.50 แนวรับ 53.00/54.25
- ตั้งเป้าเติบโตสูงต่อ: ในปี 65 SAWAD มีการเติบโตที่โดดเด่น โดยมีสินเชื่อเติบโตสูงถึง 62% และในปี 66 ยังตั้งเป้าจะเติบโตสูงต่อถึง 25 – 30% จากการเปิดสาขาเพิ่มประมาณ 1 สาขา/วัน
เก็งเข้าคำนวณในดัชนี SET50 แทน DTAC: หลังหยุดพักซื้อขายไปตั้งแต่วันที่ 20 ก.พ. – 2 มี.ค. 66 ระหว่าง DTAC-TRUE เพื่อควบรวมกิจการ และกลับมาเทรดในวันที่ 3 มี.ค. 66 นั้น เบื้องต้นจากการคำนวณมูลค่าตลาด (Market Cap.) ของรายชื่อหุ้นสำรองที่จะถูกเข้าคำนวณแทนที่ DTAC ที่จะถูกถอดจากตลาดนั้น พบว่า SAWAD มีความเป็นไปได้สูงที่จะถูกเข้าคำนวณในดัชนี SET50 ด้วยมูลค่าตลาดปัจจุบันที่ล่าสุดสูงสุดในกลุ่มกว่า 70,000 ลบ.