ASL ANALYSIS GUIDE

ประเมิน SET Index คาดแกว่งตัว sideway เน้นยืนแนวรับ 1,558-50
ไม่ควรต่ำกว่า แนวต้านทดสอบ 1,566-72 ผ่านยืนจะเริ่มเห็นสัญญาณกลับตัวขึ้น

ประเด็นการลงทุน
1. ติดตามทิศทางการเมืองไทย
2. จับตาการประชุมเฟด 21-22 มี.ค. นี้
3. ยูบีเอส ตกลงซื้อกิจการ เครดิต สวิส วงเงิน 3.23 พันล้านดอลลาร์

 

วันนี้เคาะ INTUCH

น่าสนใจในช่วงตลาดผันผวนทั้งปัจจัยภายในจากสถานการณ์การเมืองและปัจจัยภายนอกจากวิกฤตธนาคารที่มีปัญหาด้านสภาพคล่อง

MARKET STRATEGY

สรุปตลาดวานนี้

SETI ปิดที่ 1563.67 จุด เพิ่มขึ้น 9.02 จุด (+0.58%) มูลค่าการซื้อขาย 73,534.88 ล้านบาท ฟื้นตัวขึ้นเป็นไปตามตลาดหุ้นทั่วโลก รับแรงซื้อกลับเข้ามาในหุ้นกลุ่มขนาดใหญ่ และ DELTA

Research Highlight: จับตาประเด็นทางการเมืองไทย และการประชุมเฟด

1. ติดตามทิศทางการเมืองไทย

    • ตลาดคาดการณ์ว่าวันนี้นายกฯ จะประกาศยุบสภา หากเป็นไปตามคาดจะมีการเลือกตั้ง ช่วง 14/21 พ.ค. นี้ โดยข้อมูลสถิติย้อนหลังของการเลือกตั้งไทย 7 ครั้งล่าสุด พบว่าให้ผลตอบแทน 3 เดือนก่อนการเลือกตั้งเฉลี่ย 1.0% และ 1 เดือนเฉลี่ยก่อนการเลือกตั้ง อยู่ ที่ 1.1% ในขณะที่ผลตอบแทนตลาดหลังเลือกตั้ง 1 เดือน โดยเฉลี่ยสูงถึง 3.9%
    • เปรียบเทียบกับการเลือกตั้งปี 62 ได้เปลี่ยนจากบัตรเลือกตั้งใบเดียว เลือกทั้ง ส.ส.เขต 350 คน และบัญชีรายชื่อ 150 คน มาสู่การเลือกตั้งปี 2566 ที่ใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ เลือ ส.ส.เขต 400 คน และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คน (สูตรหาร 100 เป็นบวกต่อพรรคใหญ่)
    • คะแนนความนิยมของพรรคการเมืองที่สํารวจโดย NIDA Poll พบว่าพรรคเพื่อไทยมาเป็นอันดับ 1 และปรับตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่องตลอดปี 2565 ส่วนพรรคก้าวไกลเป็นอันดับ 2 ขณะที่กลุ่มที่ไม่สนับสนุนพรรคการเมืองใดเลยอยู่สูงถึงอันดับ 3 แต่แนวโน้มลดลง (คาดว่าไปเพิ่มสัดส่วนในพรรคเพื่อไทย ก้าวไกล และร่วมไทยสร้างชาติ)
    • ในเชิง sentiment มองเป็นบวกต่อตลาดหุ้นไทย และคาดว่าจะเป็น turning point ของ fund flow ใ ใหลกลับตลาดหุ้นไทย รวมถึงตลาดคาดหวังเสถียรภาพของรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง ซึ่งจะหนุนให้ SEÌ ไปแตะระดับ 1700 จุดได้ แนะนำสะสมกลุ่ม Election Rally ที่ได้ประโยชน์ตามนโยบายพรรคการเมืองเช่น ธนาคาร อสังหาฯ นิคม ก่อสร้าง โรงพยาบาล ค้าปลีก และพลังงานทดแทน

2. จับตาการประชุมเฟด 21-22 มี.ค. นี้

    • CME [edWatch ระบุว่า ตลาดคาดการณ์ว่ามีโอกาส 22.5% ที่เฟดจะไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุม FOMC ครั้งนี้ ขณะที่อีก 77.5% คาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% สู่กรอบ 4.75% – 5.00%
    • ด้าน US bond yield ปรับตัวลงขานรับความกังวลของภาคธนาคาร

3. ยูบีเอส ตกลงซื้อกิจการ เครดิต สวิส วงเงิน 3.23 พันล้านดอลลาร์

    • มองเป็นบวกต่อเสถียรภาพของระบบธนาคารและช่วยปกป้องเศรษฐกิจของสวิตฯ โดยธนาคารกลางสวิตฯ จะให้เงินกู้ยืม 1 แสนล้านฟรังก์ (1.08 แสนล้านดอลลาร์) และรัฐบาลสวิตฯ สนับสนุนเงินอีก 9 พันล้านดอลลาร์ เพื่อสนับสนุนการเทกโอเวอร์กิจการ และลดความเสี่ยงให้กับยูบีเอส
    • UBS เตรียมลดขนาดของแผนก IB ใน CS ลง เนื่องจากมีผลประกอบการที่ขาดทุนมาอย่างต่อเนื่อง มองเป็น sentiment เชิงบวกต่อการลงทุนที่ช่วยคลายความกังวลว่าจะเกิดวิกฤตในกลุ่มธนาคาร ที่จะกระทบต่อระบบเศรษฐกิจทั่วโลก

Investment Strategy

  • SETI มีโอกาสย่อตัวลงในช่วงเช้า ขานรับกลุ่มพลังงานที่จะกดดันหลังราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงต่อเนื่อง จากความกังวลด้าน demand ที่จะลดลงหลังกิดวิกฤตกลุ่มธนาคาร แต่ทั้งนี้ turning point จะอยู่ที่การประกาศยุบสภาในวันนี้ หากเป็นไปตามคาด มองว่าอาจเห็น fund flow ไหลเข้า
  • คาดแกว่งตัว sideway เน้นยืนแนวรับ 1558-50 ไม่ควรต่ำกว่าแนวต้านทดสอบ 1566- 72 ผ่านยืนจะเริ่มเห็นสัญญาณกลับตัวขึ้น
  • Selective buy กลุ่ม Defensive SISB DMT BDMS BH ADVANC THCOM MASTER JMT กลุ่ม Election Rally KBANK BBL SC SIRI WHA STEC CPALL EA

Core Portfolio

    • EA CPN AOT AAV KEENS50-A KFACHINA-A และ AFMOAT-HA

Global Markets

(-) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดร่วงลงเกือบ 400 จุด จากนักลงทุนเทขายหุ้นออกมา ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับวิกฤตในภาคธนาคาร และความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอย

(-) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดลบและร่วงลงรายสัปดาห์รุนแรงที่สุดในรอบ 5 เดือน ขณะที่มาตรการสนับสนุนภาคธนาคารของรัฐบาลสหรัฐและยุโรปไม่ได้ช่วยคลายความวิตกเกี่ยวกับวิกฤตธนาคารระดับโลก

( – ) สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ปิดลบ และร่วงลงรุนแรงที่สุดในรอบสัปดาห์นี้ เนื่องจากวิกฤตในภาคธนาคารและความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้ฉุดราคาน้ำมันลง

( + ) สัญญาทองคำตลาด COMEX ปิดพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 11 เดือน และปรับตัวขึ้นรายสัปดาห์มากที่สุดในรอบเกือบ 3 ปี เนื่องจากความวิตกเกี่ยวกับวิกฤตธนาคารได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำในฐานะแหล่งลงทุนที่ปลอดภัย นอกจากนี้ การอ่อนค่าของดอลลาร์ได้ช่วยหนุนตลาดทองคําด้วย

หุ้นเคาะไป คุยไป..INTUCH

  • กลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจในปีนี้ จะเน้นการเติบโตที่ยั่งยืนของกลุ่ม AIS ที่ในระยะสั้นได้รับประโยชน์จากการควบรวมของคู่แข่งที่ยังโฟกัสกับการการปรับโครงสร้างทางการเงินมากกว่าการทำการตลาด ขณะที่ในระยะยาวได้ประโยชน์จากขยายธุรกิจอินเทอร์เน็ตบ้าน ผ่านการควบรวม TTTBB ที่ทำให้ผู้ใช้เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว ในขณะที่ โครงสร้างงบการเงิน และประสิทธิภาพการทำกำไรยังแข็งแกร่งอยู่ รวมถึงผู้เล่นที่ลดลงช่วยลดความรุนแรงในการ แข่งขันด้านราคาของอุตสาหกรรม ส่วนแนวโน้มผลประกอบการ 1Q66 คาดว่าจะขยายตัวเด่น YoY จากไม่มี THCOM มาถ่วงงบ และการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวที่กระตุ้นเศรษฐกิจไทยให้ฟื้นตัว ขณะที่คาดเพิ่มขึ้นเล็กน้อย QoQ ตามการแข่งขันด้านโปรโมชั่นที่ลดลงอย่างการยกเลิกโปรฯ ปรับตัวขึ้น
  • ในเชิง Sentiment เรามองว่า INTUCH เป็นที่น่าสนใจในช่วงตลาดผันผวนทั้งปัจจัยภายในจากสถานการณ์การเมือง และปัจจัยภายนอกจากวิกฤตธนาคารที่มีปัญหาด้านสภาพคล่อง และความมั่นคงของสถาบันการเงิน ขณะที่แนวโน้มผลประกอบการที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากโควิด แต่เชื่อว่าหลังสถานการณ์คลี่คลายหลังประเมินผลประกอบการของ ADVANC ที่เติบโต และการลดสัดส่วนการถือหุ้น THCOM ลง ช่วยให้ผลประกอบการเติบโต ทั้งนี้ INTUCH ยังโดดเด่นด้านการจ่ายปันผลที่ Div. yield ค่อนข้างสม่ำเสมอโดยเฉลี่ยต่อปีที่ 4% โดยงวด 2H65 ประกาศจ่ายปันผล 1.56 บาท/หุ้น XD 21 เม.ย. คิดเป็น div. yield ราว 2%

- Advertisement -