บล.บัวหลวง:
Sino Thai Engineering and Construction (STEC TB / STEC.BK)
แนะนำถือ ราคาเป้าหมาย 14.30 บาท (ปรับเพิ่ม)
Key Highlights: 4Q22 results
- STEC รายงานกำไรสุทธิ 4Q22 ที่ 314 ล้านบาท ลดลง 16% YoY แต่เพิ่มขึ้น 127% QoQ หักรายการพิเศษจากผลกําไรจากการวัดมูลค่ายุติธรรมของอสังหาริมทรัพย์สุทธิกับภาษี 29 ล้านบาท กำไรหลักจะอยู่ที่ 285 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% YoY และ 106% QoQ สูงกว่าที่เราและตลาดคาด 25% และ 29% ตามลำดับ เกิดจากรายได้มากกว่าคาด 5% และ GM สูงกว่าคาด 110bps
- รายได้หลักรวม 4Q22 อยู่ที่ 8.5 พันล้านบาท (สูงสุดในรอบ 2 ปี) เพิ่มขึ้น 22% YoY และ 14% QoQ ตาม Progress การรับรู้งานรับเหมาฯ เพิ่มขึ้น
- อัตรากำไรขั้นต้น (GM) อยู่ที่ 5.8% เพิ่มขึ้นจาก 5.6% ใน 4Q21 และ 4.4% ใน 3Q22 จากประเด็นต้นทุนก่อสร้างคลี่คลาย และสัดส่วนงาน High-GM (โครงการประเภทโรงไฟฟ้า) สูงขึ้น ส่วน SG&A/revenue ratio อยู่ที่ 2.3% เพิ่มขึ้น 0.6% YoY (ฐานต่ำใน 4Q21) แต่ลดลง 0.15% QoQ (ตามรายได้เพิ่มขึ้น)
Outlooks
- เราประเมินแนวโน้มกำไร 1Q23 คาดกำไรหลักจะเพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ ตาม รายได้ที่เพิ่มขึ้น (ตาม Progress ของงานที่มากขึ้น)
- มูลค่างาน Backlog ณ สิ้นปี 2022 อยู่ราว 1.1 แสนล้านบาท สูงที่สุดในบรรดา 3 บริษัทที่เราแนะนํา (ส่วนในตลาดยังต่ำกว่าเพียง ITD เท่านั้น)
- เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2023 ขึ้น 8.8% เป็น 1,106 พันล้านบาท (เติบโต 34% YoY) หลักๆ เป็นการปรับสมมติฐาน GM ขึ้นเป็น 5.5% (จาก 5%)
- บริษัทยังรักษาจุดเด่นด้านฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง โดย Gearing ratio ณ ปลายปี 2022 ต่ำเพียง 0.2 เท่า และเมื่อหักเงินสดเป็นสถานะ Net-Cash
Recommendation
แม้แนวโน้มผลประกอบการจะดีขึ้นตามลำดับ แต่เนื่องจาก STEC เป็นหุ้น Pure Play รับเหมาฯ ซึ่งมักจะเล่นตามเหตุการณ์สำคัญ ในแง่ Valuation หุ้นจึงยังคงรอรอบใหญ่ของกลุ่มรับเหมาฯ ก่อน เพื่อกลับมาเป็นผู้นำขึ้นของกลุ่มอีกครั้ง
เรายังคงคำแนะนำถือ แต่ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 14.30 บาท (เดิม 13.30 บาท) เป็นการสะท้อน Book value ที่เกิดขึ้นจริงในปี 2022 เข้าไปในประมาณการ แต่ยังอิง PBV แบบ Bearish cycle ที่ 1.15 เท่า (หรือต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาว -1.5SD)