บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง:
Central Plaza Hotel (CENTEL TB) ราคาหุ้นตอบรับแนวโน้มที่ดีแล้ว
อัพเกรดเป็น “ถือ” ราคาเป้าหมายใหม่ 52 บาท
เราปรับเพิ่มคำแนะนำ CENTEL เป็น “ถือ” และเพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 52 บาท หลังเพิ่มคาดการณ์กำไรหลักปี 66 ขึ้น 22.1% และปี 67 ขึ้น 28.3% จาก RevPar ที่สูงกว่าคาดใน 4Q22 และมีแนวโน้มต่อเนื่องมาถึงปี 66 โดย RevPar ในไตรมาส 4/65 เพิ่มขึ้น 45% QoQ (เป็น 3,122 บาท) โดยได้รับแรงหนุนหลักจากจำนวนนักท่องเที่ยวขาเข้าเพิ่มขึ้น 53% QoQ เป็น 5.3 ล้านคน ประมาณการของเราสอดคล้องกับเป้าหมายของบริษัท (อัตราการเข้าพัก 70.8% และ SSSG 8%) ขณะเดียวกัน เราก็คาดว่ากำไรหลักจะเติบโต 483% ในปี 66 และ 52% ในปี 67 หุ้น CENTEL ซื้อขายที่ P/E ปี 66 ที่ 41.5 เท่า ซึ่งแพงกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาว Forward P/E ที่ 28.8 เท่า เนื่องจากแนวโน้มการทำกำไรที่เพิ่มขึ้น
ความสามารถในการทำกำไรแข็งแกร่งใน 4Q65 และต่อเนื่อง
จากผลของฤดูท่องเที่ยวและจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้น CENTEL สามารถทำกำไรหลักเติบโตแข็งแกร่งที่ 382 ล้านบาท โดยได้แรงหนุนหลักจากการฟื้นตัวของธุรกิจโรงแรม ซึ่งมีอัตราการเข้าพัก 66% ในไตรมาส 4/65 เพิ่มขึ้นจาก 52% ในไตรมาส 3/65 ยอดขายสาขาเดิม (SSS) ของธุรกิจอาหารก็เติบโต 12% ในไตรมาส 4/65 เช่นกัน เนื่องจากยอดขายในร้านที่เพิ่มขึ้นอย่างมากหลังโควิด ขณะที่ EBITDA margin ก็ฟื้นตัวแรงแตะระดับ 28% ในไตรมาส 4/65 เพิ่มขึ้น 5ppt QoQ และ 3ppt YoY
คาด SSSG จะอยู่ที่ 8% ในปี 66
เพื่อให้สอดคล้องกับคาดการณ์ของบริษัท เราประเมินการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ที่ 8% ในปีนี้ ซึ่งได้แรงหนุนจากยอดขายในการรับประทานในร้านเป็นส่วนใหญ่ นอกจากนี้ เรายังคาดว่าอัตราการเข้าพักของโรงแรมจะเพิ่มขึ้นเป็น 70.8% ในปี 66 เพิ่มขึ้นจาก 52% ในปี 65 นอกจากนี้ เรายังคาดการณ์กำไรหลักจะกลับสู่ระดับก่อนโควิดที่ 1.8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 307 ล้านบาทในปี 65 อีกด้วย
ความเสี่ยงที่สำคัญคือต้นทุนสูงขึ้นจากอัตราเงินเฟ้อเพิ่ม
เราใช้วิธี DCF (WACC 8.5% และ Terminal Growth 3%) ในการประเมินมูลค่าหุ้น ความเสี่ยงที่สำคัญคือแรงกดดันด้านต้นทุน โดยเฉพาะธุรกิจอาหารที่ยังคงประสบปัญหาต้นทุนเพิ่มจากเงินเฟ้อ แม้จะมีการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง แต่เรายังคงคำแนะนำ “ถือ” CENTEL เนื่องจากมูลค่าแพงเกินไป