KS Daily View 23.03.2023 >>> FOMC ปรับดอกเบี้ยขึ้น 0.25% ปรับเป้า GDP ลดลงเหลือ 0.4% SET คาดแกว่งตัวออกข้างในกรอบ 1,555-1,596 หุ้นแนะนำวันนี้ TRUE
สรุปภาวะตลาดเมื่อวานนี้
ดัชนี DJIA -1.63%, S&P 500 -1.65%, NASDAQ -1.60% โดย Sector ที่ outperform ใน S&P 500 ได้แก่ IT (-0.92%), Consumer Staples (-0.98%), Healthcare (-1.50%)เป็นต้น Sector ที่ underperform ใน S&P 500 ได้แก่ Real Estate (-3.64%), Financials (-2.37%), Consumer Discretionary (-2.20%) เป็นต้น
ในประเทศ: SET Index ปรับตัวขึ้น +7.90 จุด หรือ +0.5% ปิดที่ 1,585.08 จุด โดยหุ้นที่ปรับขึ้นแรง ได้แก่ SPRC (+3.96%), BCPG (+3.74%), TOP (+3.52%), PTTGC (+3.35%), IRPC (+3.15%) เป็นต้น ส่วนหุ้นที่ปรับลงแรง ได้แก่ JMART (-6.91%), BYD (-5.82%), SINGER (-5.82%), TQM (-3.01%), JMT (-2.63%) เป็นต้น
แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศ : การประชุมเฟดครั้งนี้มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 25bps เป็น 4.75-5.00% ตามที่เราและตลาดคาด ในขณะที่ Dotplot ใหม่ของการประชุมในรอบนี้เหมือนกับรอบก่อนหน้าในเดือนธ.ค. กล่าวคือคาดว่าคงระดับดอกเบี้ยในช่วงปลายปีนี้ที่บริเวณ 5.00-5.25% กล่าวคือมีโอกาสที่เฟดจะเดินหน้าขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกหนึ่งรอบในช่วงเดือนพ.ค. พร้อมปรับเป้าดอกเบี้ยปีหน้าขึ้นจาก 4.1% เป็น 4.3% และสำหรับตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจได้มีการปรับเป้า GDP ปีนี้และปีหน้าลงเหลือ 0.4% และ 1.2% ตามลำดับ (เดิม 0.5% และ 1.6%) ในขณะที่เงินเฟ้อปีนี้ปรับขึ้นที่ 3.3% จากเดิม 3.1% และในส่วนของแผนการทำ QT ยังคงกรอบวงเงินในระดับ 9.5หมื่นล้านเหรียญสหรัฐตามเดิม สำหรับความกังวลเรื่อง SVB ทางประธานเฟดได้ระบุถึงความแข็งแกร่งของเสถียรภาพธนาคารในสหรัฐพร้อมให้การสนับสนุน อย่างไรก็ตามได้พูดถึงกระทบทางเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้นในภายหลัง
โดยหากอิงจาก Fed fund Future และ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 2ปี พบว่านักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงประเมินว่าดอกเบี้ยสหรัฐในช่วงปลายปีนี้จะปรับตัวลงเหลือประมาณ 4.2% แตกต่างจากที่ Dotplot ระบุว่าคงดอกเบี้ยในระดับสูงที่บริเวณ 5.0-5.25% และในขณะเดียวกัน USD ยังอ่อนค่าภายหลังจากที่จบการประชุมในระดับ 102.5 (จากเดิมที่ 103.2) โดยเราสนับสนุนให้เฟดเดินหน้าขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อยอีกหนึ่งครั้งเพื่อให้เป็นช่วงเวลาที่กรอบบนของดอกเบี้ยนโยบายอยู่เหนือเงินเฟ้อซึ่งคาดว่ามีโอกาสเกิดขึ้นในช่วง 5.25% ในไตรมาสสองนี้
ประเด็นสำคัญที่มีผลต่อการลงทุน
1.) ผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ตามคาด และคงระดับดอกเบี้ยปลายปีที่ 5.00-5.25% พร้อมปรับเป้า GDP ลดลงเล็กน้อยทั้งปีนี้และปีหน้า
2.) ที่ประชุมคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) มีมติเห็นชอบค่าเอฟทีงวดเดือนพฤษภาคม – สิงหาคม 2566 เท่ากับ 98.27 สตางค์ต่อหน่วย ทำให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยรวมอยู่ที่ 4.77 บาทต่อหน่วย
3.) China Mobile International Holding Limited(CM) ได้ขายหุ้นของ TRUE จำนวน 906.57 ล้านหุ้นหรือ 2.62% ให้กับ Long Prosper Group Limited (LPG)
Theme การลงทุนสัปดาห์นี้ แนะนำ หุ้น Defensive ที่จะช่วยลดความผันผวน/ความเสี่ยงของพอร์ทการลงทุนรวม หรือหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวหนุนให้สามารถ outperform ตลาดได้ ได้แก่
1.) กลุ่ม ICT คาดว่าจะเป็นกลุ่มผลักดันการปรับขึ้นของดัชนีในรอบนี้ แนะนำ ADVANC ราคาพื้นฐาน 233.85 บาท และ TRUE ราคาพื้นฐาน 10.32 บาท
2.) กลุ่มโรงไฟฟ้า แนะนำ BGRIM ราคาพื้นฐาน 64.5 บาท และ GULF ราคาพื้นฐาน 54.50 บาท ได้กระแสบวกจาก Bond Yields ปรับลง และเงินบาทแข็งค่า
3.) กลุ่มโรงพยาบาล แนะนำ BCH ราคาพื้นฐาน 23.8 บาท คาดมีปัจจัยบวกหนุนจากในเดือน เม.ย. คาดการปรับอัตราค่าบริการเหมาจ่าย SSO จะถูกปรับขึ้น 8-10%
4.) กลุ่มค้าปลีก แนะนำ CPALL ราคาพื้นฐาน 73.5 บาท ราคาหุ้นอยู่ในโซนล่าง และมีปัจจัยบวกจากกระแสการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น
5.) กลุ่มเรือเทกอง แนะนำ PSL ราคาพื้นฐาน 18.5 บาท ค่าระวางฟื้นตัวจากการเปิดเศรษฐกิจของจีน และหากสงครามรัสเซีย-ยูเครนจบ ต้องบูรณะยูเครนจะมีความต้องการเรือเทกองมาก
ประเมินตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดแกว่งในกรอบ 1,555 – 1,596 จุด หุ้นแนะนำ TRUE
Top pick : TRUE (ราคาพื้นฐาน 10.32 บาท) ราคาหุ้นปรับตัวลดลงมาจากข่าวการขายหุ้นของ China Mobile เรามองว่าเป็นโอกาสซื้อ จากกรณีที่
1) CPG และ Telenor เข้าซื้อหุ้นมากขึ้น
2) การกลับมาทำกำไรจากปีการดำเนินงานแรกหลังจากการควบรวมกิจการ
3) การประกาศมูลค่าการผนึกกำลังที่อาจเกิดขึ้นสูงกว่า 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยย้ำราคาเป้าหมายที่ 10.32 บาท ด้วยวิธี SOTP ในส่วนการควบรวมกิจการ มูลค่าอิงด้วยวิธี DCF
รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ
- วันพฤหัสฯ ติดตามตัวเลขส่งออก และนำเข้าของไทยเดือน ก.พ. คาด -5.1% YoY และ +2.0% YoY ดุลการค้าของไทยเดือน ก.พ. คาด -US$1,150mn (ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ -US$4,650mn) การประชุมธนาคารกลางอังกฤษคาดขึ้นดอกเบี้ย 25bps. เป็น 4.25% ตัวเลข Eurozone consumer confidence flash เดือน มี.ค. คาด -18.3 จุด (ดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ -19 จุด) ตัวเลข Initial Jobless Claim รายสัปดาห์ของสหรัฐฯ ตัวเลข New home sales ของสหรัฐฯ เดือน ก.พ. คาด 0.64mn (-4.5% MoM)
- วันศุกร์ ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อของญี่ปุ่นเดือน ก.พ. คาด 3.3% YoY (ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 4.3% YoY) ตัวเลขเงินเฟ้อพื้นฐานของญี่ปุ่นเดือน ก.พ. คาด 3.1% YoY (ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 4.2% YoY) ตัวเลข Gfk Consumer Confidence ของอังกฤษ เดือน มี.ค. คาด -36 จุด (ดีขึ้นจาก -38 จุด เดือนก่อนหน้า) ตัวเลข Jibun Manufacturing PMI ของญี่ปุ่น เดือน มี.ค. คาด 48.8 จุด (+2.3% MoM) ตัวเลข Jibun Service PMI ของญี่ปุ่น เดือน มี.ค. คาด 52 จุด (-3.7% MoM) ตัวเลข Retail sales ของอังกฤษ เดือน ก.พ. คาด +1.2% MoM ตัวเลข S&P Global Manufacturing PMI ของเยอรมัน เดือน มี.ค. คาด 47 จุด (+1.5% MoM) ตัวเลข S&P Global Service PMI ของเยอรมัน เดือน มี.ค. คาด 51.2 จุด (+0.6% MoM) ตัวเลข S&P Global Manufacturing PMI ของยุโรป เดือน มี.ค. คาด 49 จุด (+1.0% MoM) ตัวเลข S&P Global Service PMI ของยุโรป เดือน มี.ค. คาด 52.5 จุด (flat MoM) ตัวเลข S&P Global Service PMI ของสหรัฐฯ เดือน มี.ค. คาด 47.3 จุด (flat MoM) ตัวเลข S&P Global Manufacturing PMI ของยุโรป เดือน มี.ค. คาด 50.3 จุด (flat MoM) และตัวเลข Durable Goods orders ของสหรัฐฯ เดือน ก.พ. คาด +1.7% MoM