Window Dressing สิ้นเดือน มี.ค. มีอยู่จริง / กรอบ SET INDEX 1594-1602
Market Outlook
ภาพรวมยังไร้ปัจจัยใหม่ๆ ที่มีนัยยะสำคัญ แม้จะมีปัจจัยบวกเกี่ยวกับการถูกซื้อกิจการของ SVB แต่ถึงกระนั้นตลาดหุ้น Dow Jones ก็ดูตอบสนองทางบวกเพียงเล็กน้อย ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะว่าก่อนหน้านี้นักลงทุนประเมินไว้แล้วว่าปัญหาของ SVB มิใช่ปัญหาใหญ่ และหน่วยงานภาครัฐของสหรัฐฯ ก็ได้เข้ามาดูแล โดยนักลงทุนอยู่ระหว่างรอปัจจัยใหม่ๆ ซึ่งปัจจัยสำคัญที่ใกล้สุด ได้แก่ เงินเฟ้อสหรัฐฯ ในช่วงกลางเดือนเม.ย. ส่วนระยะสั้นคืนนี้ติดตามความเชื่อมั่นผู้บริโภคในสหรัฐฯ Bloomberg คาดไว้ที่ 101 ดีขึ้นจากเดือนก่อนที่ 102.9
สำหรับประเทศไทย ในช่วงท้ายไตรมาส 1 ของทุกๆ ปีนักลงทุนจะมักให้ความสนใจกับ Window Dressing หรือเป็นความเชื่อที่ว่านักลงทุนสถาบัน จะทําการเข้าซื้อหุ้นที่ยังปรับขึ้นน้อยเพื่อให้ Portfolio ของการลงทุนปิดไตรมาสได้อย่างสวยงาม สถิติย้อนหลังของสัปดาห์สุดท้ายเดือนมี.ค. ในรอบ 13 ปี (2010-2022) พบว่าใน 10 ปี ให้ผลตอบแทนเป็นบวกขณะที่อีก 3 ปีให้ผลตอบแทนติดลบ ดังนั้นโอกาสหรือความน่าจะเป็นที่ดัชนีให้ผลตอบแทนเป็นบวกในสัปดาห์สุดท้ายสูงถึง 76% สำหรับ MTD หุ้นใน SET100 ที่ยัง Laggard หรือปรับขึ้นน้อย ได้แก่ ONEE, PLANB, MEGA, TU, BEM, CK, KTB, KKP, KBANK, CPN โดยเป็นการเรียงจาก Laggard มากสุดไปยัง Laggard น้อยสุด หรือมองชุดหุ้นดังกล่าวเป็นชุดหุ้นที่น่าสนใจสําหรับ Trading ระยะสั้นๆ ส่วนสถิติ SET INDEX เดือนเม.ย.ย้อนหลังตั้งแต่ปี 2010 พบว่า 9 ปีเดือนเม.ย.ให้ผลตอบแทนเป็นบวก และอีก 4 ปีให้ผลตอบแทนติดลบ ถือเป็นสถิติที่น่าสนใจที่ตลาดหุ้นเดือนหน้ามีโอกาสที่ยังสดใสต่อเนื่อง วันนี้ประเมิน SET INDEX ปรับตัวขึ้นกรอบ 1594–1602 เชื่อว่าจะได้แรงหนุนจากกลุ่มน้ำมัน ขณะที่เช้านี้ตลาดหุ้นหุ้นญี่ปุ่น (Nikkei) ก็อยู่ในแดนบวก (+0.3%)
เชิงกลยุทธ์การลงทุน SET INDEX ปรับขึ้นมาแล้วกว่า 4.9% จากจุดต่ำสุด ถือว่าสะท้อนปัจจัยบวกจากการผ่อนคลายธนาคารต่างๆ ไประดับหนึ่ง แต่ยังพอคาดหวัง Upside ได้อีกเล็กน้อย ปัจจัยบวกจากผ่อนคลายดอกเบี้ยธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) จึงยังแนะ Trading แนะพลังงาน (PTTEP) รวมถึง Domestic Play อาทิ กลุ่มค้าปลีก (BJC, CRC, CPALL, HMPRO) กลุ่มธนาคาร (BBL, KBANK, SCB, TTB, TISCO) กลุ่มท่องเที่ยว (AOT, CENTEL, ERW, MINT, SHR, SPA) ศูนย์การค้า (CPN) ร้านอาหาร (M) โรงภาพยนตร์ (MAJOR)
หุ้นแนะนําซื้อวันนี้
PTTEP ราคาพื้นฐาน 175.00 บาท
คาดกำไรสุทธิไตรมาส 1/23 ยังแข็งแกร่ง ด้วยการเติบโต QoQ จากการขาดหายไปของขาดทุนพิเศษครั้งเดียว แต่กำไรปกติจะอ่อนตัว QoQ เพราะปริมาณขายที่ลดลง (-6% QoQ อิงแนวทางผู้บริหารที่ 472kboed สำหรับไตรมาส 1/23) ด้วยคาดการณ์ว่าอุปสงค์และอุปทานน้ำมันดิบโลกที่ไร้สมดุล ในปี 2023 ผู้บริหารจึงให้แนวทางราคาน้ำมันดิบดูไบในกรอบ US$75-90/บาร์เรล (เฉลี่ย US$96.4/บาร์เรลในปี 2022)
KBANK ราคาพื้นฐาน 170.00 บาท
เล็งเห็นโอกาสที่ค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญจะลดลง หลังการระบายงบดุลสิ้นสุดลงในปี 2023 คาดค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญจะค่อยๆ ลดลงเป็น 200/180/160bps ในปี 2023-25 ตามลำดับ เราจึงคงมองว่ากําไรสุทธิของ KBANK จะพลิกเป็นบวกระดับ 16% ในปี 2023
Pi Technical Daily