อีกไกลแค่ไหนจนกว่าฉันจะใกล้บอกที / 1,600-1,620

มุมมองตลาดหุ้นวันนี้

  • คาด SET แกว่งตัว Sideways to sideways up : ตลาดได้รับ Sentiment ทางบวกจากตลาดฝั่งสหรัฐฯ และยุโรป ตามการเปิดเผยแนวโน้มผลประกอบการที่สดใสของไมครอน เทคโนโลยี และอินฟินิออน ตามลำดับ ซึ่งช่วยให้นลท.คลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาพทางศก. ด้านปัจจัยในประเทศคาดเป็นแรงหนุนต่อตลาดเช่นกัน จากภาพรวมศก.ไทยที่ยังมีแรงส่งดี หลังกนง.เผย ศก.ไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้นในช่วง 2H66 จากการท่องเที่ยวที่ขยายตัวดี ซึ่งจะทำให้มีการใช้จ่ายและการบริโภคในประเทศเพิ่มมากขึ้น โดยกนง.ได้ปรับเพิ่มประมาณการการบริโภคภาคเอกชนปี 66 จากเดิม 3.4% สู่ 4.0% และจํานวนนทท.ต่างชาติจากเดิม 22 ล้านคนสู่ 28 ล้านคนสอดรับกับสทท.ที่มั่นใจว่าในปีนี้จะมีเข้าไทยมาไม่ต่ำกว่า 30 ล้านคน ส่งผลให้กลุ่ม Domestic play อย่าง Spending และท่องเที่ยวยังคงอยู่ในทิศทางของการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ในทางกลับกับภาพการฟื้นตัวของอุปสงค์จะเป็นอีกแรงส่งให้เงินเฟ้อมีโอกาสปรับเพิ่มขึ้นได้ ทั้งนี้กนง.ยังไม่ได้ส่งสัญญาณว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะยุติลงเมื่อไหร่ หลังวานนี้มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% จาก 1.50% สู่ระดับ 1.75% อย่างไรก็ตาม คาดตลาดถูกจำกัดทางขึ้นด้วยความกังวลความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ และการซื้อขายที่เบาบาง วันนี้ติดตามการรายงานตัวเลขการค้าของไทยเดือนก.พ.ของตลาด คาดส่งออกหดตัว 7.0% y-y จากหดตัว 4.5% y-y ในเดือนม.ค. และนำเข้าขยายตัว 2.0% y-y ชะลอตัวลงจาก 5.5% y-y ใน เดือนม.ค. คาดเป็น Sentiment ทางลบต่อตลาด นอกจากนี้ติดตามการรายงาน GDP4Q65 ครั้งที่ 3 ของสหรัฐฯ ในคืนนี้
  • กลยุทธ์ลงทุน: 1) Spending+ท่องเที่ยว: BCP, BH, CPN, MAKRO, PTG, SINGER, SPA 2) Window Dressing: BEM, CPALL, GPSC, HMPRO, KBANK, KTC, SCGP และ 4) อากาศร้อน+วิกฤต PM2.5: AU, BCH, BGRIM, GULF

ปัจจัยบวก

  • ททท.ร่วมกับสทท.และมทร.ศรีวิชัยเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวใน 1Q66 ที่ 74 สะท้อนการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง โดยผู้ประกอบการคาดว่าใน 2Q66 สถานการณ์ท่องเที่ยวจะดีกว่า 1Q66 เล็กน้อย โดยค่าดัชนีคาดการณ์สถานการณ์ท่องเที่ยว 2Q66 อยู่ที่ระดับ 77
  • EIA เผยสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ลดลง 7.5 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางตลาดที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.1 ล้านบาร์เรล
  • ติดตามพิจารณาคดี BTSC ฟ้องบอร์ด รฟม. ยกเลิกประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม หากศาลปกครองสูงสุดมีความเห็นยกฟ้อง จะเป็นผลบวกต่อ BEM และ CK และราคาทั้งสองหุ้นปรับลงมามาก หากผลเป็นการยืนตามศาลชั้นต้นจะไม่เป็นผลลบมากนัก

ปัจจัยลบ

  • สศอ.เผย MPI เดือนก.พ.อยู่ที่ระดับ 98.89 หดตัว 2.71% y-y จากปัจจัยสําคัญคืออุปสงค์จากต่างประเทศที่อ่อนแอลงจากสภาวะศก.ยังคงเปราะบาง โดยเฉพาะเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า เช่น สหรัฐฯ และยุโรป ซึ่งส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทย
  • จีนเดือนสหรัฐฯ และปธน.ไต้หวันว่า การพบปะใดๆ ระหว่างไช่ อิงเหวิน กับเควิน แมคคาร์ธี จะถือเป็นการยั่วยุที่ร้ายแรง ชิ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวของจีนเป็นการเพิ่มแรงกดดันต่อการเดินทางไปสหรัฐฯ ของปธน.ไต้หวัน
  • NRF เผยยอดค้าปลีกในสหรัฐฯมีแนวโน้มชะลอตัวในปีนี้ คาดขยายตัว 4-6% ชะลอลงจากการขยายตัว 7% ในปีที่แล้ว โดยความกังวลเกี่ยวกับภาวะ ศก.ถดถอย และความวิตกต่อวิกฤตในภาคธนาคาร ได้ส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภค

PICKS OF THE DAY

SINGER BUY

  • เป้าหมาย 19.60/20.10 แนวรับ 18.30/18.50
  • อากาศร้อน และ PM 2.5 หนุนการเพิ่มขึ้นของมาร์จิ้น: ประเทศไทยมีอากาศร้อนจัดในช่วงนี้ จะทำให้สินค้าประเภทตู้แช่ เครื่องปรับอากาศขายดี รวมไปถึงปัญหาฝุ่น PM 2.5 ที่สูงใน ช่วงนี้จะทำให้เครื่องฟอกอากาศขายดีด้วย ซึ่งสินค้าประเภทนี้เป็นสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูง ซึ่งจะส่งผลดีต่อผลประกอบการของบริษัท
  • ราคาปรับลงมามาก: SINGER ในขณะนี้ซื้อขายกันที่ P/E Ratio เพียง 15.82 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 1 ปีที่ 37.97 เท่าค่อนข้างมาก

PTG BUY

  • เป้าหมาย 14.80/15.20 แนวรับ 13.90/14.10
  • ค่าการตลาดกลับสู่ภาวะปกติ: การปรับค่าการกลับสู่ภาวะปกติจะส่งผลให้ค่าการตลาดของน้ำมันดีเซลปรับเพิ่มขึ้นราว 0.4-0.6 บาท/ลิตร ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อ PTG อย่างมีนัย เนื่องจาก PTG มีสัดส่วนการขายน้ำมันดีเซลสูงถึง 70% ของปริมาณการขายน้ำมันทั้งหมด
  • รับอานิสงส์จากการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว: ปริมาณการขายน้ำมันของบริษัทมีแนวโน้มเติบโตตามการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว โดย PTG ตั้งเป้าการเติบโตของปริมาณการขายในปี 2566 ไว้ที่ 8-12% และการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวยังส่งผลดีต่อปริมาณการขายของธุรกิจ Non-oil ซึ่งเป็นกลุยทธ์การเติบโตหลักของ PTG ในปี 2566
- Advertisement -