ASL ANALYSIS GUIDE
ประเด็นการลงทุน
วันนี้เคาะ ORI ORI ได้รับ Sentiment เชิงบวก จากเราคาดว่ากนง.จะยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อเจะชะลอตัวลงเข้าใกล้กรอบเป้าหมายของ ธปท. ส่งผลให้ภาพต้นทุนทางการเงินจะปรับตัวลง ขณะที่ในเชิง Valuation ความน่าสนใจ จากราคาปัจจุบันถูกซื้อขายบน PE เพียง 7.7 เท่าเทียบกับค่าเฉลี่ยที่ 8.9 เท่า ขณะที่คาดหวัง Div. yield ที่สูงกว่า 3.7 % ประเมินว่าจะประกาศจ่ายปันผลงวด 2H65 ช่วง เม.ย. ราว 0.45-0.50 บาท/หุ้น
MARKET STRATEGY
สรุปตลาดวานนี้
SETI ปิดที่ 1,605.42 จุด ลดลง 5.10 จุด (-0.32%) มูลค่าการซื้อขาย 50,910.02 ล้านบาท มีแรงกดดันจากทิศทางเศรษฐกิจไทยอาจถูกปรับประมาณการณ์ลง หลังวานนี้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ลดคาดการณ์ GDP ไทยลงเล็กน้อย และวันนี้ตัวเลขส่งออกยังออกมาหดตัวต่อเนื่อง
Research Highlight: แนวโน้ม Fund flow ไหลเข้าหุ้นไทย
1. ติดตามตัวเลข PCE ก.พ. สหรัฐ
- ตลาดให้น้ำหนักกับตัวเลข PCE ที่เฟลให้ความสำคัญ โดยตลาดคาดว่าจะขยายตัว +4.7%YoY และ 0.4%MoM ซึ่งชะลอตัวจากเดือนก่อน หากออกมาตามคาด จะเป็นปัจจัยหนุนให้เฟดมีแนวโน้มการใช้นโยบายเชิง Dovish มากขึ้น
- ล่าสุดจาก Fed Watch Tool นักลงทุนยังให้น้ำหนักที่ใกล้เคียงกันว่าในการประชุม FOMC รอบ พ.ค. เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ย 50.8% ขณะที่อีก 49.2% ประเมินว่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยช 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25%
- ในเชิง Sentiment มองว่า Terminal rate ของไทยต่ำกว่า AM อยู่มาก ทำให้ความเสี่ยงที่เศรษฐกิจในประเทศจะชะลอตัวน้อยกว่ากลุ่มประเทศ AM รวมถึง US bond yield ที่คาดว่าจะผ่านจุดพีคไปล้ว และ Dollar index ที่เริ่มอ่อนค่าเข้าใกล้ระดับ 102 จุด เป็นโมเมนตัมบวกต่อ Fund flow ที่จะไหลเข้าตลาดหุ้นไทย โดยเฉพาะกลุ่มที่ยัง laggard ตลาดอย่างกลุ่ม ธนาคาร การเงิน โรงไฟฟ้า
2. ธปท. รายงานภาวะ เศรษฐกิจประจําเดือน ก.พ. และดุลบัญชีเดินสะพัด
- โดยยอดส่งออก ก.พ. หนูตัว 4.7%YoY ดีกว่าที่ตลาดคาด ซึ่งเดือนก่อนหดตัว 4.5%YoY ขณะที่ยอดนำเข้าเพิ่มขึ้นเพียง 1.1%YoY น้อยกว่าที่คาด และชะลอตัวจากเดือนก่อนที่ +5.5%YoY ส่งผลให้ดุลการค้าขาดดุลลดลงเหลือ 1.1 พันล้านเหรียญดอลลาร์ ดีกว่าที่คาดอย่างมาก และลดลงอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับเดือนก่อนที่ขาดดุลไป 4.65 พันล้านเหรียญดอลลาร์ ส่วนด้านดุลการบริการยังเกินดุลอยู่จากตัวเลขนักท่องเที่ยวที่ยังทรงตัวสูงต่อเนื่องตั้งแต่ YTD
- เราจึงประเมินว่าแนวโน้มการรายงานดุลบัญชีเดินสะพัดจะปรับตัวดีขึ้นจากที่ขาดดุล 2 พันล้านเหรียญ ตามการขาดดุลการค้าที่ลดลงรวมกับภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว ขณะที่ภาพแนวโน้มเศรษฐกิจในเดือน ก.พ. เชื่อว่ายังคงมีทิศทางที่ฟื้นตัว รวมถึง 6 Sentiment เชิงบวกจากการเลือกตั้งหนุนให้ Fund flow ยังไหลเข้า ซึ่งสอดคล้องกับค่าเงินบาทที่แข็งค่ามาที่ระดับ 34 บาท/ดอลลาร์ +/-
- ในเชิงกลยุทธ์เราของ กลุ่มธนาคาร (แนวโน้มศก.ฟื้นตัว) การเงิน (ต้นทุนทางการเงินคาดว่าผ่านจุดพีคไปแล้ว ) ท่องเที่ยว (ธปท.ปรับประมาณการขึ้น) และค้าปลีก (แนวโน้ม SSSG เพิ่มขึ้น)
Upcoming events
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ
- 3 เม.ย. PMI ภาคการผลิตของไทย จีน สหรัฐ
- 5 เม.ย. ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชน สหรัฐ มี.ค.) // PMI ภาคบริการ สหรัฐ จาก ISM // อัตราเงินเฟ้อของไทย (มี.ค.)
- 7 เม.ย. ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร สหรัฐ (มี.ค.) และอัตราว่างงานสหรัฐ (มี.ค.)
Investment Strategy
- ประเมิน SET Index ยืนเหนือระดับ 1600 จุดได้มั่นคง มองเป็นโมเมนตัมบวก ระยะสั้นคาดแกว่งตัว sideway up ในกรอบ 1600-1620 ทั้งนี้นในสัดาห์หน้ามีช่วงคาบเกี่ยววันหยุดยาวทั้งของไทยและต่างประเทศอาจเห็นวอลุ่มการชื้อขายยังเบาบาง
- แนะนำ Selective buy กลุ่ม Big cap. ที่ laggard HMPRO CPALL CPN AOT KBANK SCB JMT BDMS กลุ่ม Mid&Small cap ที่น่าสนใจ YONG MEB KJL WARRIX FSMART DPAINT กลุ่ม Election Rally ADVANC KBANK BBL SC SIRI WHA STEC CPALL EA
Global Markets
(+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกโดยได้ปัจจัยหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีทพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลง หลังจากคณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้เสนอมาตรการกำกับดูแลธนาคารขนาดกลางให้มีความเข้มงวดมากขึ้นเพื่อลดความเสี่ยงในระบบธนาคารของสหรัฐ
(+) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดบวกสู่ระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3 สัปดาห์ โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทเอซแอนด์เอ็ม (H&M) ซึ่งเป็นผู้ค้าปลีกรายใหญ่ และความวิตกทีลดลงเกี่ยวกับภาคธนาคารทั่วโลกนั้นได้กระตุ้นตลาดหุ้นนิวยอร์ก ทะยานขึนและช่วยหนุนตลาดหุ้นยุโรปด้วย
(+) สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ปิดพุ่งขึ้นโดย ได้ปัจจัยหนุนจากสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐที่ลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี รวมทั้งข่าวอิรักระงับการส่งออกน้ำมันบางส่วนจากเขตปกครองตนเองเคอร์ดิสถาน ซึ่งปัจจัยดังกล่าวทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่าตลาดน้ำมัน โลกจะเผชิญภาวะอุปทานตึงตัว
(+) สัญญาทองคำตลาด COMEX ปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 ปีในวันพฤหัสบดี (30 มี.ค.) เนื่องจากการอ่อนค่าของดอลลาร์และการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐเป็นปัจจัยหนุนตลาดทองคํา ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PC) ในวันนี้ โดยตัวเลขดังกล่าวจะบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
หุ้นเคาะไป คุยไป..ORI
- ORI ได้รับ Sentiment เชิงบวก จากเราคาดว่า กนง.จะยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อจะชะลอตัวลงเข้าใกล้กรอบเป้าหมายของ ธปท. ส่งผลให้ภาพต้นทุนทางการเงินจะปรับตัวลง ขณะที่ในเชิง Valuation ความน่าสนใจจากราคาปัจจุบันถูกซื้อขายบน PE เพียง 7.7 เท่า เทียบกับค่าเฉลี่ยที่ 8.9 เท่า ขณะที่คาดหวัง Div. yield ที่สูงกว่า 3.7 % ประเมินว่าจะประกาศจ่ายปันผลงวด 2H65 ช่วง เม.ย. ราว 0.45-0.50 บาท/หุ้น
- ขณะที่ภาพอุตสาหกรรมอสังหาฯ ในช่วง 1H66 ยังมีโมเมนตัมบวกตามกําลังชื้อของผู้บริโภคในประเทศที่แข็งแกร่งมากขึ้น หลังอุตสาหกรรมท่องเที่ยวฟื้นตัวเต็มรูปแบบ และการกลับมาของกลุ่มผู้ซื้อชาวต่างชาติที่เริ่มกลับเข้าสู่สภาวะปกติ รวมถึงความคืบหน้าของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะรถไฟฟ้าสายสีเหลืองที่มีกำหนดจะเปิดให้บริการในเดือนเม.ย. นี้ ขณะที่ยังมีข้อเสนอในการทบทวนมาตรการผ่อนปรน LTV ที่อาจจะขยายไปถึงสิ้นปี 67
- ล่าสุดได้ร่วมทุนกับ ภูเก็ตวิลล่า เพื่อพัฒนาคอนโด ดิ ออริจิ้น กะทู้-ป่าตอง ซึ่งเป็นทําเลที่มีศักยภาพมาก ใกล้หาดป่าตอง และสามารถเดินทางเข้าใจกลางเมืองภูเก็ตเพียง 5 นาที เริ่มขายเฟสแรกได้ใน 2Q66 ส่วนงานในมหกรรมบ้านและคอนโด ที่ผ่านมา ORI สามารถสร้างยอดขายแบรนด์ ดิ ออริจิ้น มากถึง 1,500 ยูนิต คิดเป็นมูลค่ากว่า 2 พันล้านบาท จากกลยุทธ์ที่ผลิตภัณฑ์มืหลาย segment, ทําเลที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ศักยภาพ และการจัดโปรโมชั่นที่ร่วมกับพันธมิตรธนาคารหลายแห่ง
- แนวโน้ม 1Q66 คาดว่าจะทำยอดขายได้เกือบ 1 หมื่นล้านบาท จากเป้าทั้งปี 4.5 หมื่นล้านบาท และเป้ารายได้รวมอยู่ที่ 1.9 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นเป้าหมายการเติบโต All Time High ของ ORI