ประเมิน SET Index ปรับตัวลงต่อเนื่องจนหลุดระดับ 1,600 หากไม่สามารถกลับมายืนเหนือได้เป็นโมเมนตัมลบมีโอกาสปรับตัวลงต่อทดสอบแนวรับ 1,592
ประเด็นการลงทุน
วันนี้เคาะ TTA แนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมายสิ้นปี 66F เท่ากับ 9.20 บาท ค่าระวางเรือช่วงต้น 1Q66 นั้นได้สะท้อนภาพเศรษฐกิจโลกที่อาจชะลอตัวและช่วง low season ของปีไปแล้วขณะที่บริษัทฯ เตรียมออกปันผล 0.22 บาท ขึ้นเครื่องหมายวันที่ 24 มี.ค. 2566 หรือมี Dividend Yield ที่ 2.78%
สรุปตลาดวานนี้
SETI ปิดที่ 1,599.65 จุด ลดลง 14.57 จุด (-0.90%) มูลค่าการซื้อขาย 49,261.04 ล้านบาท จากความกังวล SVB เพิ่มทุนจากปัญหาสภาพคล่อง
Research Highlight: SETI กลับมายืนเหนือ 1600 ไม่ได้ เนโมเมนตัมลบ
1. ข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐสูงกว่าคาด แต่ชะลอตัวลง MOM
- ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 311,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. สูงกว่าที่คาด แต่ชะลอตัวจากระดับ 504,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. ขณะที่ค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน เพิ่มขึ้น 0.2%MoM ต่ำกว่าตลาดคาด
- ข้อมูลการจ้างงานที่ชะลอตัวลงดังกล่าวได้ช่วยคลายความวิตกที่ว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเดือนนี้ ขณะที่ US bond yield ปรับตัวลงแรง รวมถึง Dollar index ก็ปรับตัวลงเช่นกัน ล่าสุดจาก FedWatch Tool ตลาดให้น้ำหนักสูงถึง 81.2% ที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.25% สู่ระดับ 4.75-5.00%
2. Update วิกฤต SVB และผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทย
- เช้านี้ Dow Jones Fut ปรับตัวขึ้นกว่า 300 จุด ขานรับเฟดและก.คลังสหรัฐ ประกาศมาตรการคุ้มครองเงินฝากผ่านโครงการ Bank Term Funding Program เพื่อป้องกันผลกระทบต่างๆ จากการล้มละลายของ SVB และ Signer ture Bank
- ตลาดมองว่าส่วนหนึ่งมาจากผลกระทบของการขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่เร็วและแรงเกินไป
- ภาพรวมของ SVB ล่าสุดมี Market Cap เพียง 6.3 พันล้านดอลลาร์ เทียบกับ Bank Of America มี Market Cap สูงถึง 24 แสนล้านดอลลาร์ ถือว่าผลกระทบยังค่อนข้างน้อย ขณะที่ ROE 4Q65 อยู่ที่ 8.9% ถือว่าอยู่ในระดับสูง ส่วนภาพ Outlook 1Q66 พบว่าปริมาณเงินฝากมีแนวโน้มลดลง
- ผลกระทบต่อ SET มองเป็นลบเชิง Sentiment โดยเฉพาะกลุ่มธนาคาร แต่เรามองว่าเป็นจังหวะที่ดีในการเข้าสะสมระยะกลาง-ยาว รวมถึงกลุ่ม Defensive ที่กลับมาน่าสนใจ
Investment Strategy:
- SETI ปรับตัวลงต่อเนื่องจนหลุดระดับ 1600 หากไม่สามารถกลับมายืนเหนือได้เป็น โมเมนตัมลบ มีโอกาสปรับตัวลงต่อทดสอบแนวรับ 1592
- แนะนำ Selective buy กลุ่มธนาคารที่ยัง laggard ตลาด เช่น KBANK SCB KKP กลุ่ม Defensive SISB DMT BDMS BH ADVANC THCOM MASTER JMT
Fund Flow Rotation:
- Overweight: BANK ซื้อสะสมเมื่ออ่อนตัว (KBANK SCB)
Upcoming Events
- US CPI Feb (14 Mar), US PPI Feb (15 Mar) US Retail sales Feb (15 Mar), ECB meeting (16 Mar), EU CPI Feb (17 Mar)
Global Markets
(-) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดร่วงลงกว่า 300 จุดในวันศุกร์ (10 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับสภาวะของภาคธนาคารสหรัฐ หลังจากมีการสั่งปิดกิจการธนาคาร ซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (SVB) ซึ่งอยู่ในเครือของบริษัท 1 เอสวีบี ไฟแนนเชียล กรุ๊ป หลังจากประสบปัญหาด้านการเงิน
(-) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดลบสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 7 สัปดาห์ โดยหุ้นกลุ่มการเงินตลาดร่วงลง หลังจากมี 1 รายงานข่าวว่า ธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (SVB) ของสหรัฐประสบปัญหาด้านการเงิน
(+) สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ปิดปรับตัว ขึ้น ได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ รวมถึงจากการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจมีการขยายตัว และจะทําให้ความต้องการใช้นํ้ามันเพิ่มขึ้น
(+) สัญญาทองคำตลาด COMEX ปิดบวก ได้แรงซื้อในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับ ปัญหาในภาคธนาคารของสหรัฐ และการอ่อนค่าของดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ลดลง
หุ้นเคาะไป คุยไป..TTA
- ปรับลดประมาณการกำาไรตลอดช่วงปี 2566F-2568F ตามแนวโน้ม 1H66 ที่ดูไม่สดใสมากนัก หลังค่าระวางเรือ (BSI) ปรับลดลงทำจุดต่ำสุดใหม่ในรอบเกือบสามปีในช่วงสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนก.พ.66 ที่ระดับ 625 (-78% จากจุดสูงสุดของปี 65 ที่ระดับ 3,477 และ -49% เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ย 4Q65 ที่ระดับ 2,014) แม้ว่าสถานการณ์ช่วงต้น มี.ค.66 ล่าสุด ค่าระวางเรือ (BSI) จะปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 1,156 แล้ว (หรือ +84% จากจุดต่ำสุดของเดือนก.พ.66 และทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบสามเดือนนับตั้งแต่เดือนธ.ค.65) โดยเราปรับสมมติฐานค่าเฉลี่ยระวางเรือตลอดช่วงปี 66F-6BF ลงเหลือระดับ 1,133 จากเดิมที่ให้ไว้ตามเกณฑ์ช่วงกลางปี 65 ที่ระดับ 2,000 ซึ่งส่งผลให้กำไรต่อหุ้นปี 66F-68F อยู่ที่ 1.48บาท 1.59บาท และ 1.65 บาท ตามลำดับ ลดลงเฉลี่ยราว -40%
- ทั้งนี้ เรามองว่าค่าระวางเรือ (BSI) ที่ต่ำมากในช่วงต้นปี 66 นั้นสะท้อนถึงภาพรวมตลาดเรือเทกองประเภท suparamax (ที่เน้นขนส่งแร่เหล็ก เมล็ดพันธุ์ และถ่านหิน) ที่ไม่สดใสในช่วงเดือนธ.ค.65-ก.พ.56 ที่ผ่านมาไปแล้ว ซึ่งโดนกระทบจากปัจจัยทั้งฝั่งอุปสงค์ (คือจีนที่เพิ่งจะเปิดประเทศในช่วงเดือนธ.ค.65และมีวันหยุดยาว) และฝั่งอุปทาน (เป็นช่วงฤดูฝนของทางบราซิล) ส่งผลให้กิจกรรมการเดินทางช่วงที่ผ่านมาลดลง อย่างไรก็ตาม เราคาดว่านโยบายในการเปิดประเทศที่ชัดเจนของจีนและฤดูฝนในบราซิลที่ผ่านพ้นจะช่วยหนุนให้กิจกรรมการเดินทางเรือกลับสู่ภาวะปกติ ขณะที่ธุรกิจอื่นอย่างธุรกิจบริการนอกชายฝั่ง และธุรกิจอาหารที่รายได้เริ่มฟื้นตัว แต่ EBITDA ยังคงมีสัดส่วนรวมกันเพียง 15% จึงมองว่ายังต้องใช้เวลาอีกสักระยะในการเติบโต
- แนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมายสิ้นปี 66F เท่ากับ 9.20 บาท อิง forward PE 6.20 เท่า โดยราคาปัจจุบันเทรดอยู่ที่เพียง 5.3 เท่า หรือใกล้เคียงค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 1 ปี -0.5 SD และโดยราคาปัจจุบันมี PBV อยู่ที่เพียง 0.53 เท่า เรามีมุมมองบวกว่าค่าระวางเรือช่วงต้น 1Q66 นั้นได้สะท้อนภาพเศรษฐกิจโลกที่อาจชะลอตัวและช่วง low season ของปีไปแล้ว ขณะที่บริษัทฯ เตรียมออกปันผล 0.22 บาท ขึ้นเครื่องหมายวันที่ 24 มี.ค. 2566 หรือมี Dividend Yield ที่ 2.78%