บล.กรุงศรีฯ:

MEDIA SECTOR – เลือกเฉพาะหุ้นเด็ดในกลุ่ม (NEUTRAL)

ถึงแม้ว่ายอดโฆษณาจะเพิ่มขึ้น mom แต่เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่แล้วยังคงลดลงเพราะสื่อ TV ซึ่งเราคิดว่าเป็นเพราะภาวะเศรษฐกิจอ่อนแอลง และสื่อ TV เสียส่วนแบ่งตลาดไปให้กับสื่อ OOH และสื่ออินเทอร์เน็ต ทั้งนี้ สื่อ OOH น่าจะเป็นกลุ่มที่โดดเด่นโดยยอดโฆษณาเพิ่มขึ้น yoy เรายังคงเลือก VGI เป็นหุ้นเด่นของเราในกลุ่มนี้ในแง่ของ risk/reward profile

Nielsen รายงานว่ายอดโฆษณาเดือนกุมภาพันธ์เพิ่มขึ้น mom

ยอดโฆษณาเดือนกุมภาพันธ์เริ่มแสดงสัญญาณการฟื้นตัวขึ้น โดยเพิ่มขึ้น 3% mom 0จากการฟื้นตัวของสื่อหลักซึ่งได้แก่สื่อ TV (+16%) และสื่อ OOH (+6%) อย่างไรก็ตาม ยอดโฆษณาในโรงภาพยนตร์ยังคงลดลงอย่างมาก mom (-77%) ทั้งนี้ เมื่อเทียบ yoy ยอดโฆษณายังคงอ่อนแอ โดยลดลง 8% yoy ซึ่งเป็นการลดลงในระดับเดียวกับเมื่อเดือนมกราคม 2023 นำโดยสื่อ TV ซึ่งลดลง 12% และสื่อโรงภาพยนตร์ ซึ่งลดลง 76% ทั้งนี้ ในส่วนของสื่อ TV เราเชื่อว่ายอดโฆษณาที่ลดลงมีสาเหตุสำคัญมาจากภาวะเศรษฐกิจ และสูญเสียส่วนแบ่งตลาดไปให้กับสื่ออินเทอร์เน็ต และสื่อ OOH ส่วนในกรณีของยอดโฆษณาสื่อโรงภาพยนตร์ที่ลดลงน่าจะเป็นเพราะไม่มีโปรแกรมหนังเด็ดเข้าโรงฉาย ในทางกลับกัน ยอดโฆษณาผ่านสื่อ OOH ยังโตสวนกระแส โดยเพิ่มขึ้น 24% yoy เนื่องจากชิงส่วนแบ่งตลาดได้เพิ่มขึ้น

 

แนวโน้มระยะสั้นของสื่อ OOH ยังดูไม่สดใส

ถึงแม้เราจะยังคงชอบสื่อ OOH มากกว่าสื่อ TV แต่ยอดโฆษณาตามรายงานของ Nielsen บ่งชี้ว่าผลประกอบการใน 1Q23 น่าจะออกมาต่ำกว่าใน 4Q22 ซึ่งสอดคล้องกับมุมมองของเราที่คาดว่าปัจจัยฤดูกาลจะส่งผลให้กำไรลดลง qoq แต่ในระยะยาว เรายังคงมองว่าสื่อ OOH จะชิงส่วนแบ่งตลาดจากสื่อ TV ได้เพิ่มขึ้น โดยในเดือนกุมภาพันธ์ 2023 ส่วนแบ่งตลาดของสื่อ OOH อยู่ที่ 14% ในขณะที่ของสื่อ TV อยู่ที่ 51% ซึ่งเรามองว่าสื่อ OOH ยังมีช่องที่จะเติบโตได้อีก และจะสามารถชิงส่วนแบ่งตลาดมาได้เพิ่มขึ้น

 

Risk-reward profile ของ VGI ดูดีกว่าเพื่อน

เรายังคงคำแนะนำถือ PLANB แม้ว่าราคาหุ้นจะย่อลงมาแล้วในช่วงที่ผ่านมา เราแนะนำให้นักลงทุนที่อยากเข้าลงทุนใน PLANB รอเข้าซื้อหลังจากที่บริษัทส่งงบ 1Q23 แล้ว เพราะแม้ว่าผลประกอบการ 1Q23 จะได้ผลกระทบจากปัจจัยฤดูกาล แต่เรามองว่ายังมีความเสี่ยงที่จะมีการปรับลดประมาณการกำไรลงอีก ทั้งนี้ UR เฉลี่ยในช่วงสองเดือนแรกของ 1Q23 อยู่ที่ 55-56% ซึ่งต่ำกว่าประมาณการของเราที่ 72% เราจะกลับมาทบทวนประมาณการกำไรของเราอีกครั้งหลังจากที่บริษัทส่งงบ 1Q23 แล้ว ส่วนในกรณีของ VGI  เรายังคงประมาณการกำไรเอาไว้เท่าเดิม และคงราคาเป้าหมายเอาไว้ที่ 5.50 บาท เนื่องจากเราเชื่อว่าประมาณการของเราค่อนข้างอนุรักษ์นิยมมากแล้ว ทั้งนี้ ราคาหุ้นในช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมาถูกกดดันจากทั้งผลการดำเนินงาน และความกังวลเกี่ยวกับประเด็นที่เกี่ยวกับทางการของ BTS เรามองว่าราคาหุ้นที่ระดับปัจจุบันน่าจะลงหนักเกินไปเมื่อเทียบกับปัจจัยพื้นฐานที่ดีขึ้น

- Advertisement -