ตลาดหุ้นวานนี้
SET Index พุ่ง 41 จุด (+2.7%) ปิดที่ 1,565 จุด มี Technical Rebound นักลงทุนเข้าช้อนซื้อหุ้นที่ร่วงแรงในช่วงก่อนหน้า
แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้
ประเมิน SET อ่อนตัวแนวรับ 1,550 – 1,555 จุด แม้จะคาดการณ์ว่า FED จะชะลอการขึ้นดอกเบี้ยในการประชุม 21-22 มี.ค.นี้ หลังดัชนี CPI สหรัฐเดือนก.พ.ชะลอตัวลง อย่างไรก็ตามความกังวลสถานะการเงินของธนาคารต่างๆในหลายประเทศ (ล่าสุดธ.เครดิต สวิส) ยังคงเป็นลบต่อการลงทุนในช่วงนี้ ประกอบกับราคาน้ำมัน WTI ที่ทรุดตัวลงแรงหลุด 70 US/Barrels จะกดดันต่อกลุ่มพลังงานและดัชนีอีกด้วย
กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy
- GPSC BGRIM GULF ROJNA SCGP SCC TASCO อานิสงส์ราคาพลังงานอ่อนตัวลง
- กลุ่มเดินเรือ PSL TTA ค่าระวางเรือเทกองปรับตัวขึ้น
- BEM BDMS BCH INTUCH ADVANC กลุ่ม Defensive ช่วงดัชนีผันผวน
หุ้นแนะนำวันนี้
- ADVANC (ปิด 205 ซื้อ/เป้า 250 บาท) Defensive stock ที่กำลังจะกลับมาฟื้นตัวจากการแข่งขันในอุตสาหกรรมที่ลดลงหลัง TURE และ DTAC ควบรวมกัน และยังมี Sentiment บวกจากความคืบหน้าในการเข้าซื้อ 3BB
- GPSC (ปิด 65.25 ซื้อ/เป้า IAA Consensus 78 บาท) ได้ Sentiment บวกจากราคาพลังงานลดลง และมี Upside หากภาครัฐปรับขึ้นค่า Ft ซึ่งโรงไฟฟ้า SPP จะได้ประโยชน์มากที่สุด
บทวิเคราะห์วันนี้: Transportation sector (Top pick: BEM)
ประเด็นสำคัญวันนี้
(-) วิกฤติสภาพคล่องของเครดิต สวิสยังมีทางออกแบงก์ชาติสวิสฯ พร้อมช่วยเหลือ: ล่าสุดมีรายงานว่าธนาคารกลางสวิสฯ พร้อมเข้าช่วยเหลือเงินทุนและสภาพคล่องให้กับเครดิด สวิส หากมีความจำเป็นหลังจากที่ ซาอุดี เนชั่นแนล แบงก์ (SNB) ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดประกาศว่าไม่เพิ่มความช่วยเหลือทางการเงินต่อ Credit Suisse ได้อีกต่อไป
(-) น้ำมันดิบก็ไม่รอด WTI ร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 16 เดือน: นอกจากหุ้นนักลงทุนยังเทขายสินทรัพย์เสี่ยงอื่นๆ รวมไปถึงราคาน้ำมัน โดยเมื่อคืนราคาน้ำมันดิบ WTI ร่วงอีก 3.72$ (-5.2%) ปิดที่ระดับ 67.61$/bbl กังวลวิกฤติภาคธนาคารของสหรัฐและยุโรป จะกระทบ ศก. และ ดีมานด์พลังงาน
(-) จับตา ECB จะเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยหรือหยุด หลังมีปัญหาของ Credit Suisse: เดิม Consensus คาด ECB จะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.5% เป็น 3.5% แต่จากวิกฤติสภาพคล่องของ Credit Suisse มีโอกาสที่ ECB จะเปลี่ยนท่าทีปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% หรือหยุดไว้ก่อน
ข่าวในประเทศและต่างประเทศ
สรุปข่าวเศรษฐกิจในประเทศและต่างประเทศ
ไทย
(+) ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือนก.พ.66 อยู่ที่ระดับ 96.2 เพิ่มขึ้นจากระดับ 93.9 ในเดือนม.ค.66 ซึ่งถือว่าสูงสุดในรอบ 47 เดือน นับต้ังแต่เม.ย.62
สหรัฐ
(+/-) สหรัฐเปิดเผยรายงานยอดค้าปลีกเดือนก.พ.ปรับตัวลดลง 0.4% ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 0.3% หลังจากพุ่งขึ้น 3.2% ในเดือนม.ค. ส่วนดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 4.6% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายปี ชะลอตัวจากระดับ 5.7% ในเดือนม.ค. และดัชนี PPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 4.4% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายปี สอดคล้องกับเดือนม.ค.
ยุโรป
(-) หุ้น Credit Suisse ธนาคารจากสวิสเซอร์แลนด์ปรับตัวลงต่อเนื่องพร้อมกับ CDS ของธนาคารที่ปรับตัวสูงขึ้น หลังธนาคารแห่งชาติของซาอุฯ (SNB) กล่าวว่าจะไม่สามารถช่วยเหลือด้านสภาพคล่องกับ CS อีกแล้ว เนื่องจากจะทําให้ SNB ถือหุ้นในเครดิตสวิสมากกว่า 10% ซึ่งจะเป็นการทําผิดกฎระเบียบธนาคาร
เอเชีย
(+) จีนรายงานตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจ ได้แก่ ยอดค้าปลีกเติบโต 3.5%yoy ดีกว่าคาดการณ์ของตลาด ส่วนการลงทุนในสินทรัพย์คงทนเติบโต 5.5% เติบโตต่อเนื่องจากการเปิดเมือง
(+) ธนาคารกลางจีน (PBOC) อัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจมูลค่า 4.81 แสนล้านหยวน ผ่านเงินกู้ระยะกลาง (MLF) ระยะ 1 ปี ที่อัตราดอกเบี้ย 2.75% ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเดิม และอัดฉีดเงิน 1.04 แสนล้านหยวนเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจผ่านข้อตกลง reverse repo ประเภทอายุ 7 วันที่อัตราดอกเบี้ย 2.00% ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยทั่ระดับเดิมเช่นกัน