บล.บัวหลวง:
Utilities – กลุ่มโรงไฟฟ้า SPP ยังยิ้มได้อยู่ แม้ค่าไฟลดลง (OVERWEIGHT)
ผลประกอบการไตรมาส 4/65 ที่อ่อนแอ และโอกาสในการหั่นค่าไฟ ในช่วงเดือน พ.ค. – ส.ค. สร้างจิตวิทยาเชิงลบต่อกลุ่มโรงไฟฟ้า SPP แต่เราเชื่อว่านี่คือโอกาสในการเข้าซื้อ BGRIM GPSC และ WHAUP ในราคาถูก เพื่อลุ้นกำไรหลักไตรมาส 1/66-2/66 ที่จะ ออกมาแข็งแกร่ง
กกพ.จะปรับลดอัตราค่าไฟ แต่…
ราคาก๊าซก้าลังปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง กกพ. จึงเริ่มพิจารณาการปรับลดภาระต้นทุนค่าก๊าซของ กฟผ. โดย กกพ. ได้ศึกษา 3 ทางเลือกสำาหรับอัตราค่าไฟในเดือน พ.ค. – ส.ค. 1) อัตราค่าไฟเฉลี่ยที่ 6.72 บาท/หน่วย ซึ่งจะปลดภาระของ กฟผ. ได้ภายใน 4 เดือน 2) อัตราค่าไฟเฉลี่ยที่ 4.84 บาท/ หน่วย ซึ่งจะปลดภาระของ กฟผ. ได้ภายใน 20 เดือน และ 3) อัตราค่าไฟเฉลี่ย ที่ 4.77 บาท/หน่วย ซึ่งจะปลดภาระของ กฟผ. ได้ภายใน 24 เดือน
ทั้งนี้เราคาดการณ์เชิงอนุรักษ์นิยมว่า กกพ. จะปรับลดอัตราค่าไฟสำหรับกลุ่มที่ไม่ใช่ครัวเรือนในช่วงเดือน พ.ค. – ส.ค. ลงมาอยู่ที่ 4.77 บาท/หน่วย (อิงตามทางเลือกที่ 3 หรือทางเลือกของ กกพ. ที่ค่าไฟถูกที่สุด) จากเดิม 5.33 บาท/หน่วย (อัตราสําหรับผู้ใช้ไฟฟ้าที่ไม่ใช่ภาคครัวเรือน) ในเดือน ม.ค. – เม.ย. ซึ่งถือว่าต่ำกว่าที่เราคาดว่าอัตราค่าไฟช่วงเดือน พ.ค. – ส.ค. จะอยู่ที่ 5.52 บาท/หน่วย ดังนั้นเราจึงปรับลดประมาณการอัตราค่าไฟเฉลี่ย ปี 2566 ลงจาก 5.30 บาท/หน่วย มาอยู่ที่ 4.88 บาท/หน่วย ซึ่งส่งผลให้เราต้องปรับลดประมาณการกำไรหลักปี 2566 ของ GUNKUL ลง 5% มาอยู่ที่ 2,052 ล้านบาท (เติบโต 35% YoY) เนื่องจากเราคาดอัตราค่าไฟที่ลดลงของกลุ่มโรงไฟฟ้า VSPP
…เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2566 ของกลุ่มโรงไฟฟ้า SPP
แม้จะต้องนำเข้า LNG จำนวนมากในช่วงปี 2566-67 (35-51% ของสัดส่วนก๊าซ) แต่ราคา LNG กำลังปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้แนวโน้มราคาก๊าซเป็นขาลง ทั้งนี้ PTT ได้ปรับลดคาดการณ์ราคาก๊าซเฉลี่ยปี 2566 ลงจาก 569 บาท/ล้าน btu (คาดการสําหรับค่า Ft ช่วง เดือน ม.ค. – เม.ย.) มาอยู่ที่ 405 บาท/ล้าน btu (คาดการณ์สําหรับค่า Ft ช่วงเดือน พ.ค. – ส.ค.)
แนวโน้มราคาก๊าซบ่งชี้ว่าต้นทุนการผลิตไฟฟ้าของ กฟผ. ในช่วงเดือน พ.ค. – ส.ค. ที่จะลดลงราว 0.78 บาท/หน่วย เมื่อเทียบกับช่วงเดือน ม.ค. – เม.ย. ซึ่งลดลงเร็วกว่าอัตราค่าไฟฟ้าที่เราคาดการณ์ไว้อย่างมาก (อัตราค่าไฟ กลุ่มที่ไม่ใช่ภาคครัวเรือนจะลดลงเพียง 0.56 บาท/หน่วย ในช่วงเวลาดังกล่าว) ดังนั้นแม้อัตราค่าไฟจะลดลง แต่เรา ได้ปรับประมาณการกำไรหลักปี 2566 ขึ้นสําหรับ BGRIM (14%) GPSC (21%) GULF (1%) และ WHAUP (12%)
การวิเคราะห์ความอ่อนไหว
กกพ.อาจจะปรับลดอัตราค่าไฟมากกว่าที่เราคาด แต่หาก PTT ไม่ปรับลดประมาณการราคาก๊าซลงไปมากกว่านี้ เราไม่คิดว่า กกพ. จะปรับลดอัตราค่าไฟช่วงเดือน พ.ค. – ส.ค. ไปมากกว่า 0.91 บาท/หน่วย (หรืออัตราค่าไฟใหม่ที่ 4.42 บาท/หน่วย ซึ่งสะท้อนต้นทุนการผลิตของ กฟผ. แต่ไม่ช่วยลดภาระที่มีอยู่) เพราะเราไม่คิดว่า กฟผ. จะสามารถรับภาระหนี้สินจำนวนมากได้ในระยะยาว ทั้งนี้หากอัตราค่าไฟจะลดลงมากกว่า 0.91 บาท/ หน่วย จะต้องมีปัจจัยร่วมได้แก่ 1) จะต้องมีการปรับขึ้นค่าไฟในภายหลัง หรือ 2) ต้นทุนก๊าซต้องลดลงอย่างมาก (จนกว่าภาระหนี้สินของกฟผ.จะได้รับการชำาระ) ทั้งนี้เราได้ทำการวิเคราะห์ความอ่อนไหวสําหรับประมาณการกำไรปี 2566 แล้ว