SVB ทําพิษ / 1590-1610
มุมมองตลาดหุ้นวันนี้
- คาดดัชนี SET ปรับลง จากความกังวลแบงก์: แม้ข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตร ก.พ.จะออกมามากกว่าคาดสู่ 3.11 แสนราย และอัตราว่างงาน ก.พ. สูงขึ้นสู่ 3.6% ทำให้นักลงทุนคลายกังวลเฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ย ล่าสุด Fed Watchtool เทหนักกลับไปยังโอกาสถึง 81.2% ที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยเพียง 0.25% ในรอบประชุม 21-22 มี.ค. นี้ เนื่องจากปัจจัยลบประเด็นธนาคาร Silicon Valley และธนาคาร Signature ถูกปิด เนื่องจากขาดสภาพคล่อง หลังเผชิญการถูกแห่ถอนเงิน (Bank Run) และทําให้เฟดต้องออกมาตรการพิเศษ Bank Term Funding Program โดยให้เงินกู้ 1 ปี แก่สถาบันการเงินที่ยังดำเนินกิจการ และมีพันธบัตรรัฐบาล หรือสินทรัพย์ MBS ค้ำประกัน และ ก.คลัง สหรัฐเสนอคุ้มครองเงินฝากเต็มจำนวน เพื่อป้องกันไม่ให้ลุกลามเป็น Bank Panic ตามมา เช้านี้จึงมองไปที่กลุ่มแบงก์ที่จะรับ Sentiment เชิงลบ แม้ทางฝ่ายมองไม่ได้กระทบในแง่ของพื้นฐาน นอกจากนี้ยังเห็นแรงขายในสินทรัพย์เสี่ยง เพื่อเข้าไปถือสินทรัพย์ปลอดภัย สะท้อนได้จากราคาทองคําเช้านี้ปรับบวกยืน 1,870 ดอลลลาร์ต่อออนซ์ สําหรับปัจจัยบวกในประเทศยังลุ้นการเมือง จากการเดินหน้าหาเสียงของพรรคการเมืองต่างๆ และภาพรวมการท่องเที่ยว รวมถึงการจับจ่ายใช้สอยจะเข้าช่วยชะลอ downside ได้บ้าง แนะนำ รอจังหวะสะสมหุ้นพื้นฐานดี
- กลยุทธ์ลงทุน: 1) Defensive และ Growth Stock: ADVANC, DMT, INTUCH 2) ยุบสภา, Spending และการท่องเที่ยว: BA, ERW, ORI, OSP, SAPPE, SIRI, TTB, PSL 3)ปัจจัยเฉพาะตัว: GULF, AMATA, WHA
ปัจจัยบวก
- การจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ ก.พ. มากกว่าคาด 3.11 แสนราย หนุนคาดเฟดขึ้นดอกเบี้ยรอบ มี.ค.เพียง 0.25%
- GDP อังกฤษ ม.ค. ขยายตัวมากกว่าตลาดคาดสู่ 0.3% ซึ่งเป็นการพลิกจากการหดตัว 0.5% ในเดือน ธ.ค. 65 ทำให้ลดโอกาสเสี่ยงต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอย
- ประชาชนแห่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” ทั้ง 5.6 แสนสิทธิหมดแล้ว คาดเป็นผลบวกต่อภาคท่องเที่ยวของไทย
ปัจจัยลบ
- ธนาคาร Signature และ ธนาคาร Silicon Valley ซึ่งเป็นธนาคารปล่อยกู้แก่กลุ่ม Venture capital และ Start-up ในสหรัฐยื่นล้มละลาย ทำให้เฟดต้องเร่งออก ม. Bank Term Funding Program เพื่อไม่ให้ลุกลามเป็น Bank-panic ตามมา
- ปปช.มีมติแจ้งข้อกล่าวหาอดีตผู้ว่ากรุงเทพฯ จากกรณีรถไฟฟ้าสายสีเขียว คาดกดดันกลุ่มขนส่งเช้านี้
- ปธน. ไบเดน เสนองบประมาณกลาโหมสหรัฐสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 8.86 แสนล้านดอลลาร์ หลังจีนเพิ่มงบ กลาโหมเมื่อสัปดาห์ก่อน กดดันภาพ Globalization
- Bloomberg เผยราคาน้ำมันสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวลดลง 5% หลังความกังวลต่อ FED ที่ยังมีแนวโน้มขึ้นดอกเบี้ย กดดันอุปสงค์พลังงาน
PICKS OF the day
TTB BUY
- เป้าหมาย 1.43/1.47 แถวรับ 1.34/1.36
- ได้ประโยชน์จากทิศทางอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น: จากทิศทางอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น จะทำให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลดีต่อรายได้ดอกเบี้ยและกำไรของ TTB
- เจ้าตลาดสินเชื่อเช่าซื้อรถใหม่ ได้ประโยชน์จาก Motor show: การควบรวมกับ ธ.ธนชาติทำให้ TTB ได้รับโอนพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อมาด้วย ซึ่งเดิม ธ.ธนชาติมีความโดดเด่นมากทางด้านสินเชื่อเช่าซื้อรถใหม่ ซึ่งมองว่าจากงาน Motor show ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 22 มี.ค. – 2 เม.ย.นี้ จะทำให้ TTB ได้ประโยชน์จากงานนี้และมีสินเชื่อเพิ่มสูงขึ้นด้วย
GULF BUY
- เป้าหมาย 52.75/54.50 แนวรับ 50.00/51.00
- แนวโน้มกำไรแข็งแกร่ง: ทางฝ่ายคาดกำไรปี 2566 ยังคงเติบโตอย่างเนื่อง จากการรับรู้กำลังการผลิตของ GSRC ที่ดำเนินการเต็มกำลังการผลิต เต็มปีเป็นปีแรก ประกอบกับคาดว่าจะมีการ COD โครงการที่อยู่ใน pipe line อีกราว 2,942 MW ในปี 2566
- คาดโรงไฟฟ้า SPP ฟื้น y-y: ทางฝ่ายคาดผลการดำเนินงานโรงไฟฟ้า SPP ของ GULF จะฟื้นตัว y-y เนื่องจากราคาก๊าซธรรมชาติที่อ่อนตัวลง y-y และค่า Ft สำหรับงวด ม.ค.-เม.ย. 66 ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 154.92 สตางค์ และในขณะเดียวกันคาดว่าใน 2H66 ปริมาณก๊าซในอ่าวจะปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้คาดว่าการลดลงของค่า Ft จะ