‘สมาร์ทบอร์ดและหลังคา เอสซีจี’ ยกระดับคุณภาพการอยู่อาศัย ดันแบรนด์ครองใจมหาชน คว้ารางวัล 2023 Thailand’s Most Admired Brand
สมาร์ทบอร์ดและหลังคา เอสซีจี มุ่งยกระดับคุณภาพการอยู่อาศัยของผู้บริโภคให้ดียิ่งขึ้นด้วยแนวคิดทั้งตอบโจทย์ ไลฟ์สไตล์และการอยู่สบายด้วยเทคโนโลยี ดีไซน์ที่สวยงามพร้อมตอบโจทย์ฟังก์ชันการใช้งาน หนุนผลสำรวจขึ้นแท่นแบรนด์อันดับ 1 ครองใจมหาชน คว้ารางวัล 2023 Thailand’s Most Admired Brand หมวดวัสดุก่อสร้าง กลุ่มแผ่นฝ้า ผนังและพื้น (ไฟเบอร์ซีเมนต์) และกลุ่มกระเบื้องมุงหลังคา ก้าวต่อไปพร้อมมุ่งมั่นพัฒนาสินค้านวัตกรรมอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อการอยู่อาศัยรูปแบบใหม่ รักษ์โลกอย่างยั่งยืนตามหลัก ESG
อัญชลี ชวนะลิขิกร Head of Housing Product Solution Business และ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามไฟเบอร์ซีเมนต์กรุ๊ป จำกัด และบริษัท เอสซีจี รูฟฟิ่ง จำกัด ในธุรกิจซีเมนต์และวัสดุก่อสร้าง เอสซีจี เปิดเผยว่า บริษัทได้รับรางวัล 2023 Thailand’s Most Admired Brand หลายปีติดต่อกัน ภายใต้การสำรวจความน่าเชื่อถือด้านแบรนด์ของประเทศไทย สะท้อนความสำเร็จในปี 2022 ที่เอสซีจีได้เตรียมความพร้อมในการพัฒนาสินค้าและโซลูชันเพื่อตอบโจทย์เรื่องความสะดวก รวดเร็ว มีมาตรฐาน สอดรับความต้องการของผู้บริโภค โดยในกลุ่มไฟเบอร์ซีเมนต์และกลุ่มกระเบื้องมุงหลังคาได้ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การตลาดอย่างรวดเร็วเพื่อให้เกิดการปรับตัวที่ทันท่วงที เน้น ‘Customer Centric’ เพื่อให้เข้าใจความต้องการของลูกค้าเชิงลึกและมุ่งมั่นแก้ปัญหาอย่างแท้จริง พัฒนาสินค้าและโซลูชันให้ตอบโจทย์ ESG เจาะเป้าหมายกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เลือกใช้สินค้าที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและสังคม กลยุทธ์ดังกล่าวทำให้ลูกค้านึกถึงแบรนด์ SCG ในเรื่องเทรนด์การอยู่อาศัยอย่างสม่ำเสมอ สอดรับพฤติกรรมผู้บริโภคโดยเฉพาะยุคปัจจุบันที่เริ่มให้ความสำคัญกับคุณภาพการอยู่อาศัยในบ้านและสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
‘บ้าน’ จึงไม่ใช่เพียงแค่ที่อยู่อาศัย แต่เป็นพื้นที่ปลอดภัยส่วนตัว พื้นที่สร้างความสุข และทำกิจกรรมต่างๆ ทั้งการทำงาน ออกกำลังกาย พักผ่อน ที่นอกจากจะต้องอยู่สบายแล้ว ยังสามารถดีไซน์ให้สวยงามสะท้อนความเป็นตัวตนของเจ้าของบ้าน โดยเอสซีจี มุ่งเน้นพัฒนาสินค้าและบริการให้ตอบโจทย์ทั้งด้านดีไซน์ที่สวยงามและมีฟังก์ชันตรงตามต้องการ และการนำเทคโนโลยีมาช่วยให้คุณภาพการอยู่อาศัยดีขึ้นและสะดวกสบายยิ่งขึ้น
ดีไซน์ที่สวยงามพร้อมตอบโจทย์ฟังก์ชันการใช้งาน
เมื่อคนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับบ้านมากขึ้น สิ่งหนึ่งที่ผู้อยู่อาศัยมักมองหา คือ บ้านที่สวยและมีฟังก์ชันที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยของตัวเองมากที่สุด โดยเอสซีจี ได้นำเทคโนโลยีมาใช้ในการดีไซน์เพื่อผลิตสินค้าให้ตอบโจทย์ความสวยงามทันสมัย สร้างความเป็นเอกลักษณ์ของผู้อยู่อาศัย และออกแบบให้ตรงกับความต้องการใช้งานของลูกค้าแต่ละกลุ่ม อาทิ ผนังตกแต่ง เอสซีจี รุ่นเฟรทเวิร์ค (SCG Fretwork) ผนังไฟเบอร์ซีเมนต์แบบฉลุลาย ที่มีลวดลายให้เลือกหลากหลาย ซึ่งสามารถนำมามิกซ์แอนด์แมทช์ตอบโจทย์ทั้งดีไซน์และการใช้งาน, ฝ้า สมาร์ทบอร์ด เอสซีจี รุ่น ระบายอากาศ– โพรเทคชั่น เทคโนโลยีสูตรซูเปอร์โมเลกุล สีรองพื้นขาวควันบุหรี่ สามารถทาสีทับได้ทันที ตอบโจทย์เรื่องการทำงานง่าย ติดตั้งได้เร็วขึ้น ช่วยระบายอากาศร้อนจากโถงหลังคา ทำให้บ้านเย็นและยังมีตาข่ายกันแมลงสำเร็จรูปจากโรงงาน, หลังคา เมทัลรูฟ เอสซีจี ด้วยเทคโนโลยี NoiseTECH นวัตกรรมเคลือบสีลดเสียงดังรายแรกในอาเซียน ช่วยลดเสียงฝนตกกระทบบนหลังคาได้ดีกว่าหลังคาเมทัลชีทบุฉนวนทั่วไป สูงสุดถึง 18%, หลังคาเซรามิก เอสซีจี รุ่น Excella Digital Printing ด้วยเทคโนโลยีการพิมพ์ลายด้วยระบบดิจิตอลบนผืนหลังคา ผ่านการเผาด้วยอุณหภูมิ 1,110 องศาเซลเซียส เพื่อให้สีสวยทน ไม่ซีดจาง คงทนยาวนานด้วยคุณสมบัติ ของเซรามิก ล้ำหน้าด้วยดีไซน์ลวดลายธรรมชาติเสมือนจริง
ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และการอยู่สบายด้วยเทคโนโลยี
การสร้างคุณภาพชีวิตและการอยู่อาศัยที่ดีขึ้นด้วยโซลูชันที่ทำให้ชีวิตสะดวกสบายยิ่งขึ้น โดยนำเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการใช้งาน และการใช้แอปพลิเคชันผ่านสมาร์ทโฟนเพื่อควบคุมการทำงานของระบบ อาทิ ระบบหลังคาโซลาร์ นวัตกรรมประหยัดพลังงานมากยิ่งขึ้น ด้วยโซลาร์ระบบ Hybrid สามารถกักเก็บไฟฟ้าไว้ใช้ได้ทั้งกลางวัน กลางคืน และเป็นแหล่งสำรองไฟไว้ใช้กรณีไฟฟ้าดับ ใช้งานง่ายผ่านแอปพลิเคชันที่สามารถควบคุม ตรวจสอบการผลิตไฟฟ้า และค่าไฟฟ้าที่ประหยัดได้อย่างเรียลไทม์ อีกทั้งตอบโจทย์เทรนด์การใช้รถยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นด้วยสินค้าและบริการอย่างเครื่องชาร์จรถไฟฟ้า หรือ EV Charger ทางเลือกของคนรุ่นใหม่, เครื่องเติมอากาศดีSCG Active AIR Quality ช่วยกรองอากาศดีเข้าภายในบ้านและดันอากาศเสียออกนอกตัวบ้าน ทำให้อากาศสะอาดและปลอดภัยจากฝุ่น PM 2.5 เชื้อโรค แบคทีเรีย และไวรัสต่างๆ รวมถึงเติมออกซิเจนเข้าบ้าน ช่วยให้รู้สึกสดชื่นและเพิ่มคุณภาพในการนอนหลับ
SCG Smart Wall Privazy นวัตกรรมระบบผนังกันเสียงที่สามารถกันเสียงได้สูงสุดถึง 66 STC (Sound Transmission Class) ติดตั้งง่ายด้วยระบบแห้งและยังแข็งแรงทนทาน แก้ปัญหาการมีเสียงดังระหว่างห้อง สร้างเป็นส่วนตัว ตอบโจทย์การกั้นห้องในที่ทำงานหรือห้องประชุมสัมมนา เป็นต้น
“ความตั้งใจของแบรนด์ ที่ขาดไม่ได้คือเรื่อง Green Innovation ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่คนรุ่นใหม่ให้ความใส่ใจและกำลังเป็นเทรนด์ไปทั่วโลก เราจึงใส่ใจด้าน ESG และ Net Zero Carbon โดยกระบวนการผลิตของเราจะพยายามทำให้เป็น Zero Waste จากในโรงงาน ทุกอย่างที่เหลือสามารถนำกลับมาใช้ได้หมดโดยไม่เหลือฝังกลบ ทำให้ใช้วัสดุที่มีได้เต็มประสิทธิภาพ ส่วนที่สองคือการใช้พลังงานในการผลิต เราพยายามลดวิธีการใช้พลังงานภายในโรงงาน หันมาใช้พลังงานสะอาดในการผลิตเพิ่มขึ้น และส่วนที่สาม เราตอบโจทย์สินค้าให้ตรงกับผู้ใช้ นอกจากจะสวยงามแล้ว ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานได้เต็มที่ เช่น เทคโนโลยีโคทติ้งที่ช่วยลดพลังงานความร้อน ช่วยสะท้อนความร้อนออก บ้านที่ร้อนอบอ้าวก็จะเย็นลง เราพยายามทำทุกระบบให้เย็นลงทั้งผนัง และหลังคา ซึ่งการทำให้ทุกส่วนของบ้านเย็นลง ช่วยลดการใช้พลังงานที่สิ้นเปลือง ตอบรับการอยู่อาศัยรูปแบบใหม่และเป็นแบรนด์รักษ์โลกตามปณิธาน SCG Passion for Better ที่วางไว้” อัญชลี กล่าวทิ้งท้าย