“GMM SHOW” ผลักดัน Festival Economy สร้างเศรษฐกิจเมืองหาดใหญ่ ด้วยเทศกาลดนตรีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในภาคใต้ “พุ่งใต้เฟส”
จากปรากฏการณ์ความสำเร็จของการสร้างแบรนด์ใหม่และขยายตลาดมิวสิคเฟสติวัลไปยังหัวเมืองใหญ่ในภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วประเทศไทยของ “GMM SHOW” (จีเอ็มเอ็มโชว์) ที่ได้รับการตอบรับอย่างท่วมท้นอย่าง Chang Music Connection presents “เชียงใหญ่เฟส 3” (ช้าง มิวสิค คอนเนคชั่น พรีเซนต์ “เชียงใหญ่เฟส 3”) และ Chang Music Connection presents “เฉียงเหนือเฟส” (ช้าง มิวสิค คอนเนคชั่น พรีเซนต์ “เฉียงเหนือเฟส”) นำไปสู่ความสำเร็จของแบรนด์มิวสิคเฟสติวัลใหม่ล่าสุดกับงาน Chang Music Connection presents “พุ่งใต้เฟส” (ช้าง มิวสิค คอนเนคชั่น พรีเซนต์ “พุ่งใต้เฟส”) ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2566 ณ The Pirates Park HatYai (สวนน้ำ เดอะไพเรท ปาร์ค หาดใหญ่) ที่ผ่านมา โดยทีม “ALL AREA” (ออลล์แอเรีย) ผู้จัดฝีมือดีและมีความคิดสุดสร้างสรรค์ ซึ่งงานนี้ได้รับกระแสตอบรับที่ดีเกินคาดจากชาวภาคใต้อีกด้วย
“พุ่งใต้เฟส” เป็นหนึ่งงานที่เล็งเห็นความสำคัญและต้องการมีส่วนช่วยผลักดันนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจผ่านการจัดงาน (Festival Economy) ตามเป้าหมายการเป็นศูนย์กลางการจัดประชุมและนิทรรศการระดับประเทศและนานาชาติ (MICE City) ของจ. สงขลา ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของการทำงานร่วมกันกับภาครัฐและภาคเอกชนในพื้นที่เมืองหาดใหญ่ด้วยเป้าหมายในการทำให้เทศกาลดนตรีนี้สามารถเกิดขึ้นต่อไปในอนาคตและกลายเป็นงานที่ชาวภาคใต้ภาคภูมิใจ
นางสาวพนมกร พันธุ์ชนะ ผู้จัดการส่วนผลิตและสร้างสรรค์งานโชว์บิซของแบรนด์ครีเอทีฟ All AREA (ออลล์แอเรีย) ภายใต้หน่วยงาน GMM SHOW บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่สุดที่แบรนด์มิวสิคเฟสติวัลใหม่อย่างพุ่งใต้เฟส สำเร็จลุล่วงและผ่านพ้นไปด้วยดี เราในฐานะผู้จัดงานต้องขอขอบคุณทีมงานทุกฝ่าย ชาวภาคใต้ทุกคน ตลอดจนทุกภาคส่วนของเมืองหาดใหญ่ ที่ให้การสนับสนุนการจัดงานตั้งแต่ก่อนการจัดงาน ระหว่างการจัดงาน และหลังการจัดงาน ยิ่งไปกว่านั้นการจัดงานในครั้งนี้ยังมีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นและเพิ่มช่องทางการสร้างรายได้ให้กับคนในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี รวมทั้งยังเป็นการสนับสนุนการท่องเที่ยวเมืองหาดใหญ่ให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง”
พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี นายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ กล่าวว่า “การจัดงานเทศกาลดนตรีในครั้งนี้ เป็นงานเทศกาลขนาดใหญ่ครั้งแรกในภาคใต้ ซึ่งมีความยิ่งใหญ่สมกับการรอคอยของพี่น้องประชาชนชาวใต้ที่รอคอยมาเป็นเวลาช้านาน กระผมเองเชื่อว่าการจัดงานเทศกาลในครั้งนี้ช่วยเพิ่มความคึกคักให้กับเมืองหาดใหญ่ของเราเป็นอย่างมาก และเป็นอีกทางหนึ่งที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของเมืองหาดใหญ่ให้ดีขึ้นภายหลังจากการระบาดของโควิด-19 นอกจากนี้ จากที่จังหวัดสงขลาได้รับการรับรองเป็นเมือง MICE City ในปี พ.ศ. 2563 และเริ่มดำเนินงานภายใต้นโยบาย Festival Economy แล้วนั้น ตอนนี้ได้เดินหน้าขับเคลื่อนสู่การเป็นศูนย์กลางการจัดงานอีเวนต์ต่างๆ ทั้งระดับประเทศและระดับนานาชาติ เพื่อพัฒนาศักยภาพด้านการท่องเที่ยวให้เกิดการท่องเที่ยวอย่างมีคุณค่าและยั่งยืนต่อไป ในโอกาสนี้กระผมขอขอบคุณทางจีเอ็มเอ็มโชว์ที่ให้เกียรติเทศบาลนครหาดใหญ่ได้มีส่วนร่วมในการจัดพุ่งใต้เฟสมิวสิกเฟสติวัล และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเมืองหาดใหญ่สู่การเป็นเมือง MICE City ต่อไปในอนาคต”
ด้านนายทรงพล จังศิริวัฒนธำรง ประธานหอการค้าจังหวัดสงขลา ได้เปิดเผยข้อมูลด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวที่เกิดขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า “งานพุ่งใต้เฟสเป็น Exhibition (นิทรรศการ) ขนาดใหญ่ที่มีการรวมคนรักในเสียงดนตรีจำนวนมาก มีผู้เข้าร่วมงานกว่า 20,000 คน ด้วยยอดจำนวนขนาดนี้ ผมคิดว่านอกจากประชาชนในพื้นที่จังหวัดสงขลาแล้ว ยังมีนักท่องเที่ยวมาจากต่างพื้นที่ด้วย ซึ่งเม็ดเงินที่คาดว่าเกิดการสะพัดในจังหวัดสงขลาในช่วงเทศกาลดังกล่าวมีไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท ที่พักและโรงแรมในหาดใหญ่มี Occupancy Rate (อัตราการเข้าพัก) เกือบ 100% ถือว่าเป็นฟีดแบ็คที่ดีมากครับ ดังนั้นในอนาคตจังหวัดสงขลาจะให้การสนับสนุนจีเอ็มเอ็มโชว์ ในการจัดเทศกาลดนตรีที่ จ.สงขลาต่อไป เพราะเชื่อว่าปีแรกทำได้ดีแบบนี้ ได้สร้างความรับรู้และประสบการณ์ให้กับคนที่มาร่วมงานและคนที่ไม่ได้มาร่วมงานได้เห็นภาพ ดังนั้น คนต่างภูมิภาค คนในจังหวัดอื่น ๆ คงอยากจะพุ่งมาทางใต้เช่นเดียวกัน เมืองหาดใหญ่ของเรามีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย อาหารการกินที่เพียบพร้อม ที่พักที่สะดวกสบาย ระบบสาธารณูประโภค-สาธารณูปการที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวได้อย่างดีเยี่ยม ผมขอบคุณคณะผู้จัดงานจีเอ็มเอ็มโชว์นะครับที่จัดงานดี ๆ แบบนี้ ถือเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในจังหวัดได้อย่างดี และอยากให้มีอีกทุก ๆ ปีครับ”