บล.ฟิลลิป:
เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ – ONEE จะฟื้นตัวตั้งแต่ 2Q65
Key Point
แม้แนวโน้มผลประกอบการ 1Q66 ไม่สดใส จากเม็ดเงินโฆษณาผ่านสื่อโทรทัศน์ที่ปรับตัวลงใน ม.ค.-ก.พ. แต่ มี.ค. เริ่มเห็นเม็ดเงินโฆษณาฟื้นตัว ปกติ 1Q จะเป็น low season ของปี ทำให้ช่วงที่เหลือจะดีขึ้นตามฤดูกาล และการเติบโตของการบริหารศิลปินและคอนเสิร์ต/อีเว้น ปรับลดคาดการณ์กำไรสุทธิเป็น 788 ล้านบาท +6.7% y-y ราคาพื้นฐานปรับลงเป็น 7.50 บาท ราคาหุ้นรับผลกำไรที่มีอัตราการเติบโตลดลงมามากแล้ว ยังคงแนะนำ “ซื้อ”
1Q66 เม็ดเงินโฆษณาชะลอตัว y-y, q-q ทำให้ 1Q66 จะชะลอตัว
รายงานการใช้งบโฆษณาของนีลเส็น เดือน ม.ค. – ก.พ. อุตสาหกรรมใช้งบโฆษณารวม -8.5% y-y ที่ 1.61 หมื่นล้านบาท เนื่องจากความไม่แน่นอนทั้งจากปัจจัยภายใน และเศรษฐกิจภายนอกที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเงินเฟ้อและการเร่งขึ้นดอกเบี้ย ทำให้ผู้ลงโฆษณาในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค (FMCG) และ e-Commerce มีการชะลอใช้งบ ประกอบกับเมื่อผู้คนกลับมาเดินทางเป็นปกติ ทำให้มีการโยกงบไปลงโฆษณาในช่องทางอื่น เช่น สื่อนอกอาคาร สื่อเคลื่อนที่ และสื่อวิทยุ ช่องทางโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับ ONEE สื่อโทรทัศน์หดตัว 16.2% ผ่านสื่อออนไลน์ทรงตัว และสื่อวิทยุ +16.9% ซึ่งในปี 2565 รายได้จากโฆษณาทางโทรทัศน์มีสัดส่วนรายได้ที่ 47% และวิทยุที่ 4% ทำให้แนวโน้ม 1Q66 การดำเนินงานน่าจะอ่อนตัวลง y-y, q-q อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารมองในช่วงที่เหลือจะดีขึ้นจาก 1Q66 ตามฤดูกาล โดยในเดือน มี.ค. เริ่มเห็นสัญญาณบวกจากเม็ดเงินโฆษณาที่เริ่มกลับมาใช้มากขึ้น
เน้นงาน Idol Marketing และคอนเสิร์ต/อีเวนต์ หนุนภาพที่เหลือของปี
ONEE หันมาโตในธุรกิจบริหารศิลปินและขายสินค้าที่จะรุกมากขึ้น ผ่านการทำ Idol marketing โดยอาศัยศิลปินของบริษัทที่ได้รับความนิยม และมีฐานแฟนคลับอยู่แล้ว ซึ่งปี 2565 ประสบความสำเร็จมากในงานประเภท Fan Meeting โดยนำศิลปินโชว์ตัวหลายประเทศในเอเซีย ซึ่งในปีนี้จะมีงาน Fan Meeting ราว 100 งาน ซึ่งยืนยันแล้ว 80 งาน และยังนำมาต่อธุรกิจคอนเสิร์ตที่จะมีจัดมากขึ้น หลังสถานการณ์โควิดคลี่คลาย และเริ่มกลับมาจัดได้เมื่อครึ่งปีหลัง 2565 ปีนี้ ONEE จะมีจัดงานคอนเสิร์ตใหญ่มากขึ้น เช่น Shooting Star Asia Tour in Japan, Beach Boys & Girls Music Fest, Micro Concert, 4 โพดำ ปะทะ 3 ดอกจิก และ Love Fest Thailand : Music On the Hill ซึ่งมีการขายตัว 1- 2 หมื่นใบในแต่ละคอนเสิร์ต โดย ONEE ตั้งเป้าธุรกิจบริหารศิลปิน (Idol Marketing) รายได้โต 20% และธุรกิจคอนเสิร์ต/อีเวนต์ โตที่ 20-30% ส่วนธุรกิจรับจ้างผลิตคอนเทนต์ คาดรายได้อาจลดลง แต่อัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้น จากการผลิต Original content ซึ่งมีต้นทุนที่ต่ำกว่า และยังต่อยอดในธุรกิจอื่นๆ เพื่อหารายได้จากช่องทางอื่นได้มากขึ้น
ปรับประมาณการณ์ปี 2566 ลง ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาพื้นฐาน 7.50 บาท
ผู้บริหารคาดการณ์รายได้ปีนี้โต 3-5%y-y ซึ่งทางฝ่ายปรับการเติบโตของรายได้ในปีนี้เป็น 4.2% เป็น 6,386 ล้านบาท ส่วนต้นทุนค่าใช้จ่ายจะยังเน้นการบริหารต้นทุนให้มีประสิทธิภาพ เช่นการ rerun ละครในช่วงที่เม็ดเงินโฆษณาอ่อนตัวลง และการลดเวลาละครช่วง 20.30 น. จากเดิมออกอากาศ 2 ชั่วโมง เหลือ 1 ชั่วโมง 30 นาที ที่เริ่มมาตั้งแต่ ส.ค. 2565 เพี่อลดต้นทุนและให้เหมาะสมกับเม็ดเงินโฆษณา ปรับกำไรปีนี้ลงเป็น 788 ล้านบาท จากเดิม 983 ล้านบาท ซึ่งโต 6.7% y-y ปรับราคาพื้นฐานลงเป็น 7.50 บาท ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ”
ความเสี่ยง
1. ความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของกระแสความนิยมของผู้บริโภค
2. อุตสาหกรรมมีการแข่งขันสูง อาจไม่สามารถขยายหรือรักษาความสามารถในการทำกำไร
3. ความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมโทรทัศน์ในระบบดิจิทัลและวิทยุ