บล.ทรีนีตี้

ซีพี ออลล์ – CPALL

ซื้อ ราคาปิด 61 บาท, ราคาเป้าหมาย 72 บาท

อัพเดทการประชุมนักวิเคราะห์

2566 Outlook

  • บริษัทวางแผนที่จะเพิ่มสินค้า Ready-to-Eat ใน 7-11 เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งในการเป็นผู้นำขึ้นไปอีก โดยผู้บริหารมองว่าการที่คู่แข่งจะเลียนแบบสินค้า Ready-to-eat ของ 7-11 ได้ยาก ทำให้คู่แข่งต้องแข่งขันด้านสินค้าทั่วไปที่มีการแข่งขันกันสูงแทน
  • นอกจากนี้บริษัทวางแผนที่จะขยาย 700 สาขา ในปี 66 โดยจะเน้นการขยายสาขาที่เป็นสาขาใหญ่ และมีที่จอดรถผู้บริหารให้ความเห็นว่าสาขาใหญ่มีเนื้อที่เยอะ ทำให้สามารถวางสินค้ามากขึ้นได้ ซึ่งทำให้รายได้เพิ่มขึ้น
  • บริษัทเน้นเรื่องการใช้ข้อมูล big data ที่มาจาก all members กว่า 16.7 ล้านราย มาช่วยในการศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภค โดยยังคงเน้นการทำธุรกิจที่เน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลาง
  • ปัจจุบันนักท่องเที่ยวจีนกลับมาอย่างมีนัยยะสำคัญ โดยช่วงต้นปี 66 spending ของลูกค้าคนจีนอยู่ที่ 4,000 บาทต่อสาขาต่อวัน ในขณะที่เดือนกุมภาพันธ์ spending ของลูกค้าคนจีนกระโดดขึ้นมาอยู่ที่ 9,000 บาทต่อสาขาต่อวัน
  • ผู้บริหารมองว่า 7-11 delivery และการขายผ่านสาขาแบบเดิมไม่ได้มีการแย่งลูกค้ากันเอง แต่มองว่า 7-11 delivery เป็นตัวช่วยในการเพิ่มรายได้ โดยยอดบิลต่อการส่งของหนึ่งครั้งมีจำนวนมากถึง 2 เท่าของการที่ลูกค้าเข้าร้านสะดวกซื้อเอง ทั้งนี้ผู้บริหารมองว่าค่าใช้จ่ายในการขนส่งยังอยู่ในระดับที่รับได้ และผู้บริหารเชื่อว่าค่าใช้จ่ายในการขนส่งของ 7-11 ถูกที่สุดเมื่อเทียบกับคู่แข่ง

ความเห็นนักวิเคราะห์

  • เรามีมุมมองเป็นกลางจากการประชุมนักวิเคราะห์ โดยบริษัทยังคงเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม Commerce และสามารถปรับตัวได้ดีตามสถาณการณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ technology หรือการเพิ่มช่องทางการขายเพื่อตอบโจทย์ลูกค้า แต่เนื่องจากการเติบโตของบริษัทนั้นอิงกับการเติบโตของการบริโภคในประเทศ ซึ่ง GDP ของไทยที่เติบโตต่ำ ทำให้ขาดปัจจัยหนุนที่จะช่วยเร่งการเติบโตของบริษัทในระยะยาว
  • เรายังแนะนำ “ซื้อ” โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 72 บาท โดยมองว่า CPALL จะเป็นหนึ่งในบริษัทที่ได้ประโยชน์สูงสุดจากการกลับมาของนักท่องเที่ยว รวมถึงการฟื้นตัวด้านการบริโภคในปี 66 ที่ดีกว่าปี 65
- Advertisement -