KS Daily View 02.03.2023 >>> วันนี้-10 มี.ค. ประเมินค่าเงิน Dollar Bond Yields แกว่งตัวรอตัวเลขแรงงานสหรัฐ SET คาดแกว่งตัว 1,614 – 1,630 จุด หุ้นแนะนำวันนี้ BEM
สรุปตลาดหุ้นเมื่อวาน
ในประเทศ SET Index ปิด 1619.98 จุด (-0.15%) โดยหุ้นที่ปรับลงแรงและกดดัชนีคือ EGCO -5.85%, GULF -2.4%, EA -2.24%, SCC-1.83%, CPALL -1.61% ฯลฯ ส่วนหุ้นที่ปรับขึ้นเด่นคือ DELTA +8.11%, RAM +3.7%, PTTEP +1.67%, MAKRO +1.24% ฯลฯ
โดยประเด็นสำคัญที่เกิดขึ้นคือ
ต่างประเทศ : ตลาดหุ้นสหรัฐแกว่งตัวในกรอบแคบๆ อิง ดัชนี Dow Jones 0.02%, S&P500 -0.47%, ดัชนี Nasdaq -0.66% โดย Sector ในดัชนี S&P500 ส่วนใหญ่ปรับลง โดยกลุ่มที่ Underperform หลักๆ คือ Utilities -1.72%, Real Estate -1.49%, Consumer Discretionary -1.3%, IT -0.81% ฯลฯ ส่วนกลุ่มที่ Outperform หลักๆคือ Energy 1.94%, Materials 0.68%, Industrials 0.38%
ประเด็นที่ต้องติดตามและคาดเป็นกระแสต่อการลงทุน
1.) เมื่อคืนตลาดหลักทรัพย์(ตลท.) ประกาศเปลี่ยนแปลงรายชื่อหุ้นในดัชนี SET50 และ SET100 กรณี TRUEE ควบรวมกับ DTAC ทำให้หลือเป็น TRUE หลักทรัพย์เดียว
1.) ดัชนี SET50 บริษัทที่จะเข้ามาใหม่คือ SAWAD เราประเมินเป็น
2.) ดัชนี SET100 บริษัทที่จะเข้ามาใหม่คือ SJWD จะมีผลตั้งแต่วันที่ 2 มี.ค. 2023 Sentiment บวกต่อราคาหุ้นในวันนี้ทั้ง SAWAD(ราคาพื้นฐาน 46.0 บาท) และ SJWD(ราคาพื้นฐาน 24.02 บาท)
2.) หุ้นกลุ่มที่ลิ้งกับจีนประเมินมี Sentiment บวก หลังจากมีการรายงานตัวเลข PMI จีนเมื่อวานที่ออกมาส่งสัญญาณฟื้นตัวแข็งแกร่งในเดือน ก.พ. ตัวเลข NBS Manufacturing PMI ของจีน เดือน ก.พ. ออกมาที่ 52.6 จุด ดีกว่าคาดที่ 50.5 จุด และตัวเลข Caixin Manufacturing PMI ของจีน เดือน ก.พ. ออกมาที่ 51.6 จุด (+4.9% MoM) ดีกว่าคาดที่ 50.3 จุดสะท้อนว่าเศรษฐกิจได้ฟื้นตัวแข็งแกร่งทั้งภาคการผลิต และภาคบริการ ขณะที่ภาคอสังหาเริ่มทรงตัว หลังรัฐบาลคลายล๊อกดาวน์ และคนเริ่มกลับมาทำงานหลังวันหยุดยาวในเทศกาลตรุษจีน นอกจากนี้คาดว่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาเพิ่มเติมหลังการประชุม National People’s Congress ในวันที่ 5 มี.ค. 2023 เราประเมินว่าตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่ส่งสัญญาณฟื้นตัวจะเป็นบวกกับการส่งออกของไทยในปี 2023 โดยหลักๆช่วยลดความกังวลของ technical recession ไปได้พอควร ส่งผลให้เช้านี้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นมาที่ระดับ 34.96 บาทต่อ USD หุ้นที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนได้แก่ SCGP ราคาพื้นฐาน 52.0 บาท, PSL ราคาพื้นฐาน 18.5 บาท, PTTGC ราคาพื้นฐาน 57.25 บาท
ทิศทางตลาดหุ้นไทยหลังจากนี้ : Key สำคัญที่จะกำหนดการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นในเดือน มี.ค. คือ ประเด็นเรื่องอัตราดอกเบี้ยฝั่งสหรัฐ ซึ่งจะมี Timeline สำคัญที่ต้องเผชิญคือ 10 มี.ค. Nonfarm Payroll ตลาดคาด 2.15 แสนราย ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 5.1 แสนราย และตัวเลข Wage growth ตลาดคาด 0.3%MoM , U-rate คาด 3.4% ถัดไปคือ 14 มี.ค. อัตราเงินเฟ้อ CPI(%) ตลาดคาดว่าจะปรับตัวลง 5.9%YoY จาก 6.4% ในเดือนก่อนหน้า , 0.4%MoM 23 มี.ค.ประชุม Fed KS ประเมินว่า
1.) หากตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐและภาคการจ้างงานสูงกว่าที่ตลาดประเมินลักษณะคล้ายเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา คือ แกว่งตัวลง เราประเมินว่ามีโอกาสสูงที่ Fed จะกลับลำมาเพิ่มดอกเบี้ย 50bps โดยประเมิน Downside ของ SET Index ที่ 1,585 จุด และคาดการณ์เงินบาทจะอ่อนค่าขึ้นต่อ คาดกรอบ 36.0 – 36.5 บาท
2.) ในทางตรงข้ามหากเงินเฟ้อสหรัฐและภาคการจ้างงานชะลอตัว คาดว่า SET มีโอกาสสูงที่จะปรับขึ้นในกรอบ 1,666 +/- พร้อมประเมินค่าเงินบาท 33.5-34.0 บาท โดยรวมสรุปนับตั้งแต่วันนี้ – 10 มี.ค. KS ประเมิน ค่าเงิน Dollar และ Bond Yields จะแกว่งตัวและตลาดหุ้นประเมิน Technical rebound สั้นๆ โดยประเมินตลาดหุ้นคาดจะเกิดการ Rotation switch มาอยู่ในหุ้นกลุ่มโซนล่าง อาทิ BEM, SCGP, PSL
ประเมินตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดแกว่งในกรอบ 1614-1630 จุด หุ้นแนะนำ BEM
Top pick
BEM (ราคาพื้นฐาน 11.0 บาท)
1.) คาดกำไรปกติปี 2023 จะเติบโต 22% YoY จาก
1.1) กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้น
1.2) จำนวน นทท. ขาเข้าที่เพิ่มขึ้น
1.3) feeder จากรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสีเหลือง
2.) Sentiment บวกต่อราคาหุ้นระยะสั้น หลังจากเมื่อวานศาลปกครองสูงสุดยกฟ้องปม รฟม.เปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์ประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม ยันชอบด้วยกฎหมายภาพดังกล่าวส่งผลให้มีโอกาสที่สายสีส้มจะสามารถเข้า ครม. เรามองเป็นบวกต่อ BEM
รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ
- วันพฤหัสฯ ติดตามดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคญี่ปุ่น เดือน ก.พ. คาด 32 จุด (+3.2% MoM) ตัวเลข Unemployment rate ของญี่ปุ่น เดือน ม.ค. คาด 6.6% (ทรงตัว MoM) ถ้อยแถลง Fed Waller
- วันศุกร์ ติดตาม ตัวเลข Caixin Services PMI จีน เดือน ก.พ. คาด 53.8 จุด (+1.7% MoM) ตัวเลข ISM-nonmanufacturing PMI สหรัฐฯ เดือน ก.พ. คาด 54.5 จุด (-1.3% MoM) ถ้อยแถลงของ Fed Bostic, Fed Bowman, Fed Bowman และ Fed Barkin
