ตลาดหุ้นวานนี้
SET Index บวก 8 จุด (+0.50%) ปิดที่ 1,585 จุด จากแรงซื้อหุ้นกลุ่มพลังงานตามทิศทางราคาน้ำมันดิบที่กลับมาฟื้นตัว
แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้
ประเมิน SET อ่อนตัวแนวรับ 1,575 – 1,580 จุด แม้ FED มีมติขึ้นดอกเบี้ย 0.25% สู่ 4.75-5.00% ตามคาดแต่ส่งสัญญาณอาจขึ้นดอกเบี้ยอีกเพื่อฉุดเงินเฟ้อให้กลับสู่เป้าหมายที่ 2% ส่งผลให้เกิดความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจหดตัว อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันดิบที่ดีดตัวขึ้นหลังโอเปกพลัสยืนยันลดการผลิต 2 ล้านบาร์เรล/วันถึงสิ้นปี รวมถึงแรงซื้อกองทุน Trigger fund จะช่วยหนุนให้ดัชนีสลับรีบาวด์ขึ้นได้
กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy
- PTTEP TOP BCP PTTGC อานิสงส์ราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวขึ้น
- BDMS BCH INTUCH ADVANC กลุ่ม Defensive ช่วงดัชนีผันผวน
หุ้นแนะนำวันนี้
- ADVANC (ปิด 214 ซื้อ/เป้า 250 บาท) Defensive stock เหมาะสำหรับพักเงินในภาวะที่ตลาดผันผวน แนวโน้มกำไรกลับมาฟื้นตัว จากการแข่งขันในอุตสาหกรรมที่ลดลงหลัง TURE และ DTAC ควบรวมกัน
- PTTEP (ปิด 142.5 ซื้อเป้า BB Consensus 176 บาท) ได้ Sentiment บวกราคาน้ำมันดิบกลับมาฟื้นตัว PTTEP ได้ประโยชน์โดยตรง เนื่องจากเป็น Oil link Company
บทวิเคราะห์วันนี้: Media sector (Top pick: VGI), Strategy
ประเด็นสำคัญวันนี้
(+/-) FED ขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ตามคาด ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งในปีนี้: ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยปลายปีนี้จะขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 5.1% ส่วนปีหน้าเฟดส่งสัญญาณจะลดดอกเบี้ย 0.80% และ 1.2% ในปี 68 ด้าน GDP เฟดลดคาดการณ์ GDP ในปีนี้ลงเล็กน้อยเป็น +0.4% จาก +0.5%
(+) น้ำมันดิบยังบวกตอบรับดอลลาร์อ่อนค่าหลังเฟดขึ้นดอกเบี้ยตามคาด: ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 1.23$ (+1.8%) ปิดที่ 70.90$/bbl ตอบรับสต๊อกน้ำมันสำเร็จรูปของสหรัฐลดลงเกินคาด และยังได้ปรงหนุนดอลลาร์อ่อนค่าหลังจากเฟดขึ้นดอกเบี้ยตามคาด(น้ำมันถูกลงในสายตาผู้ซื้อ)
(+/-) กกพ.ปรับลดค่า Ft เป็น 98.27 สตางค์ช่วยลดค่าไฟฟ้าให้ภาคธุรกิจ: เป็น Slightly negative ต่อโรงไฟฟ้า SPP (BGRIM GPSC GULF) จากค่า Ft ลดลงจาก 154.92 สตางค์เป็น 98.27 สตางค์ ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าต่อหน่วยลดลง จาก 5.34 บาทเป็น 4.77 บาท หรือ 10.6% แต่จะเป็นบวกต่อภาคธุรกิจจากค่าไฟฟ้าที่ลดลง
ข่าวในประเทศและต่างประเทศ
สรุปข่าวเศรษฐกิจในประเทศและต่างประเทศ
ไทย
(+) กระทรวงท่องเที่ยวรายงานจํานวนนักท่องเท่ียวต่างชาติ 1 ม.ค.-18 มี.ค.66 อยู่ที่ 5.578 ล้านคน
สหรัฐ
(+) คณะกรรมการกําหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติเป็นเอกฉันท์ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 4.75- 5.00% ในการประชุมเมื่อวานน้ี ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้
(+) คาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) เจ้าหน้าที่เฟดคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสูงสุดสู่ระดับ 5.1% ในปีนี้ ซึ่งบ่งชี้ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกเพียง 1 คร้ังหลังการประชุมคร้ังนี้ นอกจากน้ี เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.8% ในปี 2567 และ 1.2% ในปี 2568
(+) เฟดคาดว่าอัตราว่างงานจะแตะระดับ 4.5% ในปีนี้ และเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.6% ทั้งในปี 2567 และ 2568 ขณะที่อัตราว่างงานระยะยาวอยู่ที่ 4.0% ขณะเดียวกัน เฟดคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะมีการขยายตัว 0.4% ในปีนี้ ลดลงจากคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ระดับ 0.5% ก่อนที่จะดีดตัวสู่ระดับ 1.2% และ 1.9% ในปี 2567 และ 2568 ตามลําดับ ขณะที่อัตราการขยายตัวในระยะยาวอยู่ที่ระดับ 1.8%
ยุโรป
(-) อังกฤษเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ปรับตัวขึ้นเกินคาด 10.4% ในเดือนก.พ. ซึ่งหนุนเงินปอนด์แข็งค่าขึ้นจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% ในวันพฤหัสบดีนี้เพื่อสกัดเงินเฟ้อ
เอเชีย
(+) รัสเซีย-จีนเล็งใช้เงินหยวนจีน-รูเบิล เป็นตัวกลางการค้าหลัก ดัน CBDC โตก้าวกระโดด