เมฆหมอกคลี่คลาย / 1,550-1,570
มุมมองตลาดหุ้นวันนี้
- เมฆหมอกคลี่คลาย: คาด SET Index เช้านี้มีโอกาสฟื้นตัวในแดนบวกตามตลาดหุ้นยุโรปและสหรัฐฯ ที่เมื่อคืนนี้ปิดบวกสดใส หลังความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตภาคธนาคารเริ่มคลี่คลาย ท่ามกลางความร่วมมือกลุ่มธนาคารรายใหญ่ในสหรัฐฯ ที่ประกาศแผนการอัดฉีดเงินรวมกันมูลค่า 3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อเสริมสภาพคล่องให้กับ First Republic Bank (FRB) หนุนแรงซื้อกลับในหุ้นกลุ่มธนาคาร เช่นเดียวกับความกังวลกรณี Credit Suisse ที่ล่าสุดคลายกังวลจากการประกาศขอกู้ยืมเงินจากธนาคารกลางสวีตเซอร์แลนด์ (SNB) มูลค่า 5.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายใต้โครงการจัดหาเงินกู้แบบครอบครุม และการจัดหาสภาพคล่องในระยะสั้น พร้อมทั้งส่งผลให้ Spotlight กลับมาอยู่ที่การประชุมของธนาคารกลางหลักๆ อีกครั้ง โดยผลประชุม ECB ล่าสุดที่ยังมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.5% ต่อปี เพื่อลดความร้อนแรงของอัตราเงินเฟ้อ หลังยังทรงตัวในระดับสูง (ขยายตัว 8.5% y-y ในเดือน ก.พ. 66) เหนือเป้าหมายที่ระดับ 2% คาดส่งผลต่อมายังการประชุมของ Fed ที่มีโอกาสปรับขึ้นดอกเบี้ยเช่นกัน โดยทางฝ่ายมีมุมมองสอดรับกับ CME FedWatch Tool ที่ล่าสุดให้น้ำหนักต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 79.7% รวมถึงการประชุม BoE และ MPC (กนง.) ที่จะเกิดขึ้นตามมา ส่วนสถานการณ์ในประเทศคาดมีสีสันในสัปดาห์หน้า ท่ามกลางการจับจ้องของตลาดต่อการประกาศยุบสภาของรัฐบาลเพื่อเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง ทั้งนี้ทางฝ่ายยังมองเป็นปัจจัยเด่นในประเทศที่จะหนุนหุ้นกลุ่ม Domestic Plays มีความคึกคัก
- กลยุทธ์ลงทุน: 1) Spending+เลือกตั้ง: AOT, CPALL, HMPRO, BJC, CRC, ADVANC, ZEN, AU 2) หุ้นใหญ่พื้นฐานดีน่าซื้อเก็บ: AMATA, BBL, BDMS, CENTEL, GULF และ 3) Selective Plays: ICHI, MASTER, SISB, WHA
ปัจจัยบวก
- เอกชนไทย-ญี่ปุ่น ร่วมลงนาม MOU ผลักดันความร่วมมือด้านการค้า-การลงทุน ระหว่างกัน ญี่ปุ่นหวังใช้ไทยเป็น ฐานการผลิตพร้อมเล็งย้ายฐานการผลิตจากจีนมายังไทย
- ศก. นิวซีแลนต์ขยายตัวต่ำกว่าคาดในช่วงไตรมาส 4/65 โดยหดตัวลง 0.6% มากกว่าที่ตลาดคาดจะหดตัว 0.2% ซึ่งจุดประกายความหวังว่า ธ.กลางนิวซีแลนด์ (RBNZ) จะชะลอแผนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
- ECB ปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP ปี 66 คาดจะขยายตัว 1.0% y-y จากเดิมคาดขยายตัว 0.5% y-y พร้อมทั้ง ปรับลดคาดการณ์เงินเฟ้อปี 66 และ 67 ลงมาอยู่ที่ 5.3% y-y และ 2.9% y-y ตามลำดับ จากคาดการณ์ เดือน ธ.ค. 65 ที่ 6.3% y-y และ 3.4% y-y ตามลำดับ โดยตัวเลขทั้งหมดเป็นการคาดการณ์ที่จัดทำขึ้นก่อนเกิดเหตุการณ์วิกฤตภาคธนาคาร
ปัจจัยลบ
- โกลด์แมน แซคส์ปรับเพิ่มคาดการณ์แนวโน้ม ศก. สหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอยในช่วง 12 เดือนข้างหน้าเป็น 35% หลังมีความไม่แน่นอนจากวิกฤตในภาคธนาคาร อีกทั้งยังปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของ ศก. สหรัฐในปี 66 ลง 0.3% สู่ระดับ 1.2%
PICKS OF THE DAY
GULF BUY
- เป้าหมาย 52.25/53.50 แนวรับ 49.50/50.25
- แนวโน้มกำไรแข็งแกร่ง: ทางฝ่ายคาดกำไรปี 2566 ยังคงเติบโตอย่างเนื่อง จากการรับรู้กำลังการผลิตของ GSRC ที่ดำเนินการเต็มกำลังการผลิต เต็มปีเป็นปีแรก ประกอบกับคาดว่าจะมีการ COD โครงการที่อยู่ใน pipe line อีกราว 2,942 MW ในปี 2566
- คาดโรงไฟฟ้า SPP ฟื้น y-y: ทางฝ่ายคาดผลการดำเนินงานโรงไฟฟ้า SPP ของ GULF จะฟื้นตัว y-y เนื่องจากราคาก๊าซธรรมชาติที่อ่อนตัวลง y-y และค่า Ft สำหรับงวด ม.ค.-เม.ย. 66 ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 154.92 สตางค์ และในขณะเดียวกันคาดว่าใน 2H66 ปริมาณก๊าซในอ่าวจะปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้คาดว่าการลดลงของค่า Ft จะไม่ส่งผลต่อกำไรอย่างมีนัย
HMPRO BUY
- เป้าหมาย 14.50/15.00 แนวรับ 13.80/14.00
- เครื่องปรับ /เครื่องฟอกอากาศขายดี: ทั้งจากอากาศร้อนในปีนี้เริ่มเร็วกว่าทุกปี และฝุ่น PM 2.5 ที่ปกคลุมเกือบทั่วประเทศ คาดหนุนคนซื้อเครื่องปรับอากาศ และเครื่องฟอกอากาศเพิ่มมากขึ้น หนุนยอดขายปรับตัวดีขึ้นตาม
- อานิสงส์บวกจากท่องเที่ยว/บริโภคฟื้นตัว: ยังได้อานิสงส์บวกจากท่องเที่ยวและการบริโภคในประเทศที่ฟื้นตัวดีขึ้น โดยเฉพาะจากการเข้ามาของนักท่องเที่ยวต่างชาติ และ จีนที่ทยอยเข้ามา ทำให้ยอดขายสาขาหัวเมืองท่องเที่ยวต่างๆ ฟื้นตัวมากขึ้น รวมถึง Sentiment เชิงบวกจากการเลือกตั้ง หนุน SSSG ฟื้นตัวดีขึ้น