มอง UBS เข้าซื้อ CS ส่งผลบวกต่อตลาดหุ้น / กรอบ SET INDEX 1550-1580

Market Outlook

สัปดาห์นี้นักลงทุนจะให้น้ำหนักกับผลประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ที่จะทราบผลอย่างเป็นทางการในวันพฤหัสบดีช่วงเช้า ตามเวลาประเทศไทย สำหรับผลประชุมครั้งนี้ CME Fed Watch ส่วนมาก 62% ให้น้ำหนักที่ Fed จะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ขณะที่อีก 38% ให้น้ำหนักคงดอกเบี้ยที่ระดับเดิม ทั้งนี้หากประกาศขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ก็มองว่าไม่มีผลอะไรมากกับการลงทุน แต่สิ่งที่นักลงทุนจะให้น้ำหนักได้แก่ถ้อยแถลงจากการประชุม และมุมมองต่อภาวะเศรษฐกิจรวมถึงปัญหาที่เกิดขึ้นกับธนาคารต่างๆ ว่า Fed จะมีวิธีจัดการหรือช่วยเหลืออย่างไร ปัจจัยอื่นๆ ได้แก่ (1) ยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐฯ ในวันอังคาร Bloomberg ประเมินไว้ที่ 4.19 ล้านหลังคาเรือน (2) ยอดขายบ้านใหม่ในสหรัฐฯ Bloomberg ประเมินไว้ที่ 6.5 แสนหลังคาเรือน ส่วนในประเทศ รัฐบาลได้เตรียมแผนประกาศยุบสภา เบื้องต้นเราเชื่อว่าจะเกิดภายในสัปดาห์นี้ โดยการยุบสภาเปรียบเสมือนกับการทำให้ความเป็นสมาชิกของสภาผู้แทนราษฎรสิ้นสุดลงตามกฎหมายแล้ว หลังจากประกาศยุบสภาจำเป็นต้องจัดการเลือกตั้งใหม่ภายใน 45-60 วัน ดังนั้น หากรัฐบาลตัดสินใจประกาศยุบสภาสัปดาห์หน้าการเลือกตั้งไทยอย่างไม่เป็นทางการจะไม่เกินไปกว่าปลายเดือน พ.ค. หรือเร็วสุดช่วงต้นเดือนพ.ค. สถิติการเลือกตั้งปี 2019 พบว่าก่อนการเลือกตั้ง 3 เดือน พบว่า SET INDEX ให้ผลตอบแทนเป็นบวก 3.5% โดยกลุ่มที่โดดเด่นสุดจะได้แก่ ค้าปลีก อาหาร และรับเหมาก่อสร้าง ขณะที่เชิงปัจจัยพื้นฐานพบว่ารายได้ในกลุ่มค้าปลีก (BJC, CPALL, COM7, HMPRO, DOHOME, GLOBAL) พบว่ารายได้ช่วง 1Q19 (ช่วงที่มีการเลือกตั้งในปี 2019) พบว่ารายได้รวมอยู่ที่ 2.08 แสนล้านบาท (+0.8% QoQ, +10.4% YoY) จากข้อมูลเบื้องต้นก็พอตีความได้ว่าช่วงเลือกตั้งได้มีเม็ดเงินสะพัดลงไป จนทำให้รายได้มีการขยายตัวเล็กน้อย (YoY เรามิได้ให้นํ้าหนักมากนัก เนื่องจากบริษัทต่างๆ อาจมีการขยายสาขาหนุนรายได้ขยายตัวขึ้น) โดยสัปดาห์นี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1550-1580

เชิงกลยุทธ์การลงทุน นักลงทุนระยะกลางถึงยาวยังเน้นสะสมเช่นเดิม เน้นหุ้นกลุ่มขนาดใหญ่ที่เป็นผู้นำ (ADVANC, AOT, CPALL, HMPRO, MINT) ส่วน Trading แนะนำศูนย์การค้า (CPN) กลุ่มธนาคารพาณิชย์ (BBL, KBANK, SCB, TTB, TISCO) กลุ่มค้าปลีก (BJC, CRC, CPALL, HMPRO) โรงพยาบาล (BDMS) กลุ่มรับเหมา (CK, STEC)

หุ้นแนะนำซื้อวันนี้

KBANK ราคาพื้นฐาน 170.00 บาท

เล็งเห็นโอกาสที่ค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญจะลดลงหลังการระบายงบดุลสิ้นสุดลงในปี 2023 คาดค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญจะค่อยๆ ลดลงเป็น 200/180/160bps ในปี 2023-25 ตามลำดับ เราจึงคงมองว่ากำไรสุทธิของ KBANK จะพลิกเป็นบวกระดับ 16% ในปี 2023 และ 15% ในปี 2024-2025

CPALL ราคาพื้นฐาน 72.00 บาท

เลือก CPALL เป็นหุ้นเด่นเหนือตัวอื่น เพราะคาดว่าจะมียอดขายสาขาเดิม (SSSG) ที่สูงสุดของกลุ่มในช่วงครึ่งแรกปี 2023 หนุนจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฟื้นตัว และการเลือกตั้งในไทย

Pi Technical Daily 

- Advertisement -