สรุปภาวะตลาด

วันศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนีเปิดโดด +10 จุด และย่อตัวลงในช่วงสาย แต่ในภาคบ่ายมีแรงซื้อต่อเนื่อง แรงซื้อนำโดยหุ้นกลุ่มพลังงาน ธนาคาร สาเหตุจากนักลงทุนคลายความกังวลในประเด็นของธนาคาร เครดิต สวิส (Credit Suisse) และธนาคารเฟิร์ส รีพับลิก แบงก์ (First Republic Bank) ที่ได้รับการช่วยเหลือทางการเงิน ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,563.67 จุด +9.02 จุด +0.58% มูลค่า การซื้อขาย 73,535 ลบ.ต่างชาติ -1,965.15 ลบ. TFEX -3,856 สัญญา ตราสารหน้ี +2,153.53 ลบ.

ปัจจัยบวก+

+ ยูบีเอส (UBS) ซึ่งเป็นธนาคารใหญ่ที่สุดของสวิตเซอร์แลนด์ ได้ตกลงเข้าซื้อกิจการธนาคารเครดิต สวิส ในวงเงิน 3 พันล้านฟรังก์สวิส (3.23 พันล้านดอลลาร์ สหรัฐ) โดยธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ให้คำมั่นว่าจะจัดสรรเงินกู้ยืมจำนวนสูงถึง 1 แสนล้านฟรังก์ (1.08 แสน ล้านดอลลาร์) เพื่อสนับสนุนการเทกโอเวอร์กิจการ ขณะที่รัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์อนุมัติเงินค้ำประกันจำนวนสูงถึง 9 พันล้านดอลลาร์เพื่อปกป้องเศรษฐกิจของสวิตเซอร์แลนด์ในวิกฤตการณ์นี้ และเป็นการให้ความช่วยเหลือเร่งด่วน

+ แฟลกสตาร์ แบงก์ (Flagstar Bank) ซึ่งเป็นธนาคารในเครือของนิวยอร์ก คอมมูนิตี้ บันคอร์ป อิงค์ ได้บรรลุข้อตกลงกับหน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐเพื่อเข้าซื้อสินทรัพย์ ซึ่งประกอบด้วยเงินฝากและเงินกู้ของธนาคาร ซิกเนเจอร์ แบงก์ ซึ่งถูกสั่งปิดกิจการในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา

+ เว็บไซต์ดิแอตแลนติก (The Atlantic) รายงานว่า ผลวิจัยล่าสุดนำเสนอหลักฐานที่ชัดเจนและน่าเชื่อถือที่สุดว่า การแพร่ระบาดเริ่มต้นขึ้นเมื่อเชื้อไวรัส SARS-CoV-2 ติดต่อจากสัตว์สู่มนุษย์แทนที่จะเป็นอุบัติเหตุเชื้อไวรัสรั่วไหล ออกมาจากห้องแล็บ

+ สสว.พร้อมดันจีดีพีเอสเอ็มอีปี 66 โต 2-4% ดึง บสย.ค้ำประกันเงินกู้ หวังธุรกิจที่จมจากพิษโควิดเดินหน้าได้ต่อ  พร้อมอุดหนุนงบ 2 แสนบาท/ราย ลดค่าใช้จ่ายยกเครื่อง 50-80%

+ ธนาคารกลางจีน (PBOC) ประกาศตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ประเภท 1 ปีไว้ที่ระดับ 3.65% และคงอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 5 ปีที่ 4.30% ในวันนี้ ซึ่งเป็นไปตามการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

ปัจจัยลบ-

– ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 384.57 จุด -1.19% ในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 0.1% เนื่องจากนักลงทุน เทขายหุ้นออกมา ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับวิกฤตในภาคธนาคาร และความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอย

– สัญญาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลง 1.61 ดอลลาร์ -2.36% ปิดที่ 66.74 ดอลลาร์/บาร์เรล และร่วงลง 13% ในรอบ สัปดาห์นี้ เนื่องจากวิกฤตในภาคธนาคารและความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้ฉุดราคาน้ำมันลง

– เกาหลีเหนือเปิดเผยว่า การซ้อมยิงขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBM) “ฮวาซอง-17” (Hwasong-17) เป็นการส่ง สัญญาณเตือนที่จริงจังยิ่งขึ้นต่ออริศัตรู ท่ามกลางการซ้อมรบร่วมทางทหารครั้งใหญ่ระหว่างสหรัฐและเกาหลีใต้

– ศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) ออกแถลงการณ์ ระบุว่า ICC ออกหมายจับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย และนางมาเรีย อเล็กเซเยฟนา ลโวนา- เบโลวา ประธานคณะกรรมาธิการสิทธิเด็กของรัสเซีย

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีวันนี้ยังแกว่งตัวผันผวนในลักษณะ Sideway ออกข้าง โดยมีแรงหนุนจาก UBS ได้ตกลงเข้าซื้อกิจการ ธนาคารเครดิต สวิส ขณะที่ราคาน้ำมับดิบ WTI ที่ปรับตัวลงแรงยังกดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน นักลงทุนยังจับตาการ ประชุมเฟดวันที่ 21-22 มี.ค. มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,555-1,570 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

  • จีนเปิดประเทศ+เราเท่ียวด้วยกันเฟส 5 : MINT CENTEL ERW SPA AU SHR
  • หุ้น mai เด่นปี 66 : SPA D CEYE AU
  • หุ้นเช่ือมโยงการเมือง : TKS SIRI PR9 SC STEC STPI
  • BOI ส่งเสริมการลงทุนชิ้นส่วน EV : EA GPSC BCP DELTA PIMO FPI
  • หุ้นปันผลดี : ADVANC TISCO SCB PT SMIT

หุ้นรายงานพิเศษ

AUCT – “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 12.10 บาท

“มุมมองบวกต่อผลประกอบการงวด 4Q65 ที่โตดีกว่าคาด และมองบวกต่อเนื่องไปยังปี 66”

(+) งวด 4Q65 กำไร 95 ลบ. -2% YoY +41%QoQ ดีกว่าที่เราคาด 13% โดยมีรายได้ 288 ลบ. +6%YoY +15%QoQ ดีกว่าที่เราคาด 6% ปัจจัยเติบโตหลักจากการที่สถาบันการเงินทยอยจบมาตรการพักชำระหนี้ ส่งผล ให้จำนวนรถยึดเข้าสู่ลานประมูลปรับสูงขึ้น นอกจากนี้ ยังได้ผลบวกจากการปรับค่าบริการรถยนต์ 4 ล้อเพิ่มขึ้นเป็น 10,000 บาท จาก 9,000 บาท และปรับค่าดำเนินการรถยนต์ 6 ล้อขึ้นไป เป็น 12,000 บาท จาก 10,000 บาท ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. 65 และกลุ่มรถบิ๊กไบค์เป็น 3,000 บาท จากเดิม 1,500 บาท ตั้งแต่ 26 พ.ย. 65 ส่วน %GPM และ %SG&A ปรับดีขึ้นมาที่ระดับ 53.5% (4Q64 = 56.5%, 3Q65 = 50.3%) และ 10.8% (4Q64 = 12.3%, 3Q65 = 13.9%)ใกล้เคียงกับที่คาด โดยปรับดีขึ้น QoQ จาก Economies of Scale

(+) ความเห็น เรามีมุมมองบวกต่อผลประกอบการงวด 4Q65 ที่โตดีกว่าคาด และมองบวกต่อเนื่องไปยังปี 66 โดยคาดการณ์รายได้และกำไรปี 66 ราว 997 ลบ. +7%YoY และ 296 ลบ. +23%YoY ตามลำดับ เติบโตต่อเนื่องจากปริมาณรถจบการประมูลที่คาดจะกลับเข้าสู่ช่วงก่อนโควิด-19 สนับสนุนจากแนวโน้ม NPL ที่ยังเร่งตัวขึ้น และรับรู้รายได้จากการปรับค่าบริการเต็มปี โดยเราคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 12.10 บาท

หุ้นมีข่าว

(+) ITC (Bloomberg consensus 38.00 บาท) ได้พันธมิตรใหญ่หนานจิงเจียเป่ยเพ็ทแคร์ โปรดักส์ บุกเพ็ทฟู้ดตลาดจีน ชี้ตลาดใหญ่ 2.7 แสนล้านบาท วางหมากอลังการ อัพพอร์ตสัดส่วนรายได้จีนถึง 80% ในปี 2568 ทุ่มงบ 4 พันล้านบาท ต่อยอดธุรกิจยาว 3 ปีต่อเนื่อง บอสใหญ่ “พิชิตชัย วงศ์ปิยะ” ปักเป้าปีนี้รายได้ทะยาน 15% จากปีก่อน รับดีมานด์จ่อคิวเพียบ (ที่มา ทันหุ้น)

(+) BCH (Bloomberg consensus 23.70 บาท) กางแผนอัพรายได้ปีนี้แตะ 1.3 หมื่นล้านบาท ยอดผู้ป่วยใน-ต่างชาติ-ประกันสังคมเพิ่มขึ้น ลุยเจาะฐานรักษาโรคเฉพาะทาง – ศูนย์ IVF ศัลยกรรมความงาม และสุขภาพครบวงจร ทุ่มงบ 1.5 พันล้านบาท เดินหน้าลงทุน 2 โรงพยาบาลต่อเนื่อง ทั้งยังปรับปรุง – เพิ่มประสิทธิภาพการรักษา (ที่มา ทันหุ้น)

(+) BC (Bloomberg consensus – บาท) ส่งสัญญาณมีลุ้นผลงานเทิร์นอะราวด์ หลังธุรกิจโรงแรมฟื้นตัว ยอดเข้าใช้บริการสูง คาดปีนี้โตอีก 10-20% ด้านผู้บริหาร “ปรับชะรันซิงห์ ทักราล” อัดงบลงทุน 500 ล้านบาท กว้านซื้อที่ดินย่านสุขุมวิท พร้อมลุยงานก่อสร้าง เดินเกมผุดสาขากัญชาทางการแพทย์เพิ่ม 25 แห่ง จากปัจจุบันที่ 4 แห่ง (ที่มา ทันหุ้น)

(+) SPVI (Bloomberg consensus 5.30 บาท) ไตรมาส 1/2566 สัญญาณดีรับอานิสงส์ ช้อปดีมีคืน ดีมานด์อุปกรณ์สื่อสารทะลัก เตรียมส่งมอบบิ๊กโปรเจ็กต์ไอแพดการศึกษา 1.7 พันเครื่อง ฟากบอสใหญ่ “ไตรสรณ์ วรญาณโกศล” ปักธงรายได้โต 10% ลุยเจาะกลุ่มการแพทย์ (ที่มา ทันหุ้น)

ปัจจัยจับตาในประเทศ

  • สัปดาห์ที่ 4 สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) แถลงยอดการผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์
  • สัปดาห์ที่ 5 สํานักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) แถลงดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม
    • สํานักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค, ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค
  • 29 มี.ค. ประชุม กนง. ครั้งที่ 2/2566
  • 31 มี.ค. ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย

ปัจจัยจับตาต่างประเทศ

  • 20 มี.ค. ธนาคารกลางจีนประกาศอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR)
    • อียู รายงานดุลการค้าเดือนม.ค.
  • 21 มี.ค. อียู รายงานดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจเดือนมี.ค.จากสถาบัน ZEW
    • สหรัฐ รายงานยอดขายบ้านมือสองเดือนก.พ.
  • 21-22 มี.ค. กําหนดการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (FED)
  • 22 มี.ค. สหรัฐ รายงานสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ จากสานักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA)
  • (เช้าวันที่ 23 มี.ค.) ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย
  • 23 มี.ค. สหรัฐ รายงานจํานวนผู้ขอรับสวัสดิการ ว่างงานรายสัปดาห์
  • 3 เม.ย. กําหนดการประชุมของกลุ่มโอเปกพลัส เกี่ยวกับนโยบายการผลิตน้ำมัน
- Advertisement -