Daily Focus: Maintain Domestic Play
2023SET Target: 1750
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index แกว่งตัว Sideways ในกรอบแคบ ปิดบวกเล็กน้อย 1.52 จุด ณ สิ้นวัน ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่เบาบางเพียง 3.6 หมื่นลบ. หลังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามากระตุ้น สถาบันในประเทศขายสุทธิในตลาดหุ้นบางๆ 253 ลบ. ขณะที่สถานะของนักลงทุนต่างชาติวานนี้ทรงตัว (สถานะของ Index Futures รายกลุ่มทรงตัวไม่มีนัยยะ)
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index แกว่งตัว Sideways to Sideways Up ในกรอบ 1,585-1,600 จุด บรรยากาศการลงทุนเป็นบวกมากขึ้นเล็กน้อย หลังตลาดทยอยคลายกังวลต่อปัญหาภาคธนาคารในสหรัฐฯ หลัง First Citizens BancShares บรรลุข้อตกลงซื้อ SVB จาก FDIC ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ Brent ฟื้นตัวแรงกว่า 3% สะท้อนปัจจัยบวกดังกล่าว รวมถึงตุรกีที่หยุดสูบน้ำมันผ่านท่อจากภูมิภาค Kurdistan ของอิรักราว 4.5 แสนบาร์เรลต่อวันหรือราว 0.5% ของ Supply ทั่วโลก ทำให้วันนี้กลุ่มธนาคารและพลังงานต้นน้ำคาดว่าจะหนุนตลาด อย่างไรก็ตาม โฟกัสหลักยังคงอยู่ที่ทิศทางเงินเฟ้อในสหรัฐฯ และยุโรป ว่าจะปรับตัวลงได้เร็วมากน้อยเพียงใด รวมถึงอัตราดอกเบี้ยที่ยังอยู่ในระดับสูงที่จะเริ่มส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ โดยเฉพาะใน 2Q23-2H23 ส่วนปัจจัยใน ประเทศให้ติดตามการประชุมกนง.วันพุธ โดยเฉพาะประมาณการเศรษฐกิจและการส่งสัญญาณต่อทิศทางเงินเฟ้อและดอกเบี้ยที่คาดว่าจะใกล้แตะระดับสูงสุดแล้ว เรามองจังหวะการพักฐานของดัชนีเข้าหากรอบ 1,500-1,550 จุด ยังเป็นระดับที่น่าสนใจในการทยอยสะสมหุ้นพื้นฐาน ยังคงเน้นหุ้น Domestic/Reopening Play มากกว่า Global Play ได้แก่ ค้าปลีก ท่องเที่ยว การแพทย์ อาหารเครื่องดื่ม โรงไฟฟ้า โดยได้อานิสงส์จากเศรษฐกิจในประเทศที่ทยอยฟื้นตัวรวมถึง Catalyst จากการหากเสียงเลือกตั้ง
กลยุทธ์ : ทยอยสะสมหุ้นเพิ่มในช่วงปรับฐาน ยังเน้นหุ้น Domestic Play
หุ้นเด่นเดือน มี.ค. : ASW, BEYOND, CPN, M, NSL
หุ้นเด่นวันนี้ : CPALL
- แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายจาก IAA Consensus 74.13 บาท
- แนวโน้มกำไร 1Q23 คาดฟื้นตัว q-q ตาม SSSG ที่ปรับขึ้นทั้ง CPALL และ MAKRO รวมถึงค่าใช้จ่ายด้านพนักงานที่ลดลง q-q ขณะที่ค่าไฟขยับขึ้นจากการปรับขึ้นค่า Ft งวด ม.ค.- เม.ย. 23 ของภาคธุรกิจ
- มี Catalyst หนุนจากการหาเสียงเลือกตั้งที่จะคึกคึกในเดือน เม.ย.-พ.ค. ช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายให้คึกคัก รวมถึงการปรับลดค่า Ft ภาคธุรกิจรอบเดือน พ.ค.-ส.ค. 23 เหลือ 4.77 บาท/หน่วย Consensus คาดกำไรปี 2023 +28% y-y
- แนวรับ 61-60 บาท แนวต้าน 63.50-64//65 บาท
Fund Flow : วานนี้กระแสเงินทุนพลิกมาไหลออกจากภูมิภาค US$261 ล้าน โดยกระจุกตัวที่เกาหลีใต้ US$303 ล้าน แต่เข้าไต้หวันบางๆ US$27 ล้าน ส่วนอาเซียนเม็ดเงินเบาบางแต่ไหลเข้าบางๆ ที่อินโดนีเซียและเวียดนามประเทศละ US$7-8 ล้าน แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดว่ามีโอกาสพลิกมาไหลเข้าหลัง First Citizens BancShares ตกลงเข้าซื้อกิจการ SVB ทำให้ตลาดคลายกังวลต่อปัญหาภาคธนาคารต่อเนื่อง
ประเด็นสำคัญวันนี้
(0) ตลาดยังรอติดตามการประชุมกนง.และตัวเลขส่งออก เราประเมินว่ากนง.จะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% สู่ระดับ 1.75% ให้สอดคล้องกับแนวโน้มเศรษฐกิจที่ทยอยฟื้นตัว รวมถึงเงินเฟ้อที่ทยอยปรับตัวลงสู่กรอบเป้าหมายที่ 1-3% ขณะที่ประมาณการเศรษฐกิจ ต้องจับตาว่าจะคงประมาณการ GDP Growth ปีนี้ที่ +3.7% y-y หรือมีการปรับลง และคาดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกเพียง 1 ครั้งในเดือน พ.ค. สู่ระดับ 2% และเป็นจุดสูงสุดจากเงินเฟ้อไทยที่ไม่กดดันเหมือนต่างประเทศ ส่วนตัวเลขส่งออกไทยเดือน ก.พ. ตลาดคาด 6.9% y-y เร่งขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ -4.5% y-y สะท้อนภาพเศรษฐกิจโลกที่ชะลอ โดยเฉพาะภาคการผลิต ส่วนนำเข้าคาดเพิ่มขึ้น +2.1% y-y ชะลอจากเดือนก่อนหน้าที่ +5.5% y-y จากราคาพลังงานที่ทยอยปรับลงต่อเนื่อง หากออกมาตามคาดจะทำให้มีผลขาดดุลการค้า US$1.45 พันล้าน ลดลงจากเดือน ม.ค. ที่ขาดดุล US$4.65 พันล้าน ประกอบกับดุลบริการที่คาดว่ายังบวกจากภาคท่องเที่ยว ทำให้มีโอกาสกลับมาพลิกเกินดุลบัญชีเดินสะพัดได้อีกครั้ง ซึ่งจะช่วยลดแรงกดดันสำหรับการอ่อนค่าของเงินบาท
(+) กลุ่มธนาคาร คาดได้ Sentiment บวกหลัง First Citizens BancShares ตกลงเข้าซื้อกิจการ SVB ทำให้ตลาดทยอยคลายกังวลต่อปัญหาธนาคารในสหรัฐฯ และยุโรป ที่เกิดขึ้นในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ในแง่ภาพรวมกำไร 1Q23 ของกลุ่มฯ เบื้องต้นคาดฟื้นตัว q-q และทรงตัว y-y ยังไม่โดดเด่นนัก และโฟกัสคาดยังอยู่ที่คุณภาพหนี้เป็นหลัก ยังชอบ BBL KTB TISCO มากที่สุดในกลุ่ม
(+) ORI ตั้งเป้าหมายปี 2023 Aggressive เตรียมเปิดโครงการใหม่ 42 แห่ง มูลค่ารวม 5 หมื่นลบ. เป้า Presales และยอดโอน 4.5 หมื่นลบ. +10% y-y และ 3 หมื่นลบ. (รวม JV และ Owned) จุดแข็งคือมีธุรกิจลูกที่ต่อยอดและมี Synergy ในกลุ่ม ทั้ง BRI PRI รวมถึงแผน IPO One Origin ซึ่งทำธุรกิจโรงแรมและออฟฟิศ เราคาดกำไรปกติปี 2023 ของ ORI จะทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 3.3 พันลบ. +27% y-y ระยะสั้นกำไร 1Q23 คาดชะลอ q-q ตามฤดูกาลแต่ยังโต Y-Y ประเมินราคาเป้าหมาย 13.90 บาท คงคำแนะนำ “ซื้อ”
(+) ตลาดดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 194.55 จุด หรือ +0.60% ปิดที่ 32,432.08 จุด จากข่าวธนาคารเฟิร์สต์ ซิติเซนส์ แบงก์แชร์ส (First Citizens BancShares) ซื้อกิจการธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (SVB) ทำให้ตลาดคลายความกังวลในภาคธนาคาร
(+) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดบวก นักลงทุนเริ่มคลายความกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพของภาคธนาคาร
(+) ตลาดหุ้นเอเชีย ปิดบวก ตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐ
(-) ค่าเงินบาท อ่อนค่า อยู่ที่บริเวณ 34.30 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX เพิ่มขึ้น 3.55 ดอลลาร์ หรือ 5.1% ปิดที่ 72.81 ดอลลาร์/บาร์เรล จากรายงานว่าอิรักระงับการส่งออกน้ำมันบางส่วนจากเขตปกครองตนเองเคอร์ดิสถาน ซึ่งอาจทำให้อุปทานของตลาดน้ำมันโลกดึงตัว ในขณะที่เช้านี้ปรับขึ้นเล็กน้อยที่ระดับ 72.83 ดอลลาร์/บาร์เรล +0.03%
(-) ราคาทองคำ COMEX ลดลง 30 ดอลลาร์ หรือ 1.51% ปิดที่ 1,971.50 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยตลาดถูกกดดันจากการปรับขึ้นของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ในขณะที่เช้านี้รีบาวด์ที่ระดับ 1,978.3 ดอลลาร์/ออนซ์ -0.34%
SPDR Gold Trust ถือครองทองคํา 923.97 /-