บล.บัวหลวง:
Residential Property – เพิ่งผ่านไตรมาสที่ดีที่สุดไป ต้องพักเบรกบ้าง (NEUTRAL)
เราคาดกลุ่มอสังหาฯ จะฟื้นตัวเมื่อมีแนวโน้มขาขึ้น ผู้บริหารของทั้ง 9 บริษัทที่เราให้คำแนะนำมีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มในปี 2566 ปัจจุบันเราชอบ SIRI (ผู้นำระดับไฮเอนด์) AP (ผู้นำด้านการเปิดตัวโครงการ) และ LH (ผู้นำธุรกิจโรงแรมและปล่อยเช่า)
โลว์ซีซั่นในไตรมาส 1/66; ไตรมาสหน้าจะปรับตัวดีขึ้น!
ผู้บริหารครึ่งหนึ่งของหุ้นกลุ่มอสังหาฯที่เราให้คำแนะนำมีมุมมองเชิงบวกในไตรมาส 1/66 โดยเพิ่มขึ้น YoY แต่ลดลง QoQ (บางบริษัทรายงานสถิติสูงสุดในไตรมาส 4/65) มูลค่าการเปิดตัวโครงการรวมที่ประมาณ 3.8 หมื่นล้านบาท สําหรับไตรมาสนี้ (โครงการแนวราบ 79% โครงการคอนโด 21%) ลดลง 7% YoY และ 64% QoQ และเป็นตัวเลขที่ต่ำที่สุดของปี 2566 อัตราการจองซื้อจะลดลงตามปัจจัยฤดูกาลในไตรมาสแรกของปี ดังนั้นเราคาดยอด จองชื้อในไตรมาส 1/66 จะลดลง YoY และ QoQ (5.3 หมื่นล้านบาทในไตรมาส 1/65 และ 5.6 หมื่นล้านบาทในไตรมาส 4/65)
บริษัทที่เราให้คําแนะนํามีมุมมองเชิงบวกต่อปี 2566
ผู้บริหารบริษัทอสังหาฯ ที่เราได้พูดคุยนั้นมีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มปี 2566 เนื่องจากการเปิดตัวโครงการที่เพิ่มขึ้นและการลดราคาที่ลดลง แม้การปรับเพิ่มอัตราส่วนสินเชื่อต่อราคาบ้าน (มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2566) จะชะลอ อุปสงค์ของผู้ซื้อที่กำลังมองหาบ้านหลังที่สอง แต่บริษัทกลุ่มอสังหาฯ ส่วนใหญ่ที่เราให้คําแนะนําขายโครงการที่อยู่อาศัยราคามากกว่า 10 ล้านบาท/ยูนิต มูลค่าการเปิดตัวโครงการรวมจะเพิ่มขึ้นจาก 2.72 แสนล้านบาทในปี 2565 มาอยู่ที่ 3.29 พันล้านบาทในปี 2566 (ไตรมาสที่เปิดตัวโครงการมากที่สุด คือ ไตรมาส 4/65) เพิ่มขึ้น 21% YoY AP มีกําหนดการเปิดตัวโครงการมากที่สุดในปี 2566 ที่ 7.7 หมื่นล้านบาท ตามมาด้วย SIRI ที่ 7.5 หมื่นล้านบาท และ SPALI ที่ 4.1 หมื่นล้านบาท ดังนั้น เราประมาณการยอดจองซื้อในปี 2566 ที่ 2.7 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 18%
ต้นทุนก่อสร้างลดลง YoY แต่โครงการไฮเอนด์ยังคงรักษาระดับได้
กระทรวงพาณิชย์รายงานดัชนีวัสดุก่อสร้าง (CMPI) อยู่ที่ 113.3 สําหรับ เดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 0.2% MoM และลดลง 1.6% จากจุดสพีคเมื่อกลางปี 2565 ดัชนีราคาแร่เหล็กอยู่ที่ 137.8 สําหรับเดือนก.พ. ทรงตัว MoM และ ลดลง 9.8% จากจุดพีคในเดือนเม.ย. ปี 2565 ที่ 152.7 แม้ต้นทุนก่อสร้างจะยังคงสูงอยู่ แต่ผู้บริหารกลุ่มอสังหาฯ ระดับไฮเอนด์ที่เราให้คำแนะนำมีความมั่นใจว่าบริษัทจะสามารถขายโครงการระดับไฮเอนด์ได้ในราคาที่สูงขึ้น (เนื่องจากความยืดหยุ่นของอุปสงค์ที่ค่อนข้างต่ำ) อุปสงค์ยังคงอ่อนแอสําหรับโครงการระดับล่าง LH, QH, SC และ SIRI มองเห็นอุปสงค์ที่แข็งแกร่งของโครงการระดับไฮเอนด์ และผู้บริหารคาดว่าอุปสงค์จะยังคงสามารถรักษาระดับต่อเนื่องไปทั้งปี 2566
กําไรหลักเติบโตแข็งแกร่ง YoY ในปี 2566
กําไรรวมหุ้นกลุ่มอสังหาฯที่เราให้คำแนะนำจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในปี 2566 และบางบริษัทจะรายงานกำไรหลักแตะสถิติใหม่ ประมาณการอัตรากำไรขั้นต้นของยอดขายโครงการที่อยู่อาศัยปี 2565 อยู่ที่ 33.4% (ลดราคาลงมากและมีสัดส่วนผลิตภัณฑ์ที่ให้อัตรากำไรขั้นต้นสูงที่เพิ่มขึ้น) ยังคงต่ำกว่าค่าเฉลี่ยปี 2545-64 ที่ 34.0% เราคาดการณ์เชิงอนุรักษ์นิยมว่าการเติบโตของกำไรหลักหุ้นกลุ่มอสังหาฯ ที่เราให้คำแนะนำจะอยู่ที่ 10% YoY ในปี 2566 โดย LH มีแนวโน้มที่จะเป็นผู้นำการเติบโตของกำไรหลักในปี 2566 ที่ 14% YoY หนุนโดยธุรกิจโรงแรมและธุรกิจปล่อยเช่า ตามมาด้วย AP ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากการโอนโครงการอย่างต่อเนื่อง และกำหนดการเปิดตัวโครงการที่เพิ่มขึ้น และ SIRI อยู่ในอันดับที่สาม โดยมีการเติบโตของสัดส่วนอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงขึ้น ซึ่งมาจากยอดขายโครงการระดับไฮเอนด์