มองตลาดเริ่มพักฐาน หลังปรับขึ้นแรงก่อนหน้านี้ / กรอบ SET INDEX 1585-1600
Market Outlook
เมื่อคืนที่ผ่านมาอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 2 และ 10 ปียังคงปรับลงต่อเนื่อง สะท้อนถึงมุมมองของตลาดที่เชื่อว่าท้ายที่สุดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะเริ่มเห็นการลดลง เนื่องจากประธาน Fed ได้ส่งสัญญาณแล้วว่าดอกเบี้ยใกล้เข้าจุดสูงสุดแต่ยังปิดโอกาสลดดอกเบี้ยในปีนี้ ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ เมื่อคืนออกมาในทิศทางบวกเล็กน้อยต่อภาวะเศรษฐกิจ โดยเฉพาะผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่ 1.91 แสนราย ต่ำกว่านักวิเคราะห์ประเมินไว้ที่ 1.98 แสนราย อย่างไรก็ตาม รายงานยอดขายบ้านใหม่ที่ 6.4 แสนหลังคาเรือน ต่ำกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ 6.5 แสนหลังคาเรือน ด้านความเห็นล่าสุดของ CME Fed Watch ระบุว่าในการประชุมครั้งถัดไป ในเดือนพ.ค. ให้น้ำหนัก 66% ที่จะคงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิม และอีก 34.2% ให้น้ำหนักขึ้นดอกเบี้ยเพียง 0.25% ระยะสั้นเชื่อว่าตลาดจะมีประเด็นบวกหนุนการฟื้นตัวเกี่ยวกับทิศทางดอกเบี้ยที่ดูผ่อนคลายมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ระยะกลางสถิติชี้ชัดว่าการปรับลงของดอกเบี้ยมากตามมาด้วยการปรับฐานของตลาดหุ้น เนื่องจากทิศทางเศรษฐกิจที่เริ่มมีปัญหา ทั้งนี้อุตสาหกรรมที่ Outperform ในช่วงดอกเบี้ยปรับลง ได้แก่ กลุ่มโรงไฟฟ้า (BGRIM, GPSC, GULF, RATCH) หุ้นกลุ่มปันผลสูง (ADVANC, INTUCH, TISCO) ส่วนในประเทศยังไม่มีปัจจัยใดๆใหม่ นักลงทุนรอดูตัวเลขการค้าระหว่างประเทศ รวมถึงประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ที่จะรายงานในสัปดาห์หน้า คืนนี้ติดตาม PMI ของทวีปยุโรป และตัวเลขค่าสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐฯ Bloomberg คาดไว้ที่ 0.4% MoM วันนี้ประเมิน SET INDEX แกว่งออกข้างในกรอบ 1585-1600 เชื่อว่าตลาดจะเริ่มพักฐานบ้างหลังปรับขึ้นมาแล้วกว่า 4.9% ในช่วง 8 วันทำการที่ผ่านมา
เชิงกลยุทธ์การลงทุน การ Trading ยังเลือกกลุ่มโรงไฟฟ้า (BGRIM, GPSC, GULF, RATCH) กลุ่มเทคโนโลยีในประเทศไทย (HANA, KCE) ปัจจัยบวก US Bond Yield ปรับลง ขณะที่เมื่อคืน Sector ที่ Outperform ของ S&P500 ได้แก่ Tech (+1.65%) อื่นๆ ยังแนะ Domestic Play อาทิ กลุ่มค้าปลีก (BJC, CPALL, HMPRO) กลุ่มธนาคาร (BBL, KBANK, SCB, TTB, TISCO) กลุ่มท่องเที่ยว (AOT, CENTEL, ERW, MINT, SPA, SHR) ศูนย์การค้า (CPN)
หุ้นแนะนําซื้อวันนี้
CPN ราคาพื้นฐาน 83.00 บาท
ในแง่การดำเนินงาน CPN ได้รับผลดีจากมาตรการเปิดประเทศของจีนที่ทําให้จํานวนนักท่องเที่ยวฟื้นตัวได้อย่างมาก โดยปี 2023 เราประเมินรายได้อยู่ที่ 40,917 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 12,855 ล้านบาท ซึ่งเป็นระดับที่สูงกว่าปี 19 แล้ว
AH ราคาพื้นฐาน 50.00 บาท
ปี 2023 เราประเมินว่ารายได้จะยังเห็นการเติบโตได้ต่อเนื่อง ทั้งจากคําสั่งชื้อใหม่ที่พูดในช่วงต้น รวมถึงอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ที่ยังคงมีการเติบโตทั้งที่ไทย (+4% YoY) ยุโรป (+5% YoY) และจีน (+3% YoY) โดยตัวเลขของยุโรปและจีน เราอ้างอิงจากที่ AH แจ้ง โดยเราคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 9% YoY มาอยู่ที่ 30,417 ล้านบาท
Pi Technical Daily
