บล.ฟิลลิป:

RCL: กลับสู่ภาวะปกติ

IAA Consensus 25.00-27.00

โควิดคลี่คลาย การขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์และความแออัดที่ท่าเรือลดลง อีกทั้งเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากเงินเฟ้อและการเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ย กำลังซื้อของประเทศต่างๆ ลดลง อีกทั้งยังมีสต๊อกอยู่ ทำให้ดีมานด์การขนส่งลดลง ส่งผลให้ค่าระวางลดลง วงจรธุรกิจเริ่มกลับมาสู่ก่อนโควิด ปีนี้กำไรจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

  • สูงสุดกลับสู่สามัญ หลังโควิดคลี่คลายและปัญหาเศรษฐกิจโลก: จากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาได้ 2 ประโยชน์จากโควิด ทำให้กำไรโตได้อย่างโดดเด่น แต่หลังโควิดคลี่คลาย อีกทั้งยังมีสงครามรัสเซีย-ยูเครน, เงินเฟ้อที่ปรับตัวขึ้นจากราคาพลังงาน และการเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ย ดีมานด์การขนส่งชะลอลง ค่าระวางเรือปรับตัวลงมาอย่างต่อเนื่อง จากดัชนี SCFI ที่ขึ้นไปสูงสุดที่ 5,110 จุด (7 ม.ค. 65) ลงมาเหลือ 910 จุด (17 มี.ค. 66) ซึ่งค่าเฉลี่ย ม.ค.-17 มี.ค. 66 ยังปรับตัวลง 29% จาก 4Q65 แนวโน้มกำไรอ่อนตัวลง y-y, q-q โดยสถานการณ์ปัจจุบัน RCL ยังคงสามารถมีกำไรได้ RCL มอง 1Q66 น่าจะเป็นไตรมาสที่ต่ำสุดของปี และจะฟื้นตัวดีขึ้นตามฤดูกาลในช่วงที่เหลือ หลังจากเริ่มเห็นปริมาณการขนส่งและอัตราค่าขนส่งฟื้นตัวในเดือน มี.ค.
  • ขยายเส้นทางให้บริการในบริเวณที่มีศักยภาพมากขึ้น: RCL ได้มีการสั่งต่อเรือใหม่ 8 ลำในช่วงที่ผ่านมา รับแล้ว 2 ลำ ขนาดบรรทุก 12,000 Teus ได้ปล่อยเช่าในราคา 65,000 ดอลลาร์/วัน มีสัญญา 5 ปี ส่วนอีก 6 ลำ จะทยอยรับในปีหน้า จากปัจจุบันที่มี 40 ลำ ซึ่งจะนำมาขยายเส้นทางเดินเรือไปในบริเวณที่ยังมีการเติบโตที่ดี เช่น จีน, อินเดีย, อาเซียน, ตะวันออกกลาง และแอฟริกา ตะวันออกที่มีการเปิดเส้นทางไปเคนยากับแทนซาเนียแล้ว  ซึ่งเป็นประเทศขนาดใหญ่และการเติบโตทางเศรษฐกิจดี นอกจากนี้ยังได้มีการขยายธุรกิจโลจิสติกส์ในหลายประเทศ เช่น อินเดีย จีน และจะขยายในอาเซียน เพื่อสนับสนุนธุรกิจของ RCL และของลูกค้า
- Advertisement -