บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง: 

Home Product Center (HMPRO TB) แนวโน้มเติบโตอย่างมีเสถียรภาพ

กำไรปีนี้เป็นระดับสูงสุดใหม่ แนะนำ ซื้อ

เราคาดว่ากำไรปีนี้เติบโต 10% สู่ระดับสูงสุดใหม่ โมเมนตัมยอดขายเติบโตดีต่อเนื่อง ตั้งแต่ต้นปี SSSG 2M66 เป็นบวก 7-8% โดยได้ผลบวกจากการบริโภคและการท่องเที่ยวฟื้นตัว ส่วนการกลับมาขยายสาขาเชิงรุกจะช่วยสนับสนุนการเติบโตอย่างมีเสถียรภาพ เราคงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย (DCF, WACC 7.3%, G 3%) 18.00 บาท จากเดิมที่ 18.50 บาท โดยเรามีการปรับลดประมาณการกำไร 2566-2567 ลง 3- 4% สะท้อนต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น

SSSG แข็งแกร่งที่ 7-8% ในช่วง 2M66

SSSG ในช่วงเดือน ม.ค. – ก.พ. ของโฮมโปรและเมกาโฮม อยู่ในเกณฑ์ดีต่อเนื่อง โดยเป็นบวก 7-8% และ 2% ตามลำดับ ซึ่งได้อานิสงส์จากช้อปดีมีคืนและการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว โดยสาขาที่อยู่ในเมืองท่องเที่ยวมี SSSG โฮมโปรเป็นบวกเกิน 10% เนื่องจากกำลังซื้อของผู้บริโภคในพื้นที่ดังกล่าวเพิ่มสูงขึ้น อีกทั้งได้ผลบวกจากการเปิด สาขาเมกาโฮม 4 สาขาในช่วง 2H65 ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า

กลับมาขยายสาขาเชิงรุกสนับสนุนการเติบโตยั่งยืน

HMPRO มีการเปิดสาขาใหม่เพียง 1-2 สาขาในช่วงปี 2563-2564 และเปิดสาขามากขึ้นเป็น 5 สาขาในปี 2565 ส่วนปีนี้จะขยายสาขาเชิงรุกมากขึ้น โดยจะเปิดสาขาใหม่ 10 สาขา ได้แก่ โฮมโปร 2 สาขา และเมกาโฮม 8 สาขา เพื่อรองรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่นิยมซื้อสินค้ากลุ่มวัสดุก่อสร้างที่ Modern trade มากขึ้น ส่วนผลประกอบการที่ มาเลเซียถึงจุดคุ้มทุนแล้วในปีที่ผ่านมา เนื่องจากยอดขายเพิ่มขึ้นและควบคุมต้นทุนได้ดี โดยจะยังไม่เปิดสาขาใหม่ในปีนี้ แต่ยังคงมีการขยายสาขาเพิ่มขึ้นในอนาคต แม้ HMPRO มีการลงทุนขยายสาขามากขึ้น และปรับปรุงศูนย์กระจายสินค้าด้วยเงินลงทุนรวม 7-8 พันล้านบาทในปีนี้ แต่เราคาดว่าฐานะการเงินยังแข็งแกร่ง อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนที่ 0.7 เท่า

คาดกำไรปีนี้เติบโตจากทั้งยอดขายและอัตรากำไรเพิ่มขึ้น

เราประเมินว่ายอดขายปีนี้เพิ่มขึ้น 9% โดยมี SSSG +5% โดยได้ผลบวกจากการฟื้นตัวของการบริโภคและการท่องเที่ยว ประกอบกับมีการเปิดสาขาใหม่ 10 สาขา เราคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 18 bps เป็น 26.3% เนื่องจากยอดขายเพิ่มขึ้น และมีการเพิ่มสัดส่วนสินค้าที่มีอัตรากำไรสูงซึ่งรวมทั้งสินค้า Private brand ให้เป็น 21.5-22% จากปีก่อนที่ 20.8% สัดส่วนค่าใช้จ่ายต่อยอดขายคาดว่าจะใกล้เคียงกับปี 2565 ที่ 19.2% เราคาดการณ์กำไรปี 2566 เติบโต 10% เป็น 6,828 ล้านบาทซึ่งเป็นกำไรสูงสุดใหม่

- Advertisement -