Daily Focus: Maintain Domestic Play
2023SET Target: 1750
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index แกว่งตัวในกรอบแคบ โดยระหว่างวันมีจังหวะปรับขึ้นทดสอบระดับ 1,600 จุด แต่ไม่สามารถผ่านได้ ก่อนจะมีแรงขายออกมากดดันให้ดัชนีปิดลบเล็กน้อย 1.8 จุด ณ สิ้นวัน มูลค่าการซื้อขายบางลงเหลือ 4.5 หมื่นลบ. สถาบันในประเทศยังซื้อสุทธิในตลาดหุ้นต่อเนื่องอีก 774 ลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติพลิกมาขายสุทธิ 480 ลบ. (สถานะของ Index Futures รายกลุ่มไม่มีนัยยะนัก)
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index แกว่งตัว Sideways ในกรอบ 1,580-1,600 จุด โดยรวมตลาดยังขาดปัจจัยใหม่ หลังจากฟื้นตัวดีในช่วงกว่าสัปดาห์ที่ผ่านมา จากความกังวลปัญหาภาคธนาคารในสหรัฐฯ และยุโรปที่มีทิศทางดีขึ้น อย่างไรก็ตาม โฟกัสของตลาดเริ่มหันไปจับตาการชะลอตัวของเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มเกิดขึ้น โดยเฉพาะใน 2H23 และอาจทำให้ธนาคารกลางโดยเฉพาะ FED ต้องกลับมาปรับลดดอกเบี้ย ส่งผลให้ Bond Yield ในระยะหลังปรับตัวลง ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญสัปดาห์นี้ คือ เงินเฟ้อ PCE เดือน ก.พ. ของสหรัฐฯ หากยังไม่เห็นการชะลอตัวชัดเจน คาดว่ายังเป็นปัจจัยกดดันสินทรัพย์เสี่ยง และทำให้การดำเนินนโยบายของ FED ยังยากอย่างต่อเนื่องและอาจทำให้ความกังวลต่อสภาพคล่องของกลุ่มธนาคารยังคงอยู่ ส่วนในประเทศสัปดาห์นี้ให้ติดตามการประชุม กนง.วันพุธ โดยเฉพาะการปรับประมาณการเศรษฐกิจ เรามองจังหวะการพักฐานของดัชนีเข้าหากรอบ 1,500-1,550 จุด ยังเป็นระดับที่น่าสนใจในการทยอยสะสมหุ้นพื้นฐาน ยังคงเน้นหุ้น Domestic/Reopening Play มากกว่า Global Play ได้แก่ ค้าปลีก ท่องเที่ยว การแพทย์ อาหารเครื่องดื่ม โรงไฟฟ้า โดยได้อานิสงส์จากเศรษฐกิจในประเทศที่ทยอยฟื้นตัว รวมถึง Catalyst จากการหากเสียงเลือกตั้ง
กลยุทธ์ : ทยอยสะสมหุ้นเพิ่มในช่วงปรับฐาน ยังเน้นหุ้น Domestic Play
หุ้นเด่นเดือน มี.ค. : ASW, BEYOND, CPN, M, NSL
หุ้นเด่นวันนี้ : NSL
- แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 26 บาท
- แนวโน้มผลการดำเนินงานปี 2023 คาดว่ายังแข็งแกร่งต่อเนื่องจาก 4Q22 ซึ่งในฝั่งรายได้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ตามการบริโภคที่ฟื้นและนักท่องเที่ยวที่กลับมา ขณะที่ Margin คาดยังอยู่ในระดับที่ดีจากการควบคุมต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ
- เรายังคาดกำไรปี 2023 +15% y-y มี Upside จากการ MoU กับ Bake a Wish ซึ่ง NSL จะเข้าไปเป็น Supplier หลักให้ รวมถึงข้าวแท่งหากประสบความสำเร็จมากขึ้นในอนาคต ซึ่งเรายังไม่ได้รวมทั้ง 2 ปัจจัยไว้ในประมาณการ
- แนวรับ 21.50//21 บาท แนวต้าน 22.70//23.50 บาท
Fund Flow : วานนี้กระแสเงินทุนยังไหลเข้าภูมิภาคแต่บางลงเหลือ US$292 ล้าน กระจุกตัวที่ไต้หวัน US$365 ล้าน แต่ไหลออกจากเกาหลีใต้ US$88 ล้าน ส่วนอาเซียนเม็ดเงินไหลเข้าบางๆ เกือบทุกประเทศ ประเทศละ US$4-14 ล้าน แต่ไหลออกจากไทย US$14 ล้าน แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดว่ายังค่อนไปในทิศทางไหลเข้า อย่างไรก็ ตาม คาดยังมีความผันผวนค่อนข้างสูงและต้องคอย Monitor ความเสี่ยงภาคการเงินในสหรัฐฯและยุโรปอย่างต่อเนื่อง
ประเด็นสําคัญวันนี้
(0) สัปดาห์นี้ติดตามการประชุมกนง. เราประเมินว่าคณะกรรมการจะยังมีมติเอกฉันท์ในการปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% สู่ระดับ 1.75% ให้สอดคล้องกับแนวโน้มเศรษฐกิจที่ทยอยฟื้นตัว รวมถึงเงินเฟ้อที่ทยอยปรับตัวลงสู่กรอบเป้าหมายที่ 1-3% ขณะที่ประมาณการเศรษฐกิจต้องจับตาว่าจะมีการปรับลด GDP Growth ลงจากประมาณการล่าสุดที่ +3.7% y-y ตาม NESDC ที่ปรับลงก่อนหน้าสู่ระดับ 2-7-3.7% y-y หรือไม่ โดยเราคาดว่าเครื่องยนต์ที่มีโอกาสถูกปรับลง คือ ส่งออกที่มีแนวโน้มหดตัวแรงกว่าคาด ส่วนปลายสัปดาห์มีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญทั้งเงินเฟ้อยูโรโซนเดือน ก.พ. 2023 ตลาดคาด Headline และ Core ที่ +7.2% y-y และ +5.7 y-y อยู่ในระดับสูงและทำให้ ECB ยังต้องเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย ส่วนสหรัฐฯ จะประกาศเงินเฟ้อ PCE เดือน ก.พ. หากออกมาสูงกว่าคาดหรือยังไม่เห็นสัญญาณชะลอตัวที่ชัด เราคาดว่ายังเป็นปัจจัยกดดันสินทรัพย์เสี่ยงต่อเนื่องจากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของ FED ที่จะยืนในระดับสูงยาวนาน กลุ่มการเงินยังต้องเผชิญแรงกดดันจากความกังวลปัญหาสภาพคล่องต่อเนื่อง
(0) ส่งออกไทยเดือน ก.พ. ตลาดคาด -6.9% y-y เร่งขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ -4.5% y-y ส่วนนำเข้าคาดเพิ่มขึ้น +2.1% y-y ชะลอจากเดือนก่อนหน้าที่ +5.5% y-y หากออกมาตามคาดจะทำให้มีผลขาดดุลการค้า US$1.45 พันล้าน ลดลงจากเดือน ม.ค. ที่ขาดดุล US$4.65 พันล้าน ซึ่งจะช่วยลดแรงกดดันสำหรับการอ่อนค่าของเงินบาท
(+) SISB เป็นผู้นำโรงเรียนนานาชาติในประเทศไทย โดย ณ สิ้นปี 2022 มีจำนวนนักเรียน 3,114 คน ด้วย Utilization Rate 67% เรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2023-2025 จากจำนวนนักเรียนที่เพิ่มขึ้นทั้งสาขาโรงเรียนในปัจจุบัน 4 สาขา รวมถึงการขยาย Campus ที่ 5-6 ในนนทบุรีและระยอง ซึ่งคาดว่าจะเริ่มเปิดให้บริการในเดือน ส.ค. 2023 รวมถึงการขยาย Capacity ใน Campus เดิม โดยทั้งหมดคาดว่าจะเพิ่มความสามารถรองรับนักเรียนเป็น 8,000 คน สูงสุดในประเทศ เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธี 2023-2025 ขึ้น 11-18% โดยคาด +23% CAGR สะท้อนจำนวนนักเรียนและการปรับขึ้นค่าเทอมซึ่งเป็นบวกต่อทั้งรายได้และ Margin พร้อมประเมินราคาเป้าหมายใหม่ที่ 30 บาท คงคำแนะนำ “ซื้อ”
(+) ตลาดดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 132.28 จุด หรือ +0.41% ปิดที่ 32,237.53 จุด หลังเจ้าหน้าที่ FED แสดงความเชื่อมั่นว่าระบบธนาคารสหรัฐไม่ได้เผชิญกับวิกฤตสภาพคล่อง
(-) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดลง นำโดยหุ้นกลุ่มธนาคาร หลังจากความกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพการเงิน หลังจากราคาหุ้นดอยซ์แบงก์ปรับตัวลงจากความกังวลเกี่ยวกับการผิดนัดชำระหนี้
(0) ตลาดหุ้นเอเชีย เปิดผสม โดยตลาดยังถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับภาคธนาคารของสหรัฐและยุโรป
(-) ค่าเงินบาท อ่อนค่า อยู่ที่บริเวณ 34.20 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ลดลง 70 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 69.26 ดอลลาร์/บาร์เรล ถูกกดดันเกี่ยวกับสภาพคล่องของภาคธนาคารของยุโรป หลังจาก Credit Default Swap (CDS) ของดอยซ์แบงก์ปรับสูงขึ้นในรอบ 4 ปี ในขณะที่เช้านี้รีบาวน์ที่ระดับ 69.40 ดอลลาร์/บาร์เรล +0.20%
(+) ราคาทองคำ COMEX ลดลง 11.60 ดอลลาร์ หรือ 0.58% ปิดที่ 2,001.7 ดอลลาร์/ออนซ์ จากการแข็งค่าของเงินดอลล่าร์ ในขณะที่เช้านี้ปรับย่อลงที่ระดับ 1,997.3 ดอลลาร์/ออนซ์ -0.22%
SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 923.97 / -1.45