TACC จ่อปิดดีล รับก้าวสู่ทศวรรษที่ 3 หนุนผลงานปี 66 โต 10% ตามนัด มั่นใจเป็น Next S Curve ผลักดันธุรกิจติดปีก
TACC มีลุ้นข่าวดี! รับก้าวสู่ทศวรรษที่ 3 นี้ หนุนผลงานปี 66 โต 10% ตามแผน ฟากผู้บริหาร “ชัชชวี วัฒนสุข” มั่นใจเป็น Next S Curve ผลักดันธุรกิจโตอย่างมั่นคงในอนาคต พร้อมรุกขยายช่องทางขายผ่าน Online เพิ่ม Product Portfolio แจกปันผลปี 65 เป็นเงินสดในอัตรา 0.19 บาท/หุ้น ขึ้น XD วันที่ 8 พ.ค.66 นี้
นายชัชชวี วัฒนสุข ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ที.เอ.ซี.คอนซูเมอร์ (TACC) เปิดเผยว่า ตลอดช่วงเวลานับตั้งแต่บริษัทฯเข้าระดมทุนและจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ตั้งแต่ปี 2558 บริษัทฯพยายามมองหาโอกาสในการขยายธุรกิจ เพื่อสร้าง Next S Curve ขับเคลื่อนธุรกิจในช่วง 5-10 ปีข้างหน้าเติบโตอย่างมั่นคง นอกเหนือจากธุรกิจเครื่องดื่ม โดยในช่วงที่ผ่านมาบริษัทฯได้รุกเข้าสู่ธุรกิจ Health & Wellness ผ่านสินค้าเครื่องดื่มของบริษัท เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับผู้บริโภค
“ภายในไตรมาส 2/66 คาดว่าจะได้ข้อสรุปเกี่ยวกับดีล ในการขยายการลงทุนเข้าสู่ธุรกิจ Health & Wellness ซึ่งมั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค และเตรียมรับรู้รายได้เข้ามาทันทีในไตรมาส 2/66 สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น ผลักดันธุรกิจในอนาคตเติบโตอย่างมั่นคงสอดรับเมกระเทรนด์”
สำหรับแผนการดำเนินงานในปีนี้ ซึ่งถือเป็น “ปีแห่งการลงทุนสู่ทศวรรษใหม่” (Invest for the next decade) และปีเป็นแห่งความภาคภูมิใจที่บริษัทฯครบรอบ 21 ปี หรือก้าวสู่ทศวรรษที่ 3 พร้อมขับเคลื่อนธุรกิจสู่อนาคต โดยบริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้เติบโต 10% จากปีก่อน
ทั้งนี้ ในส่วนของกลุ่มธุรกิจ B2B (7-Eleven) บริษัทยังคงมุ่งมั่นพัฒนาสินค้า Core Menu และ New Menu รวมทั้งออกสินค้าใหม่ร่วมกันในฐานะ Key Strategic Partner ไม่ว่าเป็นเครื่องดื่มเย็นในโถกด
(Jet Spray) และ เครื่องดื่ม Non Coffee Menu ใน All Cafe ทั้งในประเทศไทย และ 7-Eleven ในประเทศกัมพูชา
สำหรับกลุ่มธุรกิจ B2C (Non 7-Eleven) บริษัทฯ พร้อมเดินหน้าขยาย Brand TRIVA (ทรีว่า) ไซรัปผลไม้เข้มข้นจากธรรมชาติ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อตอบสนองความต้องการ และสร้างความแตกต่างให้กับผู้ประกอบการ ร้านค้า คาเฟ่ (Total solution service offering) และสำหรับลูกค้าทั่วไป โดยเป็นสินค้าที่ต่อยอดการเจริญเติบโตของ TACC ในกลุ่มB2C
ส่วนธุรกิจ License Business บริษัทฯมีเป้าหมายที่จะเป็น One-Stop-Service และขยายตลาดไปยังประเทศ สิงคโปร์ มาเลเซีย เวียดนาม ในกลุ่มเอเซียตะวันออกเฉียงใต้
อีกทั้ง TACC ยังเตรียมขยายช่องทาง Online เพื่อขยาย Product Portfolio ทั้งในส่วนของการขายในประเทศ และต่างประเทศ โดยการเพิ่มยอดขายจากลูกค้ารายเดิม การเสนอสินค้าใหม่ๆ และพัฒนาสินค้าร่วมกัน
อนึ่ง ผลประกอบการปี 65 บริษัทฯมีรายได้รวม 1,536.37 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.56% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,352.91 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 236.52 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.69% จากปีก่อนหน้าที่มีกำไรสุทธิ 215.62 ล้านบาท โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯมีมติอนุมัติจ่ายปันผลเป็นเงินสด 0.19 บาท/หุ้น กำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 8 พฤษภาคม 2566